ลงทะเบียน "เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568" ยังมีสิทธิ์คงเหลือ 487,616 สิทธิ์ พร้อมเร่งจัดการโรงแรมที่ตั้งราคาสูงเกินจริง
วันที่ 3 ก.ค. 2568 น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า ความคืบหน้าของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งที่เปิดให้มีการลงทะเบียนร่วมโครงการ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 มีปัญหาทำให้ระบบล่ม ททท. จึงร่วมกับ บริษัท ราเวนเชอร์ จำกัด ในฐานะผู้พัฒนาระบบลงทะเบียน เร่งแก้ปัญหา ล่าสุด ณ เวลา 16.45 น. วันที่ 3 ก.ค. 2568 คนเริ่มเข้ามาลงทะเบียนได้เป็นล้านคนแล้ว
ขณะที่เริ่มมีการจองใช้สิทธิ์ จากทั้งสิ้น 500,000 สิทธิ์ ได้ใช้ไปแล้ว 12,384 สิทธิ์ ยังมีสิทธิ์คงเหลือ 487,616 สิทธิ์ คาดว่าใช้เวลา 2-3 วัน เพื่อให้ระบบการลงทะเบียนเสถียร และไม่มีความติดขัด
ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ททท. ขอเวลาแก้ไขให้ระบบเสถียร แต่จะไม่ปิดระบบลงทะเบียนอาจจะมีปิดบ้างบางช่วงเวลาในตอนกลางคืน เพราะได้ประชุมร่วมกับ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ว่าคนเริ่มเข้ามาลงทะเบียนได้แล้ว หากไปปิดระบบแล้วเปิดขึ้นมาใหม่แล้วมีปัญหาจะยิ่งถูกด่าซ้ำอีก ตอนนี้สบายใจขึ้นมาหน่อยที่คนเข้าระบบมาได้ เริ่มมีคำชมเข้ามาแล้ว ทั้งยังพบว่าจาก 2 วันแรกคนที่ใช้ Gmail ลงทะเบียนไม่ได้รับ OTP แต่เมื่อได้แก้ไขตอนนี้จากจำนวน 1 ล้านคนที่เข้ามาได้มาจากผู้ใช้ Gmail ร่วม 600,000 คน
การดำเนินโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ถือเป็นการดำเนินการเฟส 5 หากนับโครงการในลักษณะเดียวกันนี้ คือ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 1-4 ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 1-4 มีความผิดฉ้อโกงสร้างความเสียหายมูลค่า 2,346 ล้านบาท ซึ่งค่าเสียหายสามารถดำเนินคดี จนได้รับเงินคืน 16.5 ล้านบาท โดยเฟส 1-2 มีการฉ้อโกง 1,368 ราย เฟส 3 มีคดีฉ้อโกง 74 ราย และเฟส 4 มีคดีฉ้อโกง 47 ราย
...
ซึ่งในเฟสล่าสุดนี้ จึงเขียนโปรแกรมใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อโกง นอกจากนี้ ททท. กำลังสำรวจโรงแรมที่ตั้งราคามาสูงเกินจริง และตอนนี้พบบางรายใช้ที่อยู่เดียวกันแต่ใช้ชื่อโรงแรม 2 แห่ง ก็จะตรวจสอบอย่างใกล้ชิดด้วย ซึ่งกรณีที่มีอะไรผิดปกติจะตัดออกจากโครงการทันที
นอกจากนี้ ททท. เตรียมเดินหน้าโครงการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 2568 ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ ททท. ดำเนินโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งสิ้น 3,960 ล้านบาท จำนวน 7 โครงการ จะสามารถสร้างเงินหมุนเวียน 200,507 ล้านบาท จ้างงาน 226,102 คน เกิดรายได้ที่เป็นภาษี 7,785 ล้านบาท โดย 7 โครงการที่ได้รับอนุมัติมีรายละเอียด ดังนี้
1. โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,760 ล้านบาท จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 35,033 ล้านบาท จ้างงาน 40,669 คน สร้างรายได้ด้านภาษี 1,863 ล้านบาท
2. โครงการกระตุ้นตลาดต่างประเทศวงเงิน 750 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 85,888 ล้านบาท จ้างงาน 98,005 คน เกิดรายได้ที่เป็นภาษี 3,185 ล้านบาท
3. โครงการทำตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวปี 2568 วงเงิน 800 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 78,053 ล้านบาท จ้างงาน 85,804 คน เกิดรายได้ที่เป็นภาษี 2,682 ล้านบาท
4. โครงการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยวพัดไทยแลนด์วงเงิน 300 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 581 ล้านบาท จ้างงาน 569 คน เกิดรายได้ที่เป็นภาษี 13 ล้านบาท
5. แผนประชาสัมพันธ์กระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 120 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 294 ล้านบาท จ้างงาน 164 คน เกิดรายได้ที่เป็นภาษี 10 ล้านบาท
6. โครงการประชาสัมพันธ์สร้างการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพวงเงิน 80 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 188 ล้านบาท จ้างงาน 122 คน เกิดรายได้ที่เป็นภาษี 7 ล้านบาท
7. โครงการกระตุ้นการใช้จ่ายการกระจายตัวเดินทางท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวเชียงใหม่-ลำพูน 150 ล้านบาท สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 470 ล้านบาท จ้างงาน 769 คน เกิดรายได้ที่เป็นภาษี 26 ล้านบาท.