อัปเดตการเปิดให้ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568 ตรวจคุณสมบัติใหม่ ใครมีสิทธิ์ลงทะเบียน ใช้จ่ายค่าอะไรได้บ้าง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดวันลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568 จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนภายในเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์การใช้ชีวิต วัดความยากจน จากปัจจุบันกำหนดเกณฑ์รายได้ทั้งปีไม่เกิน 100,000 บาท หรือไม่เกินวันละ 274 บาท กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาว่าจะเปลี่ยนแปลงเกณฑ์นี้หรือไม่ เพื่อให้การช่วยเหลือมีความเหมาะสมและตรงเป้าหมายมากขึ้น

ใครมีสิทธิ์ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

  • คนกลุ่มเดิม คือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ปัจจุบันจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลังจะนำรายชื่อไปคัดกรองอัตโนมัติ

  • คนกลุ่มใหม่ คือ คนที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน คาดมี 10 ล้านคน มาจากประชาชนที่เพิ่งอายุครบ 18 ปี คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน และเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ รวมถึงกลุ่มตกหล่นที่ลงทะเบียนในปี 2565 แล้วยังไม่มีการยืนยันตัวตน

คุณสมบัติลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

  • ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว

  • ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย

  • อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

  • มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี

  • ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน

...

  • ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดินเกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด

  • ไม่มีบัตรเครดิต

  • ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป

  • วงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป

  • ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง ส.ส.และ ส.ว.

เงินช่วยเหลือ 1,545 บาท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีอะไรบ้าง

  • ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน

  • ค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน

  • ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน

  • มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

  • มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน รวมเป็นเงิน 1,545 บาท.