กมธ.ป.ป.ช. ไล่สอบจัดซื้อจัดจ้างตึก สตง. คาใจลดราคางาน 300 ล้านเปลี่ยนวัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ ถาม อดีต ผู้ว่าฯ สตง.ทำไมยังจ้างบริษัทก่อสร้างที่มีข่าวไม่น่าเชื่อถือ

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 14 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยก่อนประชุม กมธ.ว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แห่งใหม่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ต่อเนื่องจากครั้งก่อน วันนี้ได้เชิญตัวแทนกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างว่าถูกต้องและเป็นไปตามข้อกฎหมายหรือไม่ หรือ เป็นการฮั้ว และเชิญตัวแทนกรมสรรพากรมาชี้แจงเกี่ยวกับการต่อภาษีของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งนายพิมล เจริญยิ่ง ผู้รับรองแบบอาคาร สตง.ที่มีอายุ 85 ปี และวิศวกรผู้ควบคุมงาน

นายฉลาด กล่าวว่า จะหาข้อเท็จจริงว่า เป็นอย่างไร เพราะทราบจากเจ้าหน้าที่ สตง.ว่า คนเหล่านี้ยังทำงานอยู่ที่บริษัทเดิม ส่วนเรื่องเหล็กเป็นกระบวนการตรวจสอบของกระทรวงอุตสาหกรรม เบื้องต้นมีการนำเหล็กและปูนไปทดสอบนั้น ขณะทดสอบผ่านแน่นอน เพราะเอาวัสดุที่มีคุณภาพไปตรวจสอบ แต่ขณะก่อสร้างจริง ไม่แน่ใจว่า เอาเหล็กกลุ่มที่ผ่านการทดสอบไปก่อสร้างหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ส่อว่ามีการลดราคางาน 300 ล้านบาท ,มีการควบคุมงานและเอาจริงเอาจังหรือไม่,การควบคุมคุณภาพการประกอบมีคุณภาพหรือไม่ ซึ่งความเชื่อถือของบริษัทที่ก่อสร้างมีข่าวจากต่างประเทศว่า การก่อสร้างไม่มั่นคง ไม่น่าเชื่อถือต่อต่างชาติ ฉะนั้นคนไทย จะเชื่อถือได้อย่างไร เป็นสิ่งที่น่าห่วง

เรียก อดีตผุ้ว่าฯสตง.แจง

...

นายฉลาด กล่าวต่อว่า ผู้ว่าฯสตง.คนปัจจุบัน บังเอิญเป็นผู้มารับช่วงต่อหลังจากที่ประกวดราคาแล้ว แต่ผู้ว่า สตง. ที่ทำการประกวดราคา ยังไม่พูดเรื่องนี้สักคำ เพราะเป็นผู้มีหน้าที่บริหารสัญญาเป็นงวดๆให้เขา เบิกเงินไปได้อย่างไร มีการควบคุมเป็นไปตามหลักวิชาการหรือไม่ และมีการรับรองจากวิศวกรที่ควบคุมงานหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ กมธ.จึงกำลังติดต่อให้มาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ

สอบฮั้วเลือก สว. นัดแรก 15 พค.

นอกจากนี้ นายฉลาด ยังกล่าวถึง การประชุม กมธ.ฯ ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ว่า จะมีการพิจารณาเรื่องฮั้วเลือก สว. เนื่องจาก สว.สำรองมาร้องเรียนต่อ กมธ.ฯ นานแล้ว เมื่อรับเรื่องแล้ว กมธ.ฯได้ศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ก็เดินหน้าในการสอบสวนไป และในส่วนของกมธ.ฯได้เชิญผู้ร้องคือ สว.สำรอง มาให้ข้อมูล ซึ่งทราบว่า สว.สำรองจะมากันจำนวนมาก โดยกมธ.ฯจะฟังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่ปรากฎตามสื่อ และข้อมูลจากผู้ร้องทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งยังถูกข่มขู่และฮั้วว่า มีข้อเท็จจริงอย่างไร รวมทั้งรองเลขาธิการ กกต.ที่ทำหนังสือเชิญสว. จะเดินทางมาให้ข้อเท็จจริงด้วย