เปิดหลักสากลไทย ยังไม่ส่งคืนโบราณวัตถุ 20 ชิ้น ให้กัมพูชา พบข้อมูลอยู่ระหว่างตรวจสอบละเอียดอีกครั้ง ตามหลักส่งมอบโบราณวัตถุสากล คาดการณ์พิจารณาไม่เสร็จทันเดือน ส.ค.นี้ อย่างที่มีกระแสข่าว

เมื่อวาน (6 ก.ค.68) กัมพูชาออกแถลงการณ์เร่งรัดให้ไทยส่งคืนโบราณวัตถุ 20 รายการตามข้อตกลง ยืนยันพร้อมออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ถูกพักจากตำแหน่งชั่วคราว ขณะนี้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมว่า กระบวนการส่งคืนศิลปวัตถุอาจชะลอออกไปก่อน เนื่องจากไม่ได้จัดสรรงบไว้สำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะสำหรับในปีงบประมาณปัจจุบัน

จากข้อมูลการสืบค้นของทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ พบว่าหลักการสากลในการส่งมอบโบราณวัตถุของไทยให้กัมพูชา ขณะนี้ยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณไว้ตอนนี้ โดยกำหนดการเดิมตามสื่อต่างๆ คาดมีการส่งมอบในเดือนสิงหาคมนี้

เนื่องจากต้องมีขั้นตอนในการทำระเบียบวิธีการคืนโบราณวัตถุทั้ง 20 ชิ้น รวมถึงการวางแผนการในการส่งมอบตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง เพราะสิ่งที่จะส่งคืนเป็นโบราณวัตถุ ต้องมีแผนในการรักษาความปลอดภัย ด้วยขั้นตอนเหล่านี้จึงอาจยังไม่มีกำหนดการส่งคืนที่แน่นอน ซึ่งในการส่งคืนก็ต้องมีความเหมาะสมในสถานการณ์ด้วย

...

จากข้อมูลพบว่า โบราณวัตถุทั้ง 20 ชิ้น เป็นประเด็นมาตั้งแต่ปี 2543 ก่อนหน้านี้มีการทยอยส่งคืนกัมพูชามาเรื่อยๆ เพราะตามหลักสากล การจะขอคืนโบราณวัตถุ ต้องมีหลักฐานยืนยันมาแสดงว่าเป็นของประเทศนั้นจริง และการที่ยังไม่ส่งคืนขณะนี้ ไม่ได้เกี่ยวโยงกับสถานการณ์ระหว่าง 2 ประเทศในตอนนี้ แต่ทุกอย่างยังเป็นขั้นตอนสากลปกติ

หลักฐานยืนยันล่าสุด กัมพูชาได้ส่งข้อมูลมาเพิ่มเมื่อปีที่แล้ว (ปี 2567) โดยตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ตามหลักการส่งมอบโบราณวัตถุตามหลักสากล

งบประมาณในการขนส่ง จะต้องมีผู้ชำนาญการในการขนส่งโบราณวัตถุโดยเฉพาะ และต้องมีเจ้าหน้าที่ของ 2 ประเทศในการเดินทางร่วมด้วย เพราะหลักการส่งคืนคือ 1.ก่อนแพ็กลงลัง เจ้าหน้าที่ 2 ประเทศต้องดูร่วมกัน และ 2.เมื่อถึงปลายทางเจ้าหน้าที่ต้องสำรวจโบราณวัตถุว่าไม่มีความเสียหาย ซึ่งขั้นตอนส่งกลับมีความละเอียดอ่อนตามหลักสากล

ไทม์ไลน์ 20 โบราณวัตถุ

เจ้าหน้าที่ศุลกากรไทยตรวจพบการลักลอบนำเข้าวัตถุโบราณกว่า 43 รายการ จากประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2543 หรือกว่า 25 ปีก่อน จึงมีการนำของกลางไปเก็บไว้ที่คลังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นวัตถุโบราณจากที่ใด เพื่อส่งคืนประเทศต้นทาง

ระหว่างปี 2552-2558 มีการตรวจสอบเสร็จสิ้น และยืนยันว่า วัตถุโบราณที่ตรวจยึดมาส่วนหนึ่ง จำนวน 23 รายการ มีต้นทางมาจาก “กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านของไทย มีการดำเนินการส่งคืนตามกฎหมายระหว่างประเทศ และข้อตกลงร่วมกัน


ขณะที่ 20 รายการที่เหลือนั้น ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นวัตถุโบราณของใคร เพราะมีความใกล้เคียงกันระหว่างของไทยและกัมพูชา จึงยังไม่ดำเนินการส่งคืนอย่างเป็นทางการ จนกว่าจะตรวจพิสูจน์ทราบให้ถ่องแท้ก่อน