(ภาพประกอบ)

เพจดังแฉสนั่น หญิงสาวปลอมใบประกอบวิชาชีพแพทย์ โพสต์อ้างรักษาคนไข้-แพทยสภาเร่งตรวจสอบ ขณะที่ จ่าพิชิต ย้ำ หากเป็นหมอจริงต้องมีชื่อในเว็บแพทยสภา


วันที่ 15 ส.ค. 68 มีรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อมูลพร้อมภาพหลักฐาน แฉหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยนำรูปและข้อมูลแสดงในลักษณะเป็นแพทย์จริง ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือจบการศึกษาแพทย์ตามหลักสูตร โดยเพจดังกล่าวระบุว่า หญิงคนนี้ใช้เอกสารดังกล่าวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเชิงพาณิชย์ เช่น การขายอาหารเสริม


นอกจากนี้ ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของหญิงสาวรายดังกล่าว ยังพบการโพสต์สเตตัสยาวหลายครั้ง เล่าประสบการณ์การทำงานในฐานะ “หมอ” รวมถึงพูดถึงการรักษาคนไข้ราวกับเป็นแพทย์ตัวจริง สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ใช้งานโซเชียลจำนวนมาก หลายคนมองว่าเป็นการหลอกลวงและเป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าหญิงสาวรายนี้เคยมีพฤติกรรมแอบอ้างสถานะนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ โดยมีการเผยแพร่ภาพบัตรประจำตัวนักศึกษาที่มีรหัสลงท้ายด้วย “270” อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัยให้ข้อมูลว่า ในแต่ละปีจะรับนักศึกษาแพทย์เพียง 250 คนเท่านั้น และรหัสนักศึกษาของแพทย์จะต้องลงท้ายด้วย “250” ไม่ใช่ “270” ซึ่งยิ่งตอกย้ำข้อสงสัยว่าบัตรดังกล่าวอาจเป็นของปลอม หรือใช้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการตรวจสอบพบข้อมูลจากกลุ่มโซเชียลมีเดียของมหาวิทยาลัยเดียวกันที่มีผู้เสียหายออกมาแฉว่า หญิงสาวรายนี้เคยมีพฤติกรรมฉ้อโกงด้านการเงิน และยังมีข่าวลือเชื่อมโยงว่าอาจเคยเกี่ยวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในอดีต แม้ประเด็นนี้ยังต้องรอการยืนยัน แต่ก็ทำให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเดือดหนักกว่าเดิม

...



ในเวลาต่อมา ทีมข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่แพทยสภา ซึ่งได้รับข้อมูลว่า กรณีลักษณะนี้จะต้องผ่านการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ภายในก่อน หากพบว่ามีการแอบอ้างเป็นแพทย์โดยไม่มีคุณสมบัติจริง แพทยสภาจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี เนื่องจากการแอบอ้างหรือประกอบวิชาชีพแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม และเข้าข่ายความผิดทางอาญา มีโทษทั้งจำคุกและปรับ

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวกำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสังคมออนไลน์ และรอความชัดเจนจากการตรวจสอบของแพทยสภา ว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นมีสถานะเป็นแพทย์จริงหรือไม่

ขณะที่ แฟนเพจ Drama-addict ระบุว่า จากกรณีหมอปลอม ก่อนจะล็อกเฟซไปได้โพสต์แก้ต่างดังนี้ ถ้ามีใบประกอบวิชาชีพแล้ว จะต้องมีชื่อในเว็บแพทยสภาทุกคนครับและไม่ใช่สิทธิของหมอว่าจะเปิดเผยตัวตนออนไลน์ไหม

หมอไม่มีสิทธิเลือกว่าจะไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของตัวเองปรากฏในเว็บแพทยสภา ถ้าเป็นหมอจริง ต้องมีชื่อในนั้นทุกคน เพื่อให้ประชาชนทำการตรวจสอบข้อมูลได้

ส่วนบัตรประจำตัวแพทย์จากแพทยสภานั้น เช็กชื่อในเว็บแพทยสภาได้ มีทั้งชื่อหน้า เลข ว สาขาที่เรียนมาครบถ้วน จะพกบัตรไว้ทำอะไรล่ะ พอบัตรหมดอายุก็ไม่มีใครสนใจไปต่ออายุบัตรกันแล้ว

ส่วนการแอบอ้างเป็นแพทย์นั้น มีกฎหมายระบุว่า ห้ามแอบอ้างเป็นแพทย์หากไม่ได้รับวุฒิหรือการรับรองจากแพทยสภา เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยอย่างรุนแรง รวมถึงห้ามใช้คำหรือย่อที่สื่อถึงความเป็นแพทย์โดยมิชอบ หากผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 27 หรือมาตรา 28 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อันนี้คือแอบอ้างเฉยๆก็ไม่ได้ ถ้าแอบอ้างแล้วไปรักษาคนไข้ด้วย อันนี้ยิ่งมีโทษเพิ่มไปอีกหลายกระทง.