จากกรณีกำแพงภาษีสหรัฐฯ ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้าใหม่เปิดทางให้แต่ละประเทศเจรจา ก่อนมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.ที่จะถึงนี้ โดย "ประเทศไทย" ถูกเก็บที่ 36% และทีมไทยแลนด์กำลังเดินหน้าเจรจาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด 15 ก.ค. 68 อินโดนีเซีย กลายเป็นประเทศล่าสุดที่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ อัตราภาษีจาก 36% เป็น 19% โดยถือเป็นประเทศที่ 2 ของอาเซียน ต่อจากเวียดนาม ที่เจรจาจากภาษี 46% เป็น 20% ซึ่งในสนามการเจรจานี้ "ไทย" แตกต่างจากทั้ง 2 ประเทศนี้อย่างไร?
- มูลค่าการค้าและการเกินดุลสหรัฐฯ
ในทั้ง 3 ประเทศ เวียดนามมีมูลค่าการค้ากับสหรัฐฯ มากที่สุด โดยข้อมูลจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) พบในปี 2024 อยู่ที่ 149.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 5.3 ล้านล้านบาท) โดยเกินดุลสหรัฐฯ ที่ 123.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 4.4 ล้านล้านบาท)
...
ขณะที่ประเทศไทย มีมูลค่าการค้ากับสหรัฐฯ ที่ 81 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2 ล้านล้านบาท) เกินดุลสหรัฐฯ ที่ 45.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.4 ล้านล้านบาท)
ส่วนอินโดนีเซีย อยู่ที่ 38.3 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.4 ล้านล้านบาท) โดยเกินดุลสหรัฐฯ ที่ 17.9 พันล้านดอลลาร์ (ราว 6.4 แสนล้านบาท)
- จำนวนประชากรและขนาดเศรษฐกิจ หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
อินโดนีเซีย มีประชากรราว 280 ล้านคน ขณะที่ข้อมูลจากธนาคารโลก รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปี 2024 อยู่ที่ราว 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 48.9 ล้านล้านบาท) โดยเป็นประเทศที่มีประชากรและมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ขณะที่เวียดนามมีประชากรราว 101 ล้านคน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ราว 476.4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 16.7 ล้านล้านบาท)
ประเทศไทย มีจำนวนประชากร 66 ล้านคน ด้านผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบมีมูลค่า 18.58 ล้านล้านบาท
- ค่าแรงขั้นต่ำ
อินโดนีเซีย มีค่าแรงขั้นต่ำแตกต่างกันไปตามจังหวัด โดยมากที่สุดคือ กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงที่ 5,396,760 รูเปียห์ (ราว 10,780 บาท) ต่อเดือน น้อยที่สุดที่จังหวัดชวากลาง ที่ 2,169,348 รูเปียห์ (ราว 4,300 บาท) ขณะที่ค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ 371 บาท/วัน
ประเทศไทย อัตราค่าแรงขั้นต่ำล่าสุดที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 337-400 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัด เฉลี่ยอยู่ที่ 364 บาท/วัน
เวียดนาม มีค่าแรงขั้นต่ำแตกต่างกันไปตามโซนที่รัฐบาลกำหนด โดยมากที่สุดอยู่ที่ 4,960,000 ดอง (ราว 6,200 บาท) น้อยที่สุด 3,450,000 ดอง (ราว 4,300 บาท) ขณะที่ค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ 215 บาท/วัน
- สินค้าส่งออกหลักไปสหรัฐฯ
สินค้าส่งออกหลักจากอินโดนีเซียไปยังสหรัฐฯ คือ น้ำมันปาล์ม, เฟอร์นิเจอร์, ยาง, สิ่งทอ, อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่สินค้าส่งออกหลักของเวียดนาม คือ เครื่องจักรไฟฟ้า, หม้อน้ำ, เฟอร์นิเจอร์, รองเท้า, เสื้อผ้าและเครื่องประดับ
ในส่วนของประเทศไทย ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายการสินค้าส่งออกหลักที่จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ยางรถยนต์, เซมิคอนดักเตอร์, หม้อแปลงไฟฟ้า
- ข้อเสนอเจรจาภาษีสหรัฐฯ
เวียดนาม เป็นประเทศอาเซียนแรกที่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ โดยเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ ภาษี 0%, เข้มงวดเรื่องแหล่งกำเนิดสินค้า ในสินค้าสวมสิทธิ (Transshipment) หรือการส่งผ่านสินค้าจากเวียดนาม จะมีการเก็บภาษี 40%
...
อินโดนีเซีย เปิดตลาดสินค้าสหรัฐฯ ภาษี 0% ขณะที่สินค้าสวมสิทธิ (Transshipment) จะเก็บตามอัตราภาษีของประเทศต้นทาง บวกเพิ่มกับอัตราภาษีของอินโดนีเซีย นอกจากนี้อินโดนีเซียจะซื้อพลังงาน 5.4 แสนล้านบาท ซื้อสินค้าเกษตร 1.6 แสนล้านบาท และซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 50 ลำ ในจำนวนนั้นรวมรุ่น 777 ด้วย
ในส่วน ประเทศไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมไปยังสหรัฐฯ เปิดตลาดสินค้าสหรัฐฯ ภาษี 0% เกือบ 90% ของมูลค่าสินค้าที่สหรัฐฯ ส่งมาไทย, ป้องกันสินค้าสวมสิทธิสินค้า โดยจะเพิ่มการใช้วัตถุดิบหรือส่วนประกอบที่มีการผลิตในประเทศไทย (Local content) ซึ่งแต่เดิมอยู่ที่ 40% อาจเพิ่มเป็น 60-70% ส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ มากขึ้น เปิดตลาดสินค้าเกษตร และซื้อพลังงานเพิ่ม
ขอบคุณ : thairath, worldbank, aseanbriefing, importglobals,ustr, vietnam-briefing
...