“ภูมิธรรม” ตรวจความพร้อมให้กำลังใจชาวบ้านที่ศูนย์พักพิงหลายแห่งใน จ.ตราด ด้านหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน รายงานควบคุมสถานการณ์การใช้อาวุธแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 2568 ที่ศาลากลาง จ.ตราด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และหน่วยงานด้านความมั่นคง ร่วมประชุม โดยนายภูมิธรรมรับทราบรายงานจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดว่า ปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์การใช้อาวุธได้แล้ว และทางกัมพูชาได้มีการถอยร่นไปยังพื้นที่ของตน โดยทั้ง 2 ฝั่งยังตรึงกำลังเพื่อป้องกันสถานการณ์ ในส่วนของการอพยพประชาชนเข้ายังศูนย์พักพิงใน 3 อำเภอ รวม 16 แห่ง ประชาชนผู้อพยพจำนวน 4,754 คน โดยมีแผนเตรียมสถานที่เพื่อรองรับผู้อพยพไว้ได้ราว 20,000 คน
ย้ำฝ่ายปกครองดูแลแนวหลังให้เต็มที่
...
จากนั้นนายภูมิธรรม กล่าวต่อที่ประชุมว่า การตัดสินใจลงพื้นที่ จ.ตราด เพราะเป็น 1 ใน 6 จุดที่ทางกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงข้ามมา กองทัพได้ประกาศกฎอัยการศึกไปก่อนหน้านี้ จึงอยากเข้ามาตรวจสอบความพร้อมในการรับมือ หากมีสถานการณ์ที่ลุกลาม ซึ่งได้ให้นโยบายแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนกัมพูชาทั้ง 7 จังหวัดไว้ว่า ต้องรับผิดชอบในการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ปกป้องประชาชนจากการรุกรานของกัมพูชา ที่ละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ และจากการพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่าประเทศไทยยินดีหยุดยิงโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนไทยเป็นหลัก และทางกัมพูชาต้องแสดงความจริงใจต่อการถอนกำลัง และทำให้ประชาชนคนไทยสบายใจ เพราะที่ผ่านมาก็ยังมีการใช้อาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย การตอบโต้ของประเทศไทยคือการปกป้องความปลอดภัยของคนไทย ประเทศไทยไม่ใช่ฝ่ายเข้าไปรุกรานทางกัมพูชาก่อน แนวหน้าเป็นเรื่องของทหาร แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ปกครองดูแลแนวหลังให้เต็มที่ รัฐบาลได้ขยายวงเงินทดรองจ่ายให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดที่เกิดสถานการณ์ฯ แล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการได้เต็มที่ และได้ประสานทางตำรวจช่วยเข้าดูความปลอดภัยของบ้านเรือนประชาชนที่ต้องอพยพออกมา และฝากไปยังสื่อมวลชนทุกท่านให้ระมัดระวังเรื่องการสื่อสารที่เป็นการเปิดเผยพื้นที่ปลอดภัย เพราะอาจมีผลต่อทางยุทธการที่กำลังดำเนินการอยู่
บอกชาวบ้าน จนท. ดูแลบ้านเรือนเต็มที่
จากนั้น นายภูมิธรรมเดินทางต่อมายังศูนย์พักพิงอีก 2 แห่งใน จ.ตราด เพื่อให้กำลังใจผู้อพยพออกจากบ้านเรือนของตัวเอง โดยพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่และอาหารการกิน ซึ่งแต่ละคนต่างบอกได้รับการดูแลอย่างดี และอยากให้สถานการณ์ยุติโดยเร็ว เพราะเป็นห่วงบ้าน ซึ่งนายภูมิธรรมย้ำว่าให้เจ้าหน้าที่ดูแลบ้านเรือนของประชาชนให้แล้วไม่ต้องเป็นห่วง และร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับประชาชนในศูนย์อพยพด้วย