“ชัยธวัช ตุลาธน” เมิน “ทักษิณ ชินวัตร” ปรามาสศึกนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่พรรคประชาชน สู้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ชี้ผลอยู่ที่ประชาชนเลือก มั่นใจหัวหน้าพรรคไม่ปัญญาอ่อน หลัง “ทักษิณ” เรียก “เท้ง” หนุ่มสึ่งตึง โต้บิดเบือนกล่าวหาพะวง 112 เลยตั้งรัฐบาลไม่ได้ ทั้งที่หลายพรรคการเมืองรวมหัวสกัดพรรคส้ม ลั่นถ้าเป็นรัฐบาล “ทักษิณ” ไม่มีทางกลับมาเท่ๆ
วันที่ 27 เมษายน 2568 นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มาช่วยผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยหาเสียง พร้อมพาดพิงว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนจะสู้ไม่ได้ ว่า ในส่วนของพรรคประชาชนอาจจะคิดต่างจากนายทักษิณ วันนี้ตนยังเชื่อมั่นว่ากระแสที่ได้รับจากประชาชนในเขตเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ยังมีความเชื่อมั่นว่าเราจะชนะ ในวันที่ 11 พฤษภาคม แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์ด้วย เพราะในรอบ 4 ปีก่อน คนออกมาใช้สิทธิ์น้อยสำหรับเทศบาลนครเชียงใหม่คือ 59% แต่ถ้ารอบนี้ออกมาใช้สิทธิ์เท่ากับการเลือกตั้ง อบจ. ก็เชื่อมั่นว่าพรรคประชาชนจะได้รับชัยชนะ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
เมื่อถามว่า อยากจะพูดอะไรแทน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ถูกนายทักษิณ พาดพิงว่าเป็นหนุ่มสึ่งตึง หลังให้พรรคเพื่อไทยไปขอโทษประชาชนก่อนจะมาร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชน พร้อมถามกลับว่าใครจะมาร่วมด้วย นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่สำหรับพรรคประชาชน เป้าหมายหลักคือชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าให้มากที่สุด ถ้ามากพอจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวก็ดีที่สุด แต่ถ้าชนะอันดับ 1 แล้วเสียงไม่พอจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องมาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งตนไม่สามารถพูดแทนผู้บริหารของพรรคประชาชนได้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าหัวหน้าพรรคจะสึ่งตึง หรือภาษาชาวบ้านที่เรียกว่าปัญญาอ่อน ตนยังเชื่อมั่นในวุฒิภาวะและความสามารถของนายณัฐพงษ์ และพรรคประชาชน
...
เมื่อถามว่า นายทักษิณ บอกว่า พรรคประชาชนมัวติดหล่มกับเรื่อง 112 ทำให้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า นายทักษิณอาจจะลืมไป และอาจเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริง จริงๆ มีความพยายามให้เหตุผลเยอะแยะในการจัดตั้งรัฐบาลแบบตระบัตสัตย์ข้ามขั้วของรัฐบาลชุดนี้ เหมือนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เรื่องเสียงไม่พอจัดตั้งรัฐบาลเลยเป็นแบบนี้ ว่าสนับสนุนพรรคก้าวไกลแล้ว แต่พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เอง
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงที่ไม่ได้พูดกันแต่มีนัยยะกับเรื่องทั้งหมดที่นำมาสู่ปัญหาทางการเมืองในตอนนี้ ก็คือนายทักษิณต้องการกลับบ้านแบบเท่ๆ แบบไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว ซึ่งทราบกันดีว่ามีการพูดคุยเจรจาต่อรองมาก่อนเลือกตั้งด้วยซ้ำ พูดคุยกับพรรคที่ทำรัฐประหารมาก่อนหน้าด้วย เพียงแต่ตอนนั้นพรรคเพื่อไทยคิดว่าตัวเองจะชนะแลนด์สไลด์เป็นอันดับ 1 แต่พอผลการเลือกตั้งออกมา พรรคก้าวไกลชนะเป็นอันดับ 1 ก็เลยเกิดความชุลมุน จึงต้องแสดงละครกันไป สุดท้ายเมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมีการรวมหัวกันของหลายพรรคการเมือง เพื่อสกัดไม่ให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ไม่ได้เกี่ยวกับว่ามีเพื่อนหรือไม่มีเพื่อน และเรื่อง 112 ยิ่งไม่เกี่ยวใหญ่ เพราะไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในเอ็มโอยู ตนคิดว่าเรื่องนี้เลิกบิดเบือนได้แล้ว เหตุผลอย่างเดียวคือถ้าก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล และเป็นนายกฯ นายทักษิณคงไม่สามารถกลับบ้านแบบเท่ๆ ได้
นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงประเด็นที่ศาลฎีกาจะมีคำสั่งรับหรือไม่รับเรื่องชั้น 14 ของนายทักษิณ ว่า ตนติดตามข่าวจากสื่อมวลชน ว่า 30 เมษายนนี้ จะมีการพิจารณา ก็รอฟังเรื่องนี้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าเรื่องนี้มันประจักษ์ต่อสายตาประชาชนแล้ว ถามใครก็ได้ว่าประชาชน สังคมทราบดี ว่านายทักษิณไม่ได้ป่วย และมีการใช้กฎหมายอย่างบิดเบือน อภิสิทธิ์ชน เพื่อให้นายทักษิณไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว โดยร่วมมือกันหลายฝ่ายทั้งข้าราชการ นักการเมือง ข้อเท็จจริงมันจริงอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าสังคมก็พยายามที่จะใช้ช่องทางกฎหมายตรวจสอบเรื่องนี้เท่าที่จะทำได้