ผอ.พรรคประชาธิปัตย์-กรรมการบริหาร-โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงยัน “เฉลิมชัย” ลาออกเพราะปัญหาสุขภาพ ปัดขัดแย้ง “เดชอิศม์” อุบตอบ “อภิสิทธิ์” อาจหวนคืน พร้อมจัดทัพลุยเลือกตั้งใหญ่


วันที่ 13 กันยายน 2568 นางสาวเจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการพรรค และนายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด กรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวกรณีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

นางสาวเจนจิรา กล่าวว่านายเฉลิมชัย ยื่นใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเรียบร้อยแล้ว โดยมอบให้นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ประธาน สส.และรองหัวหน้าพรรคดำเนินการปฏิบัติหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคแทนตามข้อบังคับพรรค โดยให้เหตุผลในการลาออกว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ เกรงว่าจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ โดยพรรคจะดำเนินการตามระเบียบต่อไปว่าจะต้องมีการจัดประชุมใหญ่เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ขึ้นมาภายใน 60 วัน

นางสาวเจนจิรา ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งภายในระหว่างหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรค เนื่องจากเป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว เร็ว ๆ นี้ก็มีการไปรับประทานข้าวด้วยกัน ตนเองอยู่ในเหตุการณ์ก็เห็นว่าเป็นปกติอยู่ ไม่น่าจะใช่สาเหตุในการลาออกจากหัวหน้าพรรค ส่วนการนัดประชุมเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยังไม่มีการนัด เพราะเป็นเหตุกะทันหัน ไม่มีใครทราบว่านายเฉลิมชัยได้ไปยื่นใบลาออกแล้ว

เมื่อถามว่า การลาออกของนายเฉลิมชัย ไม่ได้พูดคุยกับใครใช่หรือไม่ นายธนิตพล กล่าวว่าเป็นจังหวะที่มีการตั้งรัฐบาล เป็นวิกฤตทางการเมืองของประเทศหลังจากที่เกิดเรื่อง เป็นช่วงที่พวกเราเหมือนเบา ๆ ลง เนื่องจากเรื่องจบหมดแล้วก็ไม่ได้พูดคุยกัน ตนเองและพรรคก็มาดูเรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนตกลงกันไว้ว่าจะมีการเลือกตั้งภายใน 4 เดือน เราจึงมีการเตรียมการเลือกตั้งจนกระทั่งเมื่อวานนี้ทราบข่าวจากเอกสาร จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยกันกับนายเฉลิมชัย

...

ส่วนกรณีที่หัวเรือใหญ่ออกจะสร้างแรงกระเพื่อมให้ภายในพรรคหรือไม่ และจะเตรียมการเลือกตั้งทันภายใน 4 เดือนหรือไม่ นายธนิตพล ยืนยันว่า ทัน เราเลือกตั้งหัวหน้าพรรคกันมาหลายคนแล้ว จึงเป็นเรื่องปกติ พรรคเตรียมความพร้อมไว้พอสมควร การลาออกของนายเฉลิมชัยเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่าเสียใจหรือไม่ก็นิดหนึ่ง หมดกำลังใจหรือไม่ ไม่มี เพราะถือว่าทุกคนยึดพรรคเป็นหลัก คนที่จะมาบริหารงานต่อก็จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าเป็นการลาออกเพื่อล้างไพ่หรือไม่ นางสาวเจนจิรา กล่าวว่าจากการที่ได้ถามท่าน ท่านเล่าให้ฟังตามตรงว่าท่านมีปัญหาด้านสุขภาพจริง ๆ เกรงว่าพอใกล้เลือกตั้งจะทำหน้าที่ได้ไม่เต็มความสามารถ จึงตัดสินใจลาออกก่อนการเลือกตั้ง ทั้งนี้ตามกระแสโซเชียลมีเดียบอกว่าหักล้างไพ่เลือดเก่าอาจจะกลับมาและเรียกศรัทธาได้นั้น ไม่ว่าเลือดเก่าเลือดใหม่ พรรคประชาธิปัตย์มีความสามารถเป็นเรื่องดีที่คนเก่า ๆ เข้ามาช่วยฟื้นฟูนำทัพ หรือดำเนินการก้าวหน้าไปข้างหน้า เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว

ทั้งนี้กรณีคนที่ลาออกไปแล้วจะมาชิงหัวหน้าพรรค สามารถเข้ามาได้เลยหรือไม่ นายธนิตพล กล่าวว่า หากจะกลับเข้ามาต้องทำตามกระบวนการ ต้องสมัครสมาชิกพรรค เมื่อเป็นสมาชิกพรรคก็มีสิทธิ์ทุกอย่าง ส่วนจะติดเงื่อนไขในการเป็นสมาชิก 5 ปี ตามข้อบังคับพรรคหรือไม่ ตอนนี้เหลือ 2 ปีแล้ว ตามข้อบังคับพรรค กำหนดเงื่อนไขไว้ 2 ข้อ ได้แก่ 1. ผู้สมัครกรรมการบริหารพรรคต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 2. ต้องเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 2 ปีติดต่อกัน โดยเงื่อนไขนี้ สามารถลงมติยกเว้นได้เหมือนกับกรณีของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และนางสาววทันยา บุนนาค อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีการกำหนดวันเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ในเร็ววันนี้

ขณะนี้มีคนมองไปถึงชื่อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายกรณ์ จาติกวณิช ถือเป็นตัวเลือกที่ดีใช่หรือไม่ นายธนิตพล กล่าวว่าเป็นหน้าที่ของที่ประชุมใหญ่ เพราะเรารอให้มีการประชุมใหญ่ซึ่งจะต้องมีการจัดใน 60 วัน หลังจากนั้นหากมีใครเสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็ต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นเรื่องของที่ประชุมตอบแทนไม่ได้

นายธนิตพล ยอมรับว่ากังวล สส.ไหลออกใกล้เลือกตั้ง ซึ่งเป็นทุกสมัย ทุกพรรคมี สส.ไหลออกช่วงใกล้เลือกตั้ง ส่วนกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ มีการโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ยึดอุดมการณ์จะไม่มีวันตาย และขอให้นายชวน หลีกภัย กลับมานั้น นายเทพไทไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว การวิเคราะห์ของนายเทพไทเป็นการวิเคราะห์ของคนนอก

“แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อยากให้กำลังใจสมาชิกทุกคน รวมถึงผู้ที่จะเข้ามาในอนาคต จะร่วมกันยึดในอุดมการณ์เดิม และเดินหน้าทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป โดยไม่ต้องกังวล”