“ภูมิธรรม” กร้าว หากเจอปัญหายาเสพติดพร้อมสั่งย้าย ลั่น ประชาชนรู้ ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่รู้ ตั้งข้อสังเกตอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เตรียมลงพื้นที่ไม่แจ้งล่วงหน้า
เมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทย” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นทีบี ถึงความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ว่า ขอเท้าความไปถึงสมัย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นที่ประจักษ์ว่าประสบความสำเร็จ แต่หลังจากนั้นปัญหาล่วงเลยมาเยอะ รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้ามาเน้นย้ำว่ายาเสพติดเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ กำลังคนส่วนใหญ่ไม่สามารถเป็นทรัพยากรที่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ได้ โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้จัดการ กลไกทั้งหมดอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย แต่พบว่ายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร จนตัดสินใจให้ตนมาอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ก็หวังว่าจะใช้กลไกกระทรวงมหาดไทยในการแก้ปัญหา
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่าปัญหายาเสพติดนำมาซึ่งคอร์รัปชัน จะวางมาตรการเข้มข้นอย่างไร นายภูมิธรรม ตอบว่าประชาชนเขารู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน ที่ตนได้ยินมาคือข้าราชการตั้งแต่สารวัตรบ้าง ปลัดอำเภอบ้าง หรือเลยไปถึงระดับผู้ใหญ่ ระดับผู้การจังหวัดบ้าง ผู้ว่าราชการจังหวัดบ้าง บางทีคนนั้นช่วยส่งเสริมให้ยาเสพติดเข้ามา ส่วนคนที่ดีพยายามสกัดกั้น บางคนไปเปิดด่านปล่อยให้มันข้ามด่านมา รู้อยู่แก่ใจ แต่เมื่อได้ผลประโยชน์ก็ไม่ทำ ตนอยากให้เลิก ประชาชนบอกว่าเขารู้ทำไมนายอำเภอ ผู้กำกับ ผู้ว่าฯ ผู้การไม่รู้ เกือบทุกจังหวัดพูดคล้ายกันหมด แสดงว่าเป็นปัญหา
“จากนี้ผมเอาจริง ถ้าไปเจอแล้วมีปัญหาอยู่ ก่อนอื่นย้ายออกนอกพื้นที่ก่อน อันนี้พูดจริง เร็วๆ นี้ถ้ายังมีอย่างนี้อยู่ต้องได้เห็น ผมสั่งย้ายเลย จากนี้ไปถ้าเข้าไปแล้วเฉื่อยชา ปล่อยปละละเลย หรือมีส่วนร่วมในการสนับสนุน เราจะใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เชื่อว่าจะดีขึ้นเยอะ เพราะทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่สิ่งที่เกินเลย”
...
นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า ขอให้เอาจริงเอาจัง ไม่ต้องมองเห็นหน้าใคร ถ้าหลายจังหวัดมีปัญหา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคต้องรับผิดชอบ ถ้ามีหลายกองบัญชาการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต้องรับผิดชอบ รวมถึงทางฝ่ายปกครอง ปลัดกระทรวงมหาดไทยต้องรับผิดชอบ เราให้ความสำคัญกับชายแดน ขณะนี้เราอนุมัติให้ติดอุปกรณ์ต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ ตนขอความร่วมมือทุกส่วน ปัญหายาเสพติดมันแก้ไม่ได้ด้วยคนคนใดคนหนึ่ง มันต้องแก้ทุกส่วน ยิ่งการบูรณาการยิ่งเป็นการเสริมอำนาจ ประชาชนจะเป็นส่วนสำคัญในการที่จะบอก ตนเอาจริง เปิดให้ทุกระดับมีช่องทางในการแจ้งเบาะแสมายังตัวรัฐมนตรีเลยก็ได้ กระทรวงมหาดไทยมีหน่วยรับเรื่องนี้
ถ้าเอาจริงประชาชนยินดีจะบอก ประชาชนบอกว่ามี เขารู้ แต่ทำไมผู้กำกับ นายอำเภอ ผู้ว่าฯ ผู้การไม่รู้ แสดงว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้องด้วย เรื่องนี้เราจึงมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ คนไหนมีส่วนเวลานี้เรามีตัวเลขอยู่บ้างแล้ว ให้นโยบายไปชัดเจนแล้ว ถ้าพบว่าตรงไหนยังมีปัญหาเราจะใช้ทั้งกำปั้นเหล็กและถุงมือกำมะหยี่ ถุงมือกำมะหยี่คือทำดีได้คุณ กำปั้นเหล็กคือคุณละเลย คุณมีปัญหาเราทุบ ตนจะลงพื้นที่ให้ได้ตลอด ไม่บอกว่าจะออกตอนไหน ถ้าดีจริงไปตอนไหนก็ต้องของดี ถ้าไปเจอดีส่งเสริมให้มีบทบาทมากขึ้น แต่ถ้าไปถึงแล้วมีปัญหาย้ายเลย เพราะเรื่องนี้เป็นวาระชาติ จึงอยากให้ทุกคนเอาจริงเอาจัง
เมื่อถามอีกการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเฟส 3 จะเข้มข้นหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่าเข้มข้นขึ้นแน่นอน เมื่อเข้าสู่เฟส 3 จะปิดโครงการขั้นต้น ตนถือเป็นนโยบายหลักที่มาอยู่มหาดไทย ตัวเลขสำคัญ แต่ตอบไม่ได้ทั้งหมด ความรู้สึกประชาชนว่าเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยแค่ไหนอันนั้นสำคัญที่สุด สัปดาห์ก่อนตนได้พบทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยและ ผบ.ตร. ได้บอกว่าขอโทษที่กล่าวอ้างถึง แต่ก็บอกว่าเอาจริง ถ้าไปถึงท่านก็ขออนุญาตดำเนินการจริงจัง เป็นการบอกกันล่วงหน้า และอยากบอกไปยังประชาชนทุกระดับว่าหัวใจสำคัญที่สุดคือการข่าว คือสายตาประชาชนที่มีทุกที่ ถ้ามีการแจ้งข่าวมาเรามีกลไกทั้งทหารและตำรวจบริเวณชายแดนที่คอยสกัดกั้น
พร้อมย้ำในช่วงท้ายว่า ขอฝากให้ซีลชายแดนทั้งหมดให้เกิดประโยชน์ที่สุด และขอฝากประชาชนว่าท่านเป็นคนสำคัญที่สุดที่จะสามารถตรวจสอบยาเสพติดในส่วนที่ท่านสัมผัสว่าดีขึ้นหรือยัง หรือเป็นผักชีโรยหน้า ตนปวารณาตัวจะทำเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อยากให้เห็นผล อาจไม่จบลงง่ายๆ แต่จะลดลงและพัฒนาไปถึงการหยุดการกระทำที่ทำให้เกิดปัญหากับสังคม วันนี้เราเอาจริงจะไปดูถึงที่ ไม่สั่งการจากกรุงเทพฯ อย่างเดียว ถ้าเจอว่ายังกล้าฝืน จะทำให้เห็นว่าความจริงจังของกลไกราชการปัจจุบันมันเข้มข้น.