กรมทะเล อธิบายลักษณะ "มังกรทะเล" พบเป็นทากทะเลสีน้ำเงิน ชนิด Glaucilla sp. สะสมเข็มพิษจากเหยื่อที่กินเข้าไป เตือนอย่าจับเล่น พร้อมแนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

วันที่ 12 ก.ค. 68 จากกรณีทางเพจดังได้เผยภาพ ทากทะเล (Blue Dragon) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า "มังกรทะเลสีน้ำเงิน" พร้อมทั้งเตือนภัยให้ประชาชนระวัง ห้ามไปสัมผัส เนื่องจากมีพิษตามตัว ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (สวยอันตราย "มังกรทะเลสีน้ำเงิน" Blue Dragon โผล่อีกครั้งที่หาดกะรน จ.ภูเก็ต

ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวระบุข้อความว่า ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) ได้รับข้อมูลผ่านทางสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2568 เวลาประมาณ 19.00 น. ว่าพบทากทะเลสีน้ำเงิน หรือ มังกรทะเลสีน้ำเงิน (Blue Dragon) ถูกคลื่นซัดเข้าบริเวณหาดกะรน จังหวัดภูเก็ต คลื่นลมแรง (คลื่นสูงประมาณ 1-2 ม.)

เบื้องต้นลงพื้นที่ตรวจสอบ วันที่ 10-11 ก.ค. 68 พบว่าเป็นทากทะเลสีน้ำเงิน ที่มีพิษชนิด Glaucilla sp. ขนาดประมาณ 0.5 ซม. โดยพิษมาจากการเก็บสะสมเข็มพิษจากเหยื่อที่กินเข้าไป ไม่สามารถผลิตเข็มพิษได้ด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ยังพบ แมงกะพรุนกะลาสี (Velella velella) และแมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์ (Porpita porpita) ซึ่งเป็นอาหารของทากทะเลสีน้ำเงินร่วมด้วย  ฉะนั้นหากสัมผัสทากทะเลสีน้ำเงิน จะรู้สึกเจ็บปวด จึงไม่แนะนำให้จับเล่น หากสัมผัสแนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูเช่นเดียวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สำหรับสัมผัสแมงกะพรุนพิษ 

...

นอกจากนี้ขอให้ประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ระมัดระวังการพบเจอ แมงกะพรุนหัวขวด (Bluebottle Jellyfish) ชนิด Physalia sp. หนึ่งในอาหารของทากทะเลสีน้ำเงินที่มีพิษ โดยสถิติมักพบแมงกะพรุนกลุ่มนี้หลังจากการพบเจอทากทะเลสีน้ำเงิน



ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง