“นิพนธ์” เปิดบ้าน “เขารูปช้าง” ทำบุญวันเกิดครบ 67 ปี สานต่อแนวคิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ “เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน” ประกาศตั้งใจทำสงขลาให้เป็นเมืองที่น่าอยู่


วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ที่บ้านเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 8 สมัย จัดพิธีทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด อายุครบ 67 ปี โดยมีบุคคลใกล้ชิด แขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงการ ตลอดจนนักการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย อบอุ่น มีการมอบกระเช้าและของที่ระลึกเพื่อแสดงความยินดี รวมถึงพิธีทำบุญถวายภัตตาหารพระสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสพิเศษ โดยมีพระเทพวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวง เป็นประธานในพิธีสงฆ์ งานจัดภายใต้แนวคิด “เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน” ซึ่งเป็นคำนิยามสำคัญที่นายนิพนธ์น้อมนำมาจาก พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิตและการทำงานเพื่อบ้านเกิดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในบทบาททางการเมืองและบทบาทส่วนตัว โดยเฉพาะความตั้งใจในการสร้างบ้านแปลงเมืองสงขลาให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ก้าวทันยุคสมัย มีความเจริญรอบด้าน และไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง

...


ส่วนแขกผู้มาร่วมงาน อาทิ นายราชิต สุดพุ่ม สส. นครศรีธรรมราช, นายสมยศ พลายด้วง สส. สงขลา, นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) สงขลา รวมถึงผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารระดับจังหวัด และประชาชนที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างเนืองแน่น ต่างร่วมกล่าวแสดงความชื่นชมถึงจิตใจที่เสียสละและความทุ่มเทของนายนิพนธ์ต่อจังหวัดสงขลาและประเทศชาติ นอกจากนี้ นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทยและนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้มอบหมายให้นางณัฐกานต์ ศรีก่อเกื้อ เป็นผู้แทนนำแจกันดอกไม้มาแสดงความยินดีด้วย


โดยนายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงาน พร้อมกล่าวกับผู้นำพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้ร่วมงานว่า ตนยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าทำงานเพื่อสังคมและประเทศชาติต่อไป ด้วยหัวใจของคนที่ไม่ลืมบุญคุณแผ่นดินเกิด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้อุทิศแรงกายแรงใจผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงยืนยันความเชื่อมั่นว่า “การพัฒนาประเทศต้องเริ่มจากท้องถิ่น” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจายความเจริญและโอกาสทางการศึกษาไปสู่ภูมิภาค ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว


“สงขลาเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมด้านสถาบันการศึกษา และมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของภาคใต้ หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง ก็จะสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างอนาคตให้กับเยาวชนในภูมิภาคได้อย่างแท้จริง” นายนิพนธ์กล่าว