สว. นพดล อินนา ในฐานะ IPU ไทย แถลงประณามกัมพูชาละเมิดอนุสัญญา “ออตตาวา” ใช้ทุ่นระเบิดสังหารซ้ำยังโจมตีเป้าหมายพลเรือน โรงพยาบาล หมู่บ้าน ผิดอนุสัญญาเจนีวา ย้ำไทยตกเป็นเหยื่อยั่วยุ ถูกกองทัพเขมรยิงใส่ก่อน


วันที่ 25 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และรองประธานคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสหภาพรัฐสภา (IPU) แถลงในนามหน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภาถึงกรณีความรุนแรงที่เกิดจากข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า หน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภามีความกังวลต่อเรื่องนี้มากและขอประณามการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยรัฐบาลกัมพูชาที่โจมตีเป้าหมายพลเรือนและโรงพยาบาล รวมถึงชุมชนบ้านเรือนของพลเรือนไทย ทำให้เกิดความสูญเสียและบาดเจ็บต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ประเทศไทยขอยืนยันพันธกรณีอันแน่วแน่ของตนตามอนุสัญญาออตาวา และพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องอื่นๆ รวมถึงอนุสัญญาเจนีวา และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่ห้ามการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการโจมตีต่อพลเรือนและโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด


นายนพดลกล่าวต่อว่า ประเทศไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มใช้กำลังหรือเผชิญหน้าก่อนแต่อย่างใด ประเทศไทยเป็นเหยื่อต่อการกระทำอันก้าวร้าวโดยไม่มีการยั่วยุ และการคุกคามต่อสันติภาพ ซึ่งรวมถึงการใช้กับระเบิด อาวุธหนักและการโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยไม่เลือกของกัมพูชา ประเทศไทยกระทำการเพื่อป้องกันตนเองและคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนตามสิทธิที่ได้รับการรับรองในกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งและเรียกร้องการยุติการใช้ความรุนแรงและยุติการกระทำอันเป็นปรปักษ์ ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศ หน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภาขอเรียกร้องผ่านประชาคมระหว่างประเทศ และสหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union - IPU) ให้แสดงความวิตกอย่างยิ่ง ตลอดจนกระตุ้นต่อรัฐบาลกัมพูชาให้ธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงตามแนวชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา หน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภาขอเน้นย้ำว่าความปลอดภัยของพลเมืองและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะควรเป็นที่ปลอดภัย

...


“ประเทศไทยขอสงวนสิทธิในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นและได้สัดส่วนเพื่อปกป้องประชาชนและบูรณภาพแห่งดินแดนของตน ตามกฎบัตรสหประชาชาติ ทั้งนี้ ไทยยังคงเปิดกว้างต่อการเจรจาและการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีผ่านช่องทางทวิภาคี หน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภาขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงองค์การสหประชาชาติ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา เฝ้าติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และดำเนินการให้มีการรับผิดชอบต่อการละเมิดหลักการกฎหมายระหว่างประเทศโดยผู้ที่เกี่ยวข้อง หน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภาขอยืนยันเจตนารมณ์อันมั่นคงของประเทศไทยในการธำรงรักษาสันติภาพในภูมิภาค การระงับข้อพิพาทด้วยสันติวิธี และการเคารพหลักนิติธรรม ภายใต้กรอบขององค์การสหประชาชาติและอาเซียน ประเทศไทยยืนยันถึงความสัมพันธ์อันยาวนานของประชาชนทั้งสองประเทศ และธำรงไว้ซึ่งการทูตรัฐสภาที่สร้างสรรค์ระหว่างรัฐสภาไทยและรัฐสภากัมพูชา” นายนพดลกล่าว


เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ได้เตรียมมาตรการยกระดับหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลแต่ในฐานะของสมาชิกรัฐสภา ความจริงเรามาสมาชิกอยู่หลายประเทศ นี่จึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น และในอนาคตจะไปคุยกับมวลสมาชิก อีกทั้งการออกแถลงการณ์เช่นนี้จะทำให้มวลสมาชิกเข้าใจสถานการณ์ดังกล่าวมากขึ้น ส่วนจะถึงขั้นต้องคว่ำบาตรเลยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะตัดสินใจ