เปิดข้อกฎหมาย “สีกากอล์ฟ” ถูกออกหมายจับ 3 ข้อหา “ทนายเกิดผล” ชี้ไม่มีพระแจ้งความสีกากอล์ฟผิดปกติ อาจพัวพันคดีอื่นอีก หนุนออกกฎพระผู้ใหญ่ทำผิดรับโทษหนักกว่า
จากกรณี “สีกากอล์ฟ” ที่มีความสัมพันธ์กับพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป และพระบางรูปได้โอนเงินให้ทั้งจากบัญชีส่วนตัวและบัญชีวัด ว่าสุดวันนี้ (15 ก.ค.68) ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติออกหมายจับ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือ “สีกากอล์ฟ” ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา โอนเงินจากบัญชีของวัดให้ 3.8 แสนบาท (อ่านต่อ: บุกจับ "สีกากอล์ฟ" ตามหมายจับ 3 ข้อหาหนัก คาบ้านพักหรูย่านนนทบุรี)
ทั้งนี้เจ้าอาวาส ถือเป็นเจ้าพนักงาน (ตาม ม.45 พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ.2505) โดยมาตรา 147 บัญญัติว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 1-400,000 บาท ในส่วนของผู้สนับสนุน ผิดมาตรา 86 ต้องระวางโทษ 2 ใน 3
...
ขณะที่ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 บัญญัติว่า มาตรา 60 ผู้ใดกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000- 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากการสมคบกันฟอกเงิน 2 คนขึ้นไป “ตกลง” กันว่าจะไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ถือว่ามีความผิดต้องรับโทษกึ่งหนึ่งของโทษตามมาตรา 60 และถ้ายังพากันไป “กระทำ” ความผิดตามที่ตกลงกันไว้ด้วยแล้ว ต้องรับโทษเต็มตามมาตรา 60
ในส่วนของความผิด รับของโจร มาตรา 357 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท แต่หากเป็นกรณีร้ายแรง รับของโจรเพื่อนำไปค้ากำไร มีโทษจำคุก 5-15 ปี ปรับ 1-300,000 บาท
ล่าสุดกองปราบฯ แถลง เตรียมสอบปากคำและแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในความผิดฉ้อโกง อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ จ.พิจิตรและความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ
ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ให้ความเห็นเรื่องข้อกฎหมายว่า ในประเด็นนี้ตัวอดีตพระมีความผิดแน่นอน แต่ตัวสีกากอล์ฟต้องมีการสอบสวนต่อว่ารู้เห็นหรือไม่ว่าเป็นบัญชีของวัด หากไม่รู้ก็อาจจะผิดแค่รับของโจร
มองว่าการที่พระส่วนใหญ่ไม่มาแจ้งความเอาผิดสีกากอล์ฟเลยมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ อาจมีการทำข้อตกลง กุมความลับของกันและกันไว้ หรืออาจมีบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและพัวพันไปถึงคดีอื่นอีก เป็นเหตุให้พระไม่กล้ามาแจ้งความ
ในส่วนที่หลายฝ่ายอยากให้มีการลงโทษสีกาหรือฆราวาสที่มีความสัมพันธ์กับพระนั้น ทนายเกิดผล มองว่า เรื่องนี้ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง หากจะลงโทษฆราวาสก็ต้องลงโทษพระด้วย แต่ในขณะเดียวกันหากเป็นกรณีที่ไม่ได้รุนแรง เช่น พระบวชใหม่ยังไม่แตกฉานและเกิดไปมีความรักกับฆราวาสโดยที่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวการเงินของวัด การลงโทษจำคุกก็อาจจะรุนแรงเกินไป และหากดำเนินคดีกับพระแล้วต้องดำเนินคดีกับนักบวชศาสนาอื่นที่ทำผิดด้วยหรือไม่ เรื่องนี้จึงต้องดูให้รอบด้าน
อย่างไรก็ดีมองว่าควรมีมาตรการการที่เข้มงวดมากขึ้นแต่ต้องไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ หรืออาจจะลงโทษตามลำดับชั้นพระ หากเป็นพระที่มีตำแหน่งสูงมีบทบาทมากเมื่อทำผิดก็ควรได้รับโทษมากกว่าพระชั้นผู้น้อย
ขอบคุณ : สถาบันนิติธรรมาลัย, ปปง., สกธ.
...