ร่วม “ครม.อนุทิน 1” นายกฯ เปิดตัว “ศุภจี” ว่าที่ รมว.พาณิชย์ เผยเบื้องหลังทาบทาม ยกประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง ขอประชาชนเชื่อมั่นประสบการณ์ เผย “เอกนิติ” รมว.คลัง ควบรองนายกฯ เศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 10 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมหารือกับ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ต่อมาภายหลังการหารือนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยมี นางศุภจี และนายเอกนิติ ยืนขนาบข้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะคนที่มาจากนอกวงการเมือง คนที่เป็นมืออาชีพเรียบร้อยแล้ว ได้มีการทำความเข้าใจกัน หารือเรื่องนโยบายที่จะต้องดำเนินการในระยะเวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชน ขอยืนยันว่าในรัฐบาลนี้จะมีมืออาชีพอีกท่านหนึ่งเข้ามาช่วยงานในด้านพาณิชย์ การค้าขาย การสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งนางศุภจี จะมาปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกำกับดูแล นายเอกนิติ โดยนายเอกนิติ จะควบในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาบทาม นางศุภจี มาร่วมงานได้อย่างไร นายอนุทิน ตอบว่า ตนใช้ความคาดหวังและผลประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติเป็นหลักในการทาบทามท่าน และขอให้เห็นแก่เรื่องพวกนี้ และท่านประสบความสำเร็จมามากมายแล้ว มีประสบการณ์ มีความสามารถในการบริหารจัดการ กิจการและองค์กรระดับใหญ่มาแล้ว จึงขอให้ท่านช่วยเหลือบ้านเมืองด้วยกัน
...
ส่วนที่ นางศุภจี เป็นนักธุรกิจ และในเวลา 4 เดือนนี้จะฟื้นฟูเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน นายอนุทิน ระบุว่า นางศุภจี ไม่ใช่นักธุรกิจแต่เป็นนักบริหารมืออาชีพ และเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้มากพอสมควร เพราะฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นว่า นางศุภจีมีความเสียสละอย่างมากที่จะทิ้งเงินเดือนและรายได้จากการเป็นกรรมการหลายบริษัทในหลายที่ แต่ก็ยอมมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ก็ขอให้โอกาส และขอให้เชื่อมั่นว่าพวกเราจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายอนุทิน ย้ำด้วยว่า ไม่ต้องห่วงรัฐบาลของตนนั้นมีอำนาจเต็ม อยู่ที่ผู้ปฏิบัติงาน ส่วนตนมีแต่นโยบายการตั้งเป้า แต่ถ้าหากถามว่ามีธงหรือไม่ ก็ต้องตอบว่ามี ธงก็คือประเทศไทยเดินก้าวหน้าไปด้วยความมั่นคงและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด ทำให้ประชาชนกลับมามีโอกาสให้ได้มากที่สุด มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นธงที่ตนได้ตั้งเอาไว้
ในคำถามว่าให้ความมั่นใจกับบุคคลเหล่านี้ได้อย่างไรว่าเข้ามาวงการการเมืองแล้วจะไม่เจ็บตัว นายอนุทิน กล่าวว่า บุคคลเหล่านี้ถือว่าเป็นผู้มีประวัติดีงาม ไม่มีประวัติด่างพร้อย มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และมีความเสียสละทุ่มเท เพราะฉะนั้นตนคิดว่าด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ท่านก็จะไม่ยอมทำอะไรที่ไม่ดีไม่งาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับประเทศ ซึ่งสำหรับตนคำว่าบริหารราชการแผ่นดิน ใครที่ได้มาทำหน้าที่นี้ นอกจากจะเป็นเกียรติยศแล้ว ก็ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ที่ประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ที่รับประโยชน์ หรือแม้กระทั่งความเดือดร้อน ถ้าหากเราทำผิดเราจึงต้องมั่นใจว่าต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และต้องทำงานเป็นทีม
ทั้งนี้ ความเป็นพรรคพวกกันมาก่อนและการรู้จักกันอย่างดี ก็จะทำให้เกิดการร่วมมือกันเป็นอย่างดี ไม่มีการขัดแข้งขัดขา และไม่ต้องกังวลว่าพรรคนั้นจะได้คะแนนมากกว่า ซึ่งตนได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน และวันนี้มีแต่พรรคประเทศไทย เราจะให้ความสนับสนุนการทำงานของคณะรัฐมนตรีทุกคน ทุกพรรค ตราบใดที่สิ่งที่นำเสนอนั้นมีประโยชน์ต่อส่วนรวม จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เชิญ นายเอกนิติ และนางศุภจี ไปร่วมวงรับประทานเค้กส้มที่ร้านกาแฟจาริสต้าร์ภายในพรรคภูมิใจไทย.