เปิดเหตุผล ศาลฎีกาฯ บังคับโทษคุก 1 ปี “ทักษิณ ชินวัตร” คดีชั้น 14 ชี้รักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นำตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ   

วันนี้ (9 ก.ย. 68) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี นายทักษิณ ชินวัตร คดีชั้น 14 ชี้รักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยใจความสำคัญในการวินิจฉัยมีดังนี้


1.ในคืนวันที่ 22 ส.ค. 66 หลังนายทักษิณ เข้าเรือนจำวันแรก เวลา 22.00 น. แจ้งว่ามีอาการอ่อนเพลีย แน่นหน้าอก ตรวจพบว่าความดันโลหิตสูง พยาบาลเวรทำบันทึกส่งไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พัศดีเวรอนุญาตส่งตัว จากนั้นก็ส่งตัวไป รพ.ตำรวจเลย โดยไม่ส่ง รพ.ราชทัณฑ์ ก่อน ทั้งที่อยู่ห่าง 200 เมตร และมีแพทย์เวร ข้ามขั้นตอนตาม พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ 2560 ที่ต้องได้รับการตรวจจากแพทย์ในสถานพยาบาลในเรือนจำ หากแพทย์มีความเห็นว่ารักษาแล้วจะไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวรักษานอกเรือนจำ

2.การส่งตัวเป็นแบบฉุกเฉิน แต่เมื่อถึง รพ.ตำรวจ ได้พานายทักษิณไปที่ห้องพักพิเศษ ชั้นที่ 14 ซึ่งไม่ใช่ห้องฉุกเฉินหรือห้องอุบัติเหตุ ขัดกับระเบียบของ รพ.ตำรวจ ว่าด้วยการรับตัวผู้ป่วยคดีที่เป็นผู้ต้องหา ที่กำหนดแนวทางว่ากรณีนอกเวลาราชการ แพทย์ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่ห้องฉุกเฉินและอุบัติเหตุจะเป็นผู้ให้การตรวจรักษา และกำหนดแนวทางการรับตัวผู้ป่วยคดี เว้นแต่นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) จะพิจารณาอนุญาตเป็นอย่างอื่น

...

3.ความเห็นจากอาจารย์แพทย์พบว่า เมื่อตรวจสอบจากเวชระเบียน นายทักษิณไม่มีการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจมาดูอาการทันที แต่มาตรวจในวันที่ 24 ส.ค. 66 หลังพ้น 24 ชม. ไปแล้ว และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจระบุว่า ที่ รพ.ราชทัณฑ์ มีเครื่องมือตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ มียาขยายหลอดลมและยาลดความดันโลหิตที่ใช้รักษานายทักษิณตามเวชระเบียนของ รพ.ตำรวจ แสดงให้เห็นได้ว่า อาการของนายทักษิณในคืนเกิดเหตุอยู่ในศักยภาพที่ รพ.ราชทัณฑ์ สามารถรักษาได้ ไม่จำต้องส่งตัว


4.พบอาการของนายทักษิณ ที่ระบุในเวชระเบียน รพ.ตำรวจ นับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 66 กลับมารักษาที่ รพ.ราชทัณฑ์ ได้

5.การที่แพทย์ รพ.ตำรวจ ออกใบแสดงความเห็น ขยายเวลารักษานอกเรือนจำต่อไปเกินกว่า 30 วัน 60 วัน และ 120 วัน โดยอ้างว่าต้องรักษาแผลผ่าตัด ต้องผ่าตัดด่วน ต้องรักษาสมองขาดเลือดและผ่าตัดกระดูกคอเสื่อม ทั้งที่การผ่าตัดตามที่ระบุในใบแสดงความเห็นแพทย์เป็นการผ่าตัดนิ้วล็อก ผ่าตัดเอ็นหัวไหล่ขวาซึ่งฉีกขาดเพราะประสบอุบัติเหตุขณะพักอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ไม่ใช่สาเหตุการป่วยอันเป็นเหตุที่ใช้ส่งตัวจำเลยมาที่ รพ.ตำรวจ และนายทักษิณปฏิเสธการผ่าตัดภาวะกระดูกคอเสื่อม

6.ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การบังคับโทษไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายทักษิณ รู้ว่าตนไม่ได้ป่วยวิกฤต นำเอาเวลาพักที่ รพ.ตำรวจ หักเป็นวันคุมขังไม่ได้

7.นอกจากนี้พบว่านายทักษิณ มีส่วนตัดสินใจในกระบวนการรักษาของแพทย์ โดยปฏิเสธการผ่าตัดโรคหัวใจ และโรคกระดูกคอ แต่ให้แพทย์รักษาด้วยยาตามอาการ และเลือกรับการผ่าตัดนิ้วล็อกและเอ็นหัวไหล่ขวา ซึ่งไม่ใช่เรื่องด่วนและเป็นผลทำให้อยู่ รพ.ตำรวจ นานขึ้น นายทักษิณจึงได้รับประโยชน์จากการพักที่ รพ.ตำรวจ โดยไม่ต้องกลับไปถูกคุมขังที่เรือนจำ


...