กลายเป็นคนที่มาก่อนกาลอีกครั้ง หลังจากสัปดาห์ก่อนเขียนไปตามข้อมูลที่ได้มาจากผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่า รัฐบาลนายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร จำเป็นต้องเลื่อน หรือยุติโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ (ENC) ซึ่งมีกาสิโนรวมอยู่ในนั้นด้วย 10% ออกไป เพราะมีคนค้านเยอะ แล้วหันไปทำโครงการอื่นซึ่งถือเป็นการลงทุนโดยรัฐบาล เช่น โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ อย่างการก่อสร้างระบบชลประทานเพื่อป้องกันปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม และส่งผลให้เกษตรกรมีระบบชลประทานเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 25% ของพื้นที่การเกษตร เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 25% หรือเท่ากับ 50% ของพื้นที่การเกษตร

ขณะเดียวกันก็เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ขึ้นในประเทศมากกว่า 300,000 คนในทุกๆ 1 ล้านล้านบาทที่รัฐลงทุนไป สำคัญคือ ถ้ารัฐบาลต้องควักกระเป๋าลงทุนเอง ก็จำเป็นต้องขยายเพดานหนี้จากที่ขยายไว้เดิม 70% ปัจจุบันใช้ไปแล้ว 64% เพิ่มขึ้นอีก 10% ให้เป็นการก่อหนี้ได้ไม่เกิน 80% ของจีดีพี รัฐบาลก็จะมีเงินมีสภาพคล่องเพียงพอจะนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ที่ยังขาดอยู่อีกมาก เพราะรัฐบาลไม่ได้ลงทุนมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเรื่องของระบบการศึกษา และการสร้างทักษะให้กับคนไทยในประเทศ

แต่โดยเหตุที่บรรดา สส.ของรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ได้รับคำบอกกล่าวจากประชาชนในแต่ละพื้นที่ว่า เขาสนับสนุนให้เกิดเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ เพื่อจะได้เกิดการสร้างงาน สร้างเงินแก่ผู้คนในท้องถิ่นต่างๆ

นายกฯ แพทองธาร จึงนำเรื่องนี้กลับมาหารือกันในรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อขอรับการสนับสนุนจากพรรคร่วม และรัฐสภา เพราะเป็นโครงการที่รัฐบาลไทยไม่ได้ใช้เงินงบประมาณของรัฐ หากแต่เป็นการเปิดกว้างให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน เช่นเดียวกับโครงการแลนด์บริดจ์ ที่เปิดให้นักลงทุนต่างชาติเสนอเงื่อนไขการลงทุนเข้ามา

...

เนื่องจากปัจจุบัน โลกเกิดปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitic) และความขัดแย้งกันทั้งในทางการเมือง และการค้า การย่นย่อระยะทางสำหรับการเดินเรือขนส่งสินค้า จึงมีความจำเป็นมากขึ้น ยิ่งเมื่อเทคโนโลยีการก่อสร้างท่าเทียบเรือ และการขนส่งสินค้า มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ในขณะที่โลกต่างก็ต้องการเส้นทางการเดินเรือใหม่ๆ ที่ย่นย่อการเดินทางให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ข้อเสนอโครงการแลนด์บริดจ์ของรัฐบาลไทยก็ยิ่งมีผู้ให้ความสนใจจะเข้ามาลงทุน โดยที่รัฐบาลไทยไม่ต้องเสียงบประมาณเอง

รัฐบาลจึงได้ข้อสรุปว่า ยังต้องเก็บสองโครงการนี้ไว้เพื่อเสนอขายแก่ธุรกิจต่างชาติต่อไป โดยเฉพาะถ้าจะนำ 2 โครงการอภิมหาโปรเจ็คท์ยักษ์นี้ เข้าไปเสนอในการเจรจาเพื่อหาทางออกเรื่อง “ภาษีทรัมป์” ด้วย

ส่วนการขยายเพดานหนี้สาธารณะ ยังต้องหารือกับที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกอีกครั้งหลังจากกระทรวงการคลังเสนอมา พร้อมให้ตัดรายจ่ายด้านการแจกเงินหมื่นจากกระเป๋าดิจิทัลวอลเล็ตออกไปก่อน

เอาเรื่องเก่ากลับมาย้ำอีกที ก็เพราะรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ยังไม่นิ่ง นั่นเอง