สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จไปทรงเป็นประธานในการประชุมวิชาการ การพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล ประจำปี 2568 พร้อมทรงบรรยายในหัวข้อ "การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล" และทอดพระเนตรนิทรรศการ ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์

เมื่อวันพุธที่ 13 ส.ค. 2568 เวลา 12.59 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเป็นองค์ประธานการประชุมวิชาการ (Symposium) การพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล ประจำปี 2568 ณ เอ็มสกาย ชั้น 14 เอ็มทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ 

โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน คณะที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ผู้ประกอบการผ้าและหัตถกรรม นักวิชาการ นักศึกษา และผู้สนใจร่วมรับเสด็จเป็นจำนวนมาก

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทอดพระเนตรนิทรรศการการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล ซึ่งเป็นนิทรรศการนำเสนอการยกระดับงานศิลปหัตถกรรม งานฝีมือ ให้เข้าสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นได้ในระดับสากล ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นบรรณาธิการบริหารหนังสือ "Thai Textiles Trend Book" โดยเล่มล่าสุดเป็นเล่มที่ 6 ด้วยแนวคิด "อนาคตแห่งแฟชั่น : สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน"

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปประทับพระเก้าอี้ โดยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบทูลถวายรายงานการจัดประชุมวิชาการฯ ในโอกาสนี้ ได้พระราชทานหนังสือ "Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026" ให้แก่นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 34 ราย แล้วทรงบรรยายในหัวข้อ "การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2568" ร่วมกับนายกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ประเทศไทย และนายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสัมภาษณ์ในฐานะบรรณาธิการบริหารหนังสือ "Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026" ว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นทั่วโลกมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ปัจจุบันท่านหญิงใส่แบรนด์ของตัวเองคือแบรนด์ SIRIVANNAVARI และใส่แบรนด์ฝรั่งที่ชอบจริงๆ ไม่กี่แบรนด์ แล้วก็วน ท่านหญิงสั่งตัดแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยไม่กี่แบรนด์ แล้วก็วน คือใช้วิธีเปลี่ยนสไตลิ่งเอา ต้องพยายามใส่ให้คุ้มค่าที่สุด เพราะท่านหญิงคิดว่าแฟชั่นเพื่อความยั่งยืนไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นวิถีชีวิตแห่งยุคสมัย ถือเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับคนไทยที่จะกลับมาช่วยกันใช้สินค้าไทย ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกแบบนี้ เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศไทยทั้งระบบให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า 

อยากให้ทุกคนภูมิใจในความเป็นไทย เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของตัวเอง สำหรับท่านหญิงแฟชั่นในอนาคตต้องเป็นมากกว่าการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และต้องการเรี่ยวแรงสำคัญในการมอบคืนสมดุลให้กับโลกใบนี้ ผ่านแนวทางการสร้างสรรค์ ที่ผสมผสานระหว่างงานศิลปะ งานหัตถกรรม และเทคโนโลยี โดยจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีมุมมองหลอมรวมกันระหว่างความงามและความรับผิดชอบ ซึ่งเราเรียนรู้ได้จากการย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น และค้นหานวัตกรรมในงานหัตถกรรมจากอดีต โดยเฉพาะเส้นใยในท้องถิ่นของไทยที่มีการพัฒนาด้วยภูมิปัญญา มีกระบวนการสร้างสรรค์งานฝีมือก้าวไปไกลกว่าเป็นเพียงมรดกทางวัฒนธรรม หากนำมาสร้างสรรค์เป็นงานหัตถกรรมชั้นเลิศจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมแฟชั่นยุคใหม่ เพราะการพัฒนาภูมิปัญญาด้านศิลปะและงานหัตถกรรมย่อมทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ งานหัตถกรรมที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความประณีตและภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้น 

หากได้รับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้ก้าวทันยุคสมัยจากเมืองหลอมรวมชนบท (Urban + Rural) ความสมดุลของวิถีชีวิตใหม่ (Work + Leisure) งานฝีมือดั้งเดิมผสานนวัตกรรมล้ำยุค (Traditional Craft + Future Craft) นำพลังวัยเยาว์จับมือต่อยอดผู้มากประสบการณ์ (Young + Old) งานหัตถกรรมที่ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมในด้านต่างๆเหล่านี้จะนำพาให้ช่างฝีมือสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ทั้งทันสมัยและรักษารากเหง้าของวัฒนธรรมเอาไว้ได้ หัตถกรรมที่ยั่งยืนนี้เองที่จะสร้างวิถีใหม่ของอุตสาหกรรมแฟชั่นโลก 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มีรับสั่งเพิ่มเติมว่า ข้าพเจ้าได้กลั่นกรองแนวคิด อนาคตแห่งแฟชั่น : สรรค์สร้างนวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน และสรุปรวมออกมาเป็นเทรนด์ 4 กลุ่ม ได้แก่ The Grounded Naturalist (พินิจ-ชีวิต), The Free Spirit Adventurer (อิสรชน-ผจญภัย), The Enigmatic Wanderer (รอนแรม-ลึกลับ) และ The Dynamic Trailblazer (กรุยทาง-สร้างฝัน) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแนวทางแก่ผู้ทำงานสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นใย สิ่งทอ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ งานประณีตศิลป์ หรือแก่ผู้ที่ปรารถนาจะเรียนรู้เรื่อง "ความมหัศจรรย์ของเส้นใย" ทุกสีสัน ทุกเทคนิคการทอ ทุกเส้นใย ภายในหนังสือ "Thai Textiles Trend Book ฉบับฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025-2026" เป็นดั่งคำขอบคุณแด่ธรรมชาติและสองมือของปราชญ์ชาวบ้าน ผู้อยู่เบื้องหลังแฟชั่นยั่งยืน และพลังสำคัญที่จะกลายเป็นอนาคตแห่งแฟชั่น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2568 นางโอเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ณ สำนักงานใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ทูลเกล้าฯ ประกาศเชิดชูพระเกียรติและถวายเหรียญสดุดี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม การส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า พระองค์คือ ผู้ bring the Village to the World

ผู้ที่สนใจในเสน่ห์ของผ้าไทยและแฟชั่นที่ยั่งยืน สามารถเข้าชมนิทรรศการ "Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026" ณ เอ็มสกาย ชั้น 14 เอ็มทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ระหว่างวันที่ 11-14 ส.ค. 2568 เวลา 10.00-18.00 น. และสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปผู้สนใจหนังสือ "Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026" สามารถดาวน์โหลดในรูปแบบดิจิทัลได้ทาง https://online.fliphtml5.com/rnqjs/dbjs/#p=1