“เดชอิศม์” มท.3 ลั่นพร้อมเปลี่ยนแปลงท้องถิ่นให้ดีขึ้นใน 2 ปี จ่อเรียกร้องทุกช่องทางเยียวยางบท้องถิ่น หลังถูกพับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4.2 หมื่นล้าน ไปใช้แก้ภาษีทรัมป์
วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ประชุมหารือแนวทางการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่กระทรวงมหาดไทย โดยมีสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย, สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เข้าร่วม
นายเดชอิศม์ กล่าวช่วงต้นการหารือกับผู้นำสมาคม อปท. ว่า ตนวันนี้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่มากำกับกระทรวงท้องถิ่น เพราะในช่วงหลาย 10 ปีมานี้ไม่น่าจะมีคนมาจากท้องถิ่นเลย ตนคิดว่าไม่มีใครเข้าใจท้องถิ่นมากกว่าเรากันเอง ซึ่งการมาพบกันวันนี้ก็ได้พูดคุยกันเพราะเชื่อว่าในเรื่องคน งบประมาณ โครงสร้างไม่สอดคล้องกับการทำงานของท้องถิ่น ฉะนั้น วันนี้ตนขอทำหน้าที่ผู้ฟังที่ดีเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้ เพราะตนสนับสนุนเรื่องการกระจายอำนาจ ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ
1. เชื่อว่าไม่มีใครรู้ปัญหาท้องถิ่นมากกว่าคนในท้องถิ่น
2. เชื่อว่าไม่มีใครรู้วิธีการแก้ปัญหาคนท้องถิ่นมากกว่าคนในท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในท้องถิ่น
3. เชื่อว่าผู้บริหารท้องถิ่นต้องเอาใจประชาชนในท้องถิ่นของตัวเอง ไม่เหมือนข้าราชการส่วนภูมิภาคที่ต้องเอาใจอธิบดี ปลัดกระทรวง เพราะเรา 4 ปีเลือกตั้งครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ตนเทียบเคียงกับประเทศที่เจริญ ท้องถิ่นต้องโต ส่วนภูมิภาคต้องเล็ก แต่ก็สวนทางกับประเทศไทย วันนี้งบประมาณท้องถิ่นควรมากกว่า 35% แต่ของเราอยู่ที่ 29% เรื่องนี้ตนอภิปรายในสภาฯ มานานแล้ว และเห็นด้วยว่าวันนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ใหญ่กว่าพวกเราอีก ซึ่งมันไม่ใช่แล้ว สตง. คอยจับผิดพวกเราได้ถ้าเราทุจริต ฉะนั้น ต้องแก้เรื่องอำนาจหน้าที่ให้ชัด และทำให้พวกเราทำได้ทุกเรื่อง
...
“วันนี้เราต้องมาร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการดีเดย์วันแรกของ 3 องค์กรท้องถิ่นที่เป็นพี่น้องกัน วันนี้ท่านได้ตนมาที่ท้องถิ่น เราต้องช่วยกันเพื่อเดินหน้าไปให้ได้ และเชื่อว่าเมื่อตนอยู่ในวาระ 2 ปี ก็คิดว่าถ้าครบก็จะเปลี่ยนแปลงได้เยอะ และจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยในส่วนท้องถิ่นอย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม เราอาจจะมาพบกัน 2 เดือนต่อครั้งเพื่อพูดคุย และอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ปัญหาเรื่องอำนาจ เงิน เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) คงไม่เข้าใจ ฉะนั้นหากพวกเราเสียงไม่ดัง ต่างคนต่างทำ เสียงก็จะไม่ดัง แต่ถ้าพวกเราท้องถิ่นช่วยกันส่งเสียงพูดก็จะดัง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตัวแทนผู้บริหารอย่างท้องถิ่น 3 องค์กร ได้มีข้อเสนอแก่นายเดชอิศม์ อาทิ เพิ่มวาระการดำรงตำแหน่ง อปท. มากกว่า 2 สมัย, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลไม่ควรให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะเสียโอกาสการทำงาน แต่ถ้าคดีสิ้นสุดค่อยว่ากัน, ผลักดันการกระจายงบประมาณให้ถึง 35%, กระจายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านให้เหมาะสมไม่กระจุกตัวบางจังหวัด รวมถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 จำนวน 4.2 หมื่นล้านบาท ที่ อปท. ไม่ได้เลย, แก้กฎหมายให้สภาท้องถิ่นพิจารณางบได้เลยไม่ต้องผ่านส่วนกลางเพื่อแก้ปัญหาประชาชนได้ทันที, ค่าตอบแทนผู้บริหาร และยกเลิกคำสั่ง คสช. ให้ท้องถิ่นสอบคัดเลือกเจ้าหน้าที่เอง จากเดิมส่วนกลางเป็นผู้จัดสอบ
