เลือกตั้งเทศบาล 2568 “พิธา - ศิริกัญญา” ร่วมปราศรัยช่วย “คณิศร” สู้ศึกชิงนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี ขอแรงประชาชนสร้างบันไดสามขั้น ออกไปเลือกให้มากที่สุด จับตาซื้อเสียง เชื่อคนอุดรฯ มีศักดิ์ศรีมากพอ
วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ที่ลานหลังพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี พรรคประชาชนจัดเวทีปราศรัยสำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี และสมาชิกสภาเทศบาลนคร (สท.) อุดรธานี ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง นายคณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี หมายเลข 3 โดยเวทีดังกล่าว นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ร่วมปราศรัยและพบปะประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ทุกวันนี้ไปเดินตลาด พ่อค้าแม่ขายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจเงียบ รัฐบาลหลังจากแจกเงินหมื่นเขาบอกว่าจะทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งถ้าจะทำต้องฟังเสียงประชาชน คนอุดรฯ จะได้ประโยชน์หรือไม่ เศรษฐกิจอุดรฯ จะดีขึ้นอย่างไร รัฐบาลจะดันเรื่องนี้ทั้งที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้จะเกิดขึ้นภายใน 1-2 ปี แต่ต้องรออีก 4-5 ปี ถ้าต้องรอให้เศรษฐกิจดีขึ้นเพราะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะกาสิโน เราจะรอไหวหรือไม่
...
ทั้งนี้ ต้องมาดูนโยบายของนายกเทศมนตรี วันนี้งบประมาณของเทศบาลนครอุดรธานี 1,670 ล้านบาท เอาไปทำเรื่องการค้าขายเศรษฐกิจการพาณิชย์แค่ 3.6 ล้านบาท แบบนี้เศรษฐกิจอุดรฯ จะดีขึ้นได้อย่างไร นายคณิศร จะเพิ่มงบส่วนนี้เพื่อทำให้เศรษฐกิจอุดรฯ ดีขึ้น ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจจะเงียบและซึมลงไปเรื่อยๆ และพี่น้องต้องไม่ให้เขาทำงานอย่างเดียวดาย ต้องเลือกผู้สมัคร สท.ของพรรคประชาชนยกทีม เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้
“ผู้สมัครคนอื่นไม่มีใครลงสมัครในนามพรรคการเมือง พรรคประชาชนส่งคณิศรเพียงคนเดียวเท่านั้น แสดงว่าพรรคคัดมาแล้วเป็นอย่างดี ถ้าได้รับเลือกตั้ง พรรคประชาชนทั้งแกนนำและอดีตแกนนำจะมาช่วยทำงาน ยกตัวอย่าง อบจ.ลำพูน ภายใน 2 เดือน สามารถส่งมอบหลายนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์อีวีที่จะเริ่มทดลองเดินรถในบริเวณที่วิ่งผ่านหลายโรงเรียนในเขตเมืองลำพูน น้ำประปาดื่มได้ที่จะเริ่มใน 2 ตำบล นอกจากนี้ แผ่นพับนโยบายที่พี่น้องมีในมือวันนี้ขอให้เก็บไว้ แล้วเอามาตรวจการบ้านว่าผู้สมัครของเราได้ทำตามที่เคยสัญญาหรือไม่ พรรคประชาชนเราจะช่วยตรวจสอบด้วย”
ทางด้าน นายพิธา ระบุว่า ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ครั้งที่แล้ว ชาวอุดรธานีได้ให้คะแนน นายคณิศร มาทั้งหมด 270,000 คะแนน ชาวอุดรธานีในเทศบาลนครอุดรธานีให้มา 21,000 คะแนน ถ้าชาวอุดรฯ ยังเชื่อในการเลือกตั้งเหมือนเดิม ออกมาใช้สิทธิใช้เสียง ไม่ต้องเอาให้ถึงตอนก้าวไกล เอาแค่เท่า อบจ. นายกเทศมนตรีคนต่อไปชื่อคณิศรแน่นอน แต่เรื่องแบบนี้ก็ประมาทไม่ได้ จึงขอแรงชาวอุดรธานีช่วยกันทำบันได 3 ขั้น เพื่อส่งนายคณิศร เป็นนายกเทศมนตรีนครอุดรธานีคนต่อไป
บันไดขั้นแรก คนที่เป็นส้มขาประจำที่เลือกกันมาตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล และเลือกนายคณิศร ตอนเป็น อบจ. ต้องออกไปใช้สิทธิอย่างพร้อมเพรียงกัน อีกครึ่งหนึ่งคือขาจรที่อาจไม่ได้อยู่ในพื้นที่เมื่อครั้งเลือกตั้ง อบจ. คราวก่อนที่เป็นวันเสาร์ ทั้งลูกหลานและคนที่ต้องออกไปทำงานนอกอุดรธานี ช่วยกลับบ้านมาวันวิสาขบูชา ทำบุญตอนเช้าแล้วเข้าคูหากาเบอร์ 3 ต่อ
บันไดขั้นที่ 2 รบกวนสมาชิกพรรคและชาวส้มช่วยกันบอกวิสัยทัศน์ของนายคณิศรที่เรียบง่าย ตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้วที่เพลง “ซาอุดร” ของคาราบาวกำลังดังจนถึงวันนี้ ชาวอุดรธานีมีแรงงานที่ไปขายแรงอยู่ต่างประเทศทุกที่ ตนไปที่ไหนก็เจอคนอุดรธานีเต็มไปหมด เพราะอยู่ที่บ้านไม่มีงานทำ ทำงานได้เงินเดือนก็ส่งกลับมาที่อุดรธานี นานๆ จะได้เจอครอบครัวที นายคณิศรบอกว่าอยากให้อุดรธานีเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับคนทุกคน ให้ทุกคนได้กลับมาทำงานที่อุดรธานีบ้านเรา ลูกหลานมีโรงเรียนที่ดี พ่อแม่มีระบบสาธารณสุขที่ดีดูแล ความฝันและวิสัยทัศน์ของคณิศรเรียบง่ายแค่นี้
บันไดขั้นที่ 3 แม้คำนวณกันแล้วในพื้นที่ 46 ตารางกิโลเมตร นายคณิศร เจอประชาชน เดินมาตลอดแต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ เห็นว่ามีสมุดรายการแจกเงินซื้อเสียงตกอยู่ที่เชียงใหม่ จะมีที่อุดรธานีด้วยหรือไม่ ชาวอุดรธานีต้องช่วยกันเป็นตาสับปะรดสอดส่อง เงินที่เขาให้มา 1,000-2,000 บาท แลกกับเวลา 4 ปี คำนวณแล้วเท่ากับพวกเขาให้ค่าพวกเราแค่คนละ 70 สตางค์ต่อวันเท่านั้น ตนเชื่อว่าคนอุดรธานีมีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ให้เขาดูถูกเรา ถ้าทำได้ตามทั้ง 3 ขั้นนี้ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานีคนต่อไปชื่อคณิศรแน่นอน.