วันนี้ (4 ก.ค.) ครม.ชุดใหม่เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ ปรับ ครม.งวดนี้มีรัฐมนตรีใหม่เช็กอิน 8 คน แต่ที่ใหม่ป้ายแดงจริงๆ มี 5 คน ใครเป็นใครบ้างไม่ต้องจาระไนให้ยืดยาว

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการปรับ ครม.ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน “นิติสงคราม” กำลังโหมกระหน่ำรัฐบาลจนสะบักสะบอม

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดนศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เซ่นคดีคลิปหลุดฮุน เซน

แถมสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่มีโอกาสโดนคว่ำกลางสภาฯได้ตลอดเวลา!!

เป้าหมายการปรับ ครม.ใหม่ เพื่อประคองรัฐบาลให้ผ่าน “ช่วง 3 เดือนอันตราย” ไปก่อนเท่านั้นเอง

โฉมหน้า ครม.ใหม่จึงไม่ได้จุดประกายความหวังว่ารัฐบาลจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแก้ปัญหาประชาชนให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

“แม่ลูกจันทร์” มองโผ ครม.ใหม่ไม่ได้ดีกว่า ครม.ชุดเดิมที่มีพรรคภูมิใจไทย

แต่ก็ไม่แย่กว่า ครม.ชุดเดิมที่มีพรรคภูมิใจไทย

เพราะกระทรวงสำคัญส่วนใหญ่ ยังเป็นรัฐมนตรีคนเก่าหน้าเดิม

การโยก นายภูมิธรรม เวชยชัย มาคุมกระทรวงมหาดไทย แทน นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะทำให้การขับเคลื่อนงานรัฐบาลไม่แยกเป็นสองป้อมค่ายอย่างที่ผ่านมา

การปล่อยให้โควตา รมว.กลาโหม ฟันหลอชั่วคราว 3 เดือน เพื่อรอให้ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด มาเสียบแทน ก็ยังมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กำกับดูแลกองทัพเต็มตัว

“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าการโยก “ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” จาก รมว.เกษตรฯมาเป็น รมว.ศึกษาฯ ถือว่าเหมาะกว่า “พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ” แน่นอน!!

การดัน “นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็น รมว.แรงงานป้ายแดง อาจได้เนื้อได้หนังกว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีต รมว.แรงงาน

...

แต่ “แม่ลูกจันทร์” ไม่เห็นด้วยที่นายกฯแพทองธาร ควบเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม เพื่อแก้เกมศาลรัฐธรรมนูญ

ไม่เห็นด้วยที่ปรับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งกำลังบุกขยายตลาดสินค้าไทยสุดลิ่มทิ่มประตู เพื่อเปิดโควตาพิเศษให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เสียบแทน

แต่ “แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง นายกฯแพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดี

จะส่งผลให้การทำงานรัฐบาลชะงักงันอย่างแน่นอน!!

แม้จะมีรองนายกฯรักษาการฯ แต่การขับเคลื่อนงานจะไม่เต็มสูบเท่าเดิม

โดยเฉพาะการเร่งกวาดล้างยาเสพติดที่กำลังเดินหน้าไปได้อย่างดี

ยิ่งกว่านั้น การที่รัฐบาลมีสถานะง่อนแง่น อนาคตไม่ชัดเจน บรรดาข้าราชการเขี้ยวลากดินจะใส่เกียร์ว่างกันสะบึมส์

ข้อสำคัญ ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ และวิกฤติภาษีทรัมป์ซ้ำเติม

วิกฤติขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยังตึงเครียด และมีแนวโน้มจะบานปลาย

หากศาลรัฐธรรมนูญจะเร่งรัดพิจารณาคดีให้เร็วขึ้น ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศ ชาติและประชาชน

ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินอย่างไร กรุณารีบปิดจ๊อบเร็วๆ

“อิ๊งค์” จะอยู่? หรือไป? ก็ให้ชัดๆ ไปเลย!!

การเมืองจะได้มีทางเดินต่อไปได้ ไม่ต้องแช่เกียร์ว่างนานๆ

สรุปชัดๆ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาพิจารณาคดีนี้ไม่เกิน 30 วัน

หรือช้าที่สุดไม่เกิน 45 วัน

จะเยี่ยมมากนะคุณโยม.

"แม่ลูกจันทร์"

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม