ประธานสภาฯ ชี้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เคยมีมาแล้วหลายยุค ยันสภาฯ เดินหน้าต่อได้ ย้ำ นิติบัญญัติไม่ก้าวก่ายฝ่ายบริหาร แก้ปมพิพาทไทย-กัมพูชา เผยรายชื่อคนนอกแคนดิเดตนายกฯ ไม่มีสิทธิ์เป็นนายกฯ ย้ำ “บิ๊กป้อม” ชื่ออยู่ในลิสต์เดิม สส.เลือกได้ เปิดประชุมสภา 3 ก.ค. เตรียมเลือกรองประธานสภาคนที่ 2
วันที่ 20 มิ.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองการปรับพรรคร่วมรัฐบาลว่า การเมืองเปลี่ยนไปตามวาระของการเมือง แต่สภามีหน้าที่ในการจัดการประชุมให้เกิดความสงบเรียบร้อย ตนคิดว่าคงเปลี่ยนแปลงในส่วนของรัฐบาล ส่วนสภาก็ดำเนินการไปตามปกติ สำหรับสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะทำให้การทำงานในสภาลำบากขึ้นหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าสภาเคยผ่านมาหลายยุคสมัย ทั้งยุคเสียงข้างมากค่อนข้างเด็ดขาด และยุคเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งก็มีปัญหาทั้งนั้น แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร สภาไม่เข้าไปก้าวก่ายกับฝ่ายบริหาร
เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่า อายุรัฐบาลหรือสภาอาจจะสั้น ไม่เกินปีนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เข้ามาบริหารประเทศ ทางสภาก็บริหารตามบทบาทหน้าที่ของสภาเท่านั้น เมื่อถามว่าจะมีคำแนะนำให้นายกรัฐมนตรีในประเด็นปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ฝ่ายนิติบัญญัติและประธานสภาไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายเรื่องการบริหารของรัฐบาลได้ เพราะต้องฟังเสียงประชาชนเพื่อที่จะรักษาอธิปไตยของประเทศ ฝ่ายที่ดูแลด้านความมั่นคงของประเทศ รวมถึงรัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เมื่อถามย้ำว่าปัญหาไทย-กัมพูชาจะนำเข้าหารือในที่ประชุมสภาหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ยังไม่สามารถที่จะนำมาหารือในสภาได้ ดังนั้นช่วงเปิดสมัยประชุม 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป คิดว่าประเด็นต่างๆ รวมทั้งปัญหาในประเทศและปัญหาระหว่างประเทศ คงมีสส.ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้สภาอภิปราย จึงต้องรอให้เปิดสมัยประชุมสามัญก่อน ส่วนการจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญนั้น เป็นอำนาจของรัฐบาล เช่นเดียวกับการเลือกบุคคลมาทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ว่างต้องรอให้เปิดสมัยประชุมสภาก่อน ส่วนจะเป็นโควตาของพรรคลำดับ 2 ของฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ เป็นเรื่องภายในวิปพรรคร่วมรัฐบาล
...
เมื่อถามว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านยังเปิดได้อยู่หรือไม่ ในสมัยการประชุมสภาสมัยหน้า นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวยืนยันว่าสามารถทำได้ ส่วนถ้าจะต้องมีการต้องเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเดิมของพรรคการเมืองที่เคยเสนอ กกต.ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องเอาชื่อนั้นมาเสนอ แต่ถ้ามีการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป สส.จะมีสิทธิ์เลือก สว. ไม่สามารถเลือกนายกฯ ได้ เพราะมาตรา 272 รัฐธรรมนูญที่ให้ สว. ร่วมเลือกนายกฯ ได้หมดวาระ 5 ปีไปแล้ว ส่วนกรณีพรรคพลังประชารัฐที่มีจำนวนสส. ลดลงไม่ถึง 25 คน รายชื่อบัญชีแคนดิเดตเดิมที่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังอยู่ในลิสต์รายชื่อได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ได้ หากมีรายชื่อที่ให้ไว้กับกกต. ก่อนเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็เสนอให้สภาโหวตได้ ทั้งนี้ไม่สามารถเสนอรายชื่อคนนอกบัญชีแคนดิเดตขึ้นเป็นนายกฯ ได้ ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ก่อนเลือกตั้งเราใช้บัญชีรายชื่อนี้เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่า ถ้าเลือกพรรคนั้น คนนั้นจะเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นต้องให้ความเคารพความคิดเห็นของประชาชน เพราะบทบัญญัติข้อนี้ไม่ได้ยกเลิกไป ยังใช้บัญชีเดิมซึ่งยังมีอยู่หลายคน