จากกรณีการปะทะกันตามแนวชายแดนระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา และยังคงมีการปะทะต่อเนื่องในวันนี้ (25 ก.ค.) โดยกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยข้อมูล ณ 09.00 น. ว่ามีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 13 ราย บาดเจ็บ 31 ราย
หลายประเทศได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น วานนี้ (24 ก.ค.68) นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โพสต์เฟซบุ๊กว่าได้พูดคุยกับผู้นำไทยและมาเลเซียแล้ว เพื่อแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมร้องขอให้สองฝ่ายหยุดยิงในทันที เพื่อเปิดทางสำหรับการเจรจาสันติภาพ
“ในฐานะที่มาเลเซียเป็นประธานอาเซียนปี 2025 ผมได้ร้องขอโดยตรงไปยังผู้นำทั้งสองให้หยุดยิงในทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ขัดแย้งมากไปกว่านี้ และสร้างพื้นที่สำหรับการเจรจาสันติภาพและการแก้ปัญหาทางการทูต”
ขณะที่นาย กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวประจำวันที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 24 ก.ค. ว่า จีนกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมีจุดยืนที่ยุติธรรม เป็นกลาง ส่งเสริมการแก้ไขปัญหาด้วยสันติภาพและการเจรจา คำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกัน
"เรากังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้น และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและหารือ”
...
ด้านสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้โพสต์แถลงการณ์ในวันนี้ (25 ก.ค.) ระบุ สหรัฐฯ มีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับรายงานการต่อสู้ที่ทวีความรุนแรงขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เรารู้สึกตกใจเป็นอย่างมากกับรายงานถึงอันตรายที่เกิดขึ้นกับพลเรือนผู้บริสุทธิ์ เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียชีวิต เราเรียกร้องอย่างจริงจังให้ยุติการโจมตีโดยทันที ปกป้องพลเรือน และระงับข้อพิพาทด้วยสันติวิธี
เช่นเดียวกับนายทอมมี พิกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ได้กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนวานนี้ (24 ก.ค.)
“เรากังวลอย่างยิ่งต่อความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรายงานความสูญเสียของพลเรือน สหรัฐฯ เรียกร้องให้ยุติการสู้รบโดยทันที ปกป้องพลเรือน และแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี”
ขณะที่นายอานัวร์ เอล อานูนี โฆษกด้านกิจการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ได้โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ว่า
“อียูกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นบริเวณชายแดน ซึ่งมีรายงานพลเรือนบาดเจ็บและเสียชีวิต เราขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายลดความตึงเครียดและแก้ปัญหาผ่านการเจรจาหรือสันติวิธีอื่นๆ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติ"
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยโพสต์แถลงการณ์กระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศ สาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ระบุ
"ฝรั่งเศสขอแสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุปะทะบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิ9 ฝรั่งเศสขอเรียกร้องให้กัมพูชาและไทยยุติการปะทะโดยทันที และยึดหลักสันติวิธีในการแก้ไขข้อพิพาทตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ"
นอกจากนี้ ยังได้มีการแนะนำให้พลเมืองฝรั่งเศสหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ชายแดนดังกล่าว สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอยู่แล้ว ขอให้เดินทางออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด และสามารถแจ้งข้อมูลติดต่อของตนต่อสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสได้
...
ที่มา : reuters, Anwar Ibrahim | Facebook, globaltimes, x/AnouarEUspox