ทางด้าน นายเดชอิศม์ ชี้แจงเรื่องงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 4.2 หมื่นล้านบาท ที่ อปท. ไม่ได้ ว่า ที่ผ่านมามีการจัดงบประมาณไม่เหมาะสม ซึ่งภาพรวมบางพื้นที่ได้มาก บางพื้นที่ได้น้อย ซึ่งชาวบ้านบอกว่าทำไมพื้นที่ของสีน้ำเงินได้เยอะและไม่มีสีอื่นเลย จึงพยายามแย้งว่าไม่อยากให้พับทั้งหมด โดยตนมีความเห็นว่าควรกระจาย แต่อำนาจที่จะพับหรือกระจายเป็นของกระทรวงการคลัง ซึ่งอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนไม่มีส่วนร่วมเพราะไม่ได้เป็นอนุกรรมการฯ จึงไม่ทราบซึ่งตอนนี้พับ เขาจะเอามาใช้ให้ทันปีหรือไม่ ถ้าไม่ทันอาจจะพับไปอยู่ที่งบกลาง แล้วไปหากฎ หาระเบียบมาใช้ใหม่ ซึ่งตนมีอำนาจจึงอยากกราบเรียนให้พี่น้องท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความเข้าใจ พร้อมระบุอีกว่า เรื่องที่ อปท. เสนอ อะไรที่เป็นอำนาจของตนก็จะดำเนินการจัดทำทันที ส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
ต่อมา นายเดชอิศม์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ 3 อปท. หลังถูกตัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 4.2 หมื่นล้านบาท โครงการในส่วนของ อปท. จะมีแนวทางเยียวยาอย่างไร ว่า อยากชี้แจง เดี๋ยวพี่น้องท้องถิ่นไม่เข้าใจเหมือนกับตนไปพับโครงการเสีย ซึ่งข้อเท็จจริงตนมีการท้วงติงว่างบกระจุกตัวไม่กระจาย บางท้องถิ่นได้ 169 ล้านบาท ทั้งที่เป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เล็กๆ มากกว่าหลายๆ จังหวัดรวมกันทั้งจังหวัด ตนก็ได้ติงว่าควรจะกระจายใหม่ให้เท่าเทียมเข้าถึง ส่วนจะทำใหม่หรือไม่ เป็นเรื่องของอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งตนไม่ได้อยู่ในอนุกรรมการฯ ชุดนี้
เมื่อถามว่าล่าสุดบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ได้โอนงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 4.2 หมื่นล้านบาท ไปใช้แก้ปัญหาภาษีทรัมป์หมด จะเยียวยาท้องถิ่นอย่างไร นายเดชอิศม์ ระบุว่า ต้องหางบตัวใหม่มาทดแทนให้ท้องถิ่น เช่น งบกลางหรืองบอะไรก็แล้วแต่ เพราะท้องถิ่นเขาจำเป็น นำไปกระตุ้นให้ภาคส่วนอื่นๆ แต่ทำไมถึงไม่ให้ท้องถิ่นได้กระตุ้นด้วย
ส่วนคำถามว่ารัฐบาลอยากให้กระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นแต่งบไม่มา สามารถกระจายอำนาจได้หรือไม่ นายเดชอิศม์ ตอบว่า “ไม่ได้ครับ เพราะการกระจายอำนาจทั้งเงิน ทั้งคน ทั้งกฎระเบียบ ต้องไปด้วยกัน” ผู้สื่อข่าวถามต่อ จะมีการแบ่งงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนกระทรวงคมนาคม และกรมชลประทาน มาให้ท้องถิ่นหรือไม่ นายเดชอิศม์ ตอบว่า ก็แล้วแต่บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ส่วนตัวไม่มีอำนาจ แต่ต้องเรียกร้องให้ท้องถิ่นทุกด้านทุกมุม รวมถึงในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย ซึ่งต้องเรียกร้องให้ท้องถิ่นให้ได้.