“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ปราศรัยหาเสียงเทศบาลเชียงใหม่ ขอโอกาสให้พรรคประชาชนได้ปักธง บอกชาวบ้านอย่าไปหลงวาทกรรมโวหาร ใครจะว่าเรา “สึ่งตึ้ง” ก็ให้เขาว่าไป ย้ำจุดยืน ปชน. เหมือนเดิม จะจับมือพรรคไหน ต้องยุติวงจรรัฐประหาร-ปฏิรูปกองทัพ-แก้รัฐธรรมนูญ


วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ที่หน้าหอพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน พร้อมด้วย สส.เชียงใหม่ของพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ให้กับ นายธีรวุฒิ แก้วฟอง หรือ เหมา ผู้สมัครจากพรรคประชาชน เบอร์ 2 โดยมีพี่น้องประชาชนเข้ามาร่วมรับฟังอย่างคับคั่งและอบอุ่น

นายพิธากล่าวว่า การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมนี้มีความสำคัญยิ่ง และสำหรับเทศบาลนครเชียงใหม่มีความเป็นไปได้อย่างมากสำหรับพรรคประชาชน เพราะถ้าพี่น้องชาวเทศบาลนครเชียงใหม่ออกมาเลือกพรรคประชาชนให้ได้เท่ากับการเลือกพรรคก้าวไกลในปี 2566 หรือแม้กระทั่งเท่ากับการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราได้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ชื่อ “เหมา ธีรวุฒิ แก้วฟอง” แน่นอน

...

เทศบาลนครเชียงใหม่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 40 ตารางกิโลเมตร แต่ได้รับงบประมาณปีละกว่า 2,000 ล้านบาท เกือบเท่ากับ อบจ.เชียงใหม่ทั้งจังหวัด จึงเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญมาก ตนขอให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันมากๆ อย่าเพิ่งเบื่อหน่ายการเมือง “เหมา ธีรวุฒิ” คือเพื่อนรักของตน เป็นคนที่ทุ่มเททำงานมาก หากทุกคนดูในแผ่นพับจะเห็นว่านโยบายของเหมาลงลึกในระดับแขวง ทั้ง 4 แขวงของเทศบาลนครเชียงใหม่มีนโยบายที่เฉพาะเจาะจง เช่น แขวงนครพิงค์เน้นการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ แขวงศรีวิชัยเน้นการแก้ปัญหาฝุ่นพิษด้วยนโยบายระเบียงสีเขียว (Green Corridor) แขวงเม็งรายซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำ เน้นแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และแขวงกาวิละเน้นนโยบายยกระดับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ถือเป็นผู้สมัครที่มีนโยบายครบถ้วนมาก พร้อมทำให้ 40 ตารางกิโลเมตรเป็นเมืองที่น่าอยู่ทั้งคนในและคนนอก

“ขอโอกาสให้พรรคประชาชนปักธงใจกลางเมืองเชียงใหม่ 11 พฤษภาคมนี้เลือก ‘เหมา ธีรวุฒิ แก้วฟอง’ เบอร์ 2 พร้อม ‘ดูแลคนใน ใส่ใจคนนอก’ ทั้งคนเชียงใหม่ที่อยู่ที่นี่ และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว เหมาพร้อมรับเหมาหมดครับ” นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าวด้วยว่า ในการหาเสียงเลือกตั้งเทศบาลเราควรพูดถึงนโยบายของท้องถิ่น อย่าไปหลงวาทกรรมโวหาร ใครจะว่าเราสึ่งตึงก็ให้เขาว่าไป ประชาชนจะตัดสินเองว่าใครเป็นยังไง อย่าเสียสมาธิไปกับเรื่องพวกนี้เป็นอันขาด อย่าไปตกหลุมพรางของฝ่ายตรงข้ามที่จะพูดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายในพื้นที่ 40 ตารางกิโลเมตรนี้

ส่วนคำถามที่ว่าพรรคประชาชนจะร่วมรัฐบาลกับใครได้บ้างนั้น นายพิธากล่าวว่า พรรคประชาชนมีอุดมการณ์ที่ชัดเจนมาโดยตลอดตั้งแต่อนาคตใหม่และก้าวไกล ไม่เคยเปลี่ยนจุดยืน การจะจับมือกับพรรคไหนเราดูที่ “อะไร” ไม่ได้ดูที่ว่าเป็น “ใคร” เราต้องเอาวาระของประชาชนเป็นตัวตั้ง ใครเห็นด้วยกับการยุติวงจรรัฐประหาร แก้รัฐธรรมนูญ หรือปฏิรูปกองทัพ เราก็เป็นพวกเดียวกันได้ 

“จุดยืนของพวกเรายังเหมือนเดิม คุณกลับไปถามพรรคของคุณเถอะว่าคราวหน้าจะทำยังไง พรรคคุณจะทำอะไร พรรคเราเน้นอุดมการณ์ในการทำงานบริหารให้กับพี่น้องประชาชน” พิธากล่าว

นายพิธา กล่าวทิ้งท้ายว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คือเดิมพันของพี่น้องชาวเชียงใหม่ทุกคน ที่เรามีโอกาสจะชนะ มีโอกาสที่จะปักธงอย่างแม่นยำ ขอให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นกระดุมเม็ดแรกในการสู้ต่อไป เพื่อให้พรรคประชาชนเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดในการเลือกตั้งปี 2570