“ภูมิธรรม” ลั่น ยุบสภาฯ ยังไม่มีการหารือ ขอใช้กระบวนการประชาธิปไตยเดินหน้ารวมเสียง เหตุพรรคประชาชน ยังไม่ตัดสินใจ โต้ “ไอติม” อย่าเอาความต้องการส่วนตัวมาท้ายุบสภา ปัดเพื่อไทยตระบัดสัตย์ ปชน. โน้มน้าว สว. ไม่ได้เอง


วันที่ 2 กันยายน 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นรัฐบาลรักษาการก็มีอำนาจยุบสภาได้ ซึ่งยังไม่ได้หารือกันเพราะขั้นตอนนี้จะทำได้จนกว่าจะมีความชัดเจนเข้าสภาฯ จนได้นายกรัฐมนตรี ส่วนที่พรรคประชาชน ยังไม่ชัดเจนจะยกมือให้ใครนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่าในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยกให้ใครเลย แบ่งเป็นสามขั้ว ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ระหว่างตั้งรัฐบาลหากไปพูดถึงความเป็นไปได้แล้วจะคุยกันยังไง และย้ำว่าตนเองก็ยังไม่ได้รับคำยืนยันว่าพรรคประชาชนจะไม่ยกมือให้ใครเลย แต่รอการประชุมภายในพรรคให้ชัดเจนก่อน เพราะหากการจัดตั้งรัฐบาลเริ่มต้นจาก “ถ้า” ก็ทำงานกันไม่ได้


ส่วนที่นายเทพไท เสนพงษ์ บอกว่าถ้าจบไม่ได้จะดึงเอาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมานั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่าความคิดนี้ไปไกลเกินไป อย่าตัดสินใจแทนพรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการตั้งรัฐบาลร่วมกัน จึงเป็นการช่วงชิง การพูดคุยทำความเข้าใจอยู่ที่ว่าข้อสรุปที่ตกลงกันจะร่วมรัฐบาลกันจะเป็นอย่างไร ซึ่งยังไม่มีคำตอบชัดเจน พรรคประชาชน ว่าจะไม่เอาพรรคเพื่อไทย และก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่เอาพรรคภูมิใจไทยทุกอย่าง จึงยังเหมือนเดิมเพียงแต่ยังไม่มีข้อสรุปจาก สส. จึงต้องรอให้ภายในพรรคตัดสินใจให้ชัดเจน ถ้าบ้านเมืองไม่มีทางออกกลไกประชาธิปไตยจะมีขั้นตอนให้ทำแล้ว แต่ว่าจะเลือกตรงไหนก็ได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้เจรจาตกลงกันจนได้ข้อยุติว่าเสนอใครไปโหวตนายกรัฐมนตรี และโหวตแล้วจะได้หรือไม่ วันนี้จึงไม่มีประโยชน์อะไร จนกว่าจะได้เห็นการตกลงกันมีความชัดเจน เสนอชื่อสภา และโหวตจนสำเร็จ

...


“จะหักหลังหรือไม่หักหลังอยู่ที่พรรคประชาชนตัดสินใจ เราพูดชัดเจนประกาศต่อสาธารณะเลยว่าจะทำเรื่องต่างๆ เราก็รอคำตอบเขา เขาต้องแจ้งคำตอบเรา ส่วนจะเลือกเราหรือไม่เลือกอยู่ที่ดุลพินิจ หรือจะร่วมรัฐบาลกันเลยก็ได้ หรือจะตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยเลยก็ได้ ไม่ต้องอุบอิบ จะอะไรก็มาเลย หากไปร่วมรัฐบาลขอกระทรวงหลักๆ เพราะพรรคภูมิใจไทยวันนี้ ฟังท่านอยู่แล้วท่านอยากขอกระทรวงต่างๆ เอาไปพิสูจน์ตัวเอง หรือจะขอกระทรวงมหาดไทยเลยก็ได้ เขาก็คงยอมการตัดสินใจของพรรคประชาชนไม่ใช่การตัดสินใจของพวกผมหรือของใคร” นายภูมิธรรม กล่าว


นายภูมิธรรมยังยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยตระบัดสัตย์ ที่ไม่โหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยยกมือครบถ้วนให้สองครั้งตามที่ตกลง แต่พรรคก้าวไกลไปควบคุม สว. ไม่ได้เอง จะมาว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่เคยฉีกเอ็มโอยู หากจะมาคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องกินแหนงแคลงใจพรรคเพื่อไทยก็มีสิทธิ์คิดได้ แต่เราลืมเรื่องอดีตแล้ว ขอโทษกันไปแล้ว แต่วันนี้บ้านเมืองเป็นเรื่องใหญ่ ยอมแม้กระทั่งลาประชุม ก.ตร. เพื่อมาคุยกับหัวหน้าพรรคประชาชน ถ้าแค่นี้ไม่ไว้ใจพรรคเพื่อไทยถามว่าพรรคภูมิใจไทยมีอะไรให้น่าไว้วางใจ คัดค้านรัฐธรรมนูญมาตลอด สิ่งที่พรรคประชาชนจะต้องคิด ไม่ใช่เรื่องไว้ใจหรือไม่ไว้ใจใคร และหากพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลใช้อำนาจรัฐมนตรีมหาดไทยยุติการทวงคืนเขากระโดงก็จบ แสดงว่าเราไม่สามารถเอาที่หลวงกลับคืนมาได้


ส่วนเรื่อง สว. พรรคภูมิใจไทยก็สั่งได้ จึงถามพรรคประชาชนว่า อะไรคือความมั่นใจของพรรคประชาชนต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงอยากให้พูดให้ชัด เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีอะไรที่ด้อยกว่าพรรคภูมิใจไทย ประวัติเรื่องประชาธิปไตยพรรคเพื่อไทยชัดเจนมาตลอด ยืนยันไม่ได้เอามาพูดเพื่อกลบเรื่องอื่น แต่อย่ามาบอกว่าเราไม่น่าไว้ใจ อยากให้พรรคประชาชนพูดมาให้ชัดว่าความน่าไว้ใจของพรรคภูมิใจไทยอยู่ที่ไหน หากมีเหตุและผล เราก็จะยอมรับ


ส่วน “พริษฐ์” ท้ายุบสภา ไม่เข้าใจการเมือง อย่าเอาความต้องการส่วนตัวมาท้า


ส่วนที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. พรรคประชาชน ท้าให้ยุบสภา เพราะพรรคประชาชนจะไม่ยกมือโหวตให้พรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายพริษฐ์ ไม่เข้าใจการเมือง เพราะกระบวนการประชาธิปไตยตอนนี้กำลังหารือกัน จัดตั้งรัฐบาล จะมาเรียกให้ยุบสภานั่น เป็นการแสดงความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ยืนยันว่าตอนนี้ยังถึงไม่ขั้นที่จะไปถึงการยุบสภา แต่อยู่ในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล จึงคิดว่าวันนี้ควรสวมหัวใจนักประชาธิปไตย อย่าใช้ความเกลียดชัง ปากบอกว่าไม่ใช้ แต่จำได้ จึงขอถามกลับว่าพรรคภูมิใจไทยดีกว่าพรรคเพื่อไทยตรงไหน ถึงจะไปตัดสินใจยกมือให้ จึงอยากฝากสื่อให้ไปถามนายพริษฐ์ ย้ำว่าตนเองไม่ได้โกรธ แต่พูดให้ฟังเฉย ๆ


นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าพรรคเพื่อไทยไม่จริงใจไม่สุดกับพรรคประชาชนในการเจรจา เป็นเพียงการดึงเกมเพื่อต่อรองหวังดึงเอา สส. ของพรรคเพื่อไทยที่ไหลออกกลับคืนมา และจะยุบสภา หรือเกิดการปฏิวัติว่า อย่าโยนความผิดมาให้พรรคเพื่อไทย คำถามนี้เป็นคำถามที่ไม่สร้างสรรค์ แต่ทำไมไม่คิดกลับไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ดึงเวลาเพื่อจะให้คนของพรรคเพื่อไทยออกไป ซึ่งตนเองคิดว่ามันเกิดขึ้นได้ทั้งสองอย่าง จึงอย่าไปเชื่อมั่นตรงนี้


นายภูมิธรรมย้ำ อยู่ที่สถานการณ์ทางการเมืองว่าจะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ หากสุดทางแล้ว และกระบวนการประชาธิปไตยมีหนทางเลือกหลายทาง และยังไม่มีความคิดอยู่ในหัวเลยว่าจะยุบสภา ขออย่าคิดไปไกลกว่าสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่