ในวันที่ความเหนื่อยล้า ความเครียดค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ การดูแลสุขภาวะทางจิตใจของคนไทย นับว่ามีความสำคัญ หลายภาคส่วนช่วยกันรณรงค์ ตระหนักถึงความสำคัญของ "โรคซึมเศร้า" สาเหตุสำคัญของการฆ่าตัวตาย
ภารกิจ SEE TRUE เปิดข้อมูลอันน่าสะเทือนใจ สถิติการฆ่าตัวตายปี 2566 พบคนไทยเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายถึง 5,172 คน หรือเฉลี่ยวันละ 14 คน หรือเสียชีวิต 1 คน ในทุก 2 ชั่วโมง และคนไทยพยายามฆ่าตัวตาย 31,110 คน หรือเฉลี่ยวันละ 85 คน
ขณะที่ข้อมูลจาก World Population Review (WPR) พบว่า ไทยมีจำนวนคนคิดฆ่าตัวตายสูงเป็นลำดับที่ 6 จาก 15 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก
เมื่อพูดถึงปัญหาการฆ่าตัวตายแล้ว แน่นอนว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจาก “โรคซึมเศร้า” ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยังพบคนไทยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก Thaihealth Watch ปี 2568 พบว่าในระยะเวลาเพียง 1 ปี คนไทยมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผู้ที่มีความเครียดสูงในระดับเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพจิต พุ่งเป็น 116,250 คน ในปี 2567 เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากจำนวน 38,250 คน ในปี 2566
ขณะที่ผู้เสี่ยงซึมเศร้า จาก 49,300 คนในปี 2566 พุ่งเป็น 129,000 คนในปี 2567 เพิ่มขึ้นกว่า 2.6 เท่า และผู้เสี่ยงฆ่าตัวตาย จาก 27,200 คนในปี 2566 พุ่งเป็น 79,500 คน เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าคนไทยกำลังขาดวิธีการจัดการชีวิตที่สมดุล และตอกย้ำแนวโน้มปัญหาสุขภาพจิตที่มีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาของโรคซึมเศร้า ทีมงาน SEE TRUE ได้เข้าไปพูดคุยกับ "เปียร์" จุลีมาศ สมทราย เจ้าของช่องติ๊กต็อก "ฉันชื่อเปียร์" อดีตผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ที่รักษาตัวเองจนหาย ผันตัวมาสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยรายอื่นผ่านโลกออนไลน์
...
เปียร์เล่าว่า ด้วยภาระงานและความเครียดสะสม ยังไม่รู้วิธีรับมือกับปัญหา ท้ายที่สุดเธอมีภาวะซึมเศร้า ร่างกายเริ่มมีอาการผิดปกติจากการที่สารเคมีในสมองทำงานผิดปกติ เธอมีอาการดิ่ง ผู้ป่วยซึมเศร้าจะคุ้นเคยกับคำนี้ เพราะนี่เสมือนเป็นอาการกำเริบ เมื่อมีปัจจัยมากระทบจิตใจ จากประสบการณ์ของเปียร์ ช่วงที่มีอาการแบบนี้เธอจะไม่รู้สึกตัว โลกทั้งใบหม่นหมองเป็นสีดำ ทุกอย่างว่างเปล่า ร่างกายเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่สามารถสั่งการได้
ปากกากับสมุดกลายเป็นเพื่อนคู่ใจของเปียร์ ในยามที่รู้สึกอ่อนล้า ทุกความรู้สึกถูกถ่ายทอดอย่างบรรจงลงบนกระดาษ เพื่อย้ำเตือนความคิดทุกช่วงขณะว่าเธอกำลังรู้สึกอะไรอยู่
ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต รายงานสถานการณ์การฆ่าตัวตายในประเทศไทย ปีงบประมาณ 2566 พบว่า 5 จังหวัดที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จสูงสุด จ.เชียงใหม่ ครองอันดับ 1 ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประมาณ 250 คน และมีผู้พยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จอีกประมาณ 600 คน เป็นสถิติที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายปี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามรณรงค์ สร้างการตระหนักรู้ และช่วยเหลือประชาชน เพื่อสุขภาพจิตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ทีมงาน SEE TRUE ลงพื้นที่สอบถามเรื่องนี้กับโสรัตยา บัวชุม กำนัน ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้พบข้อมูลที่น่าตกใจว่าผู้ที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในหมู่บ้านแห่งนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และแม้การเข้าถึงและเข้าใจสภาพจิตใจของผู้ป่วย หรือคนในชุมชนจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพื่อลดปัญหานี้ผู้นำชุมชนก็พยายามช่วยรณรงค์ หวังเป็นวัคซีนทางใจ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับชาวบ้าน
ไม่เพียงแต่จังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องเฝ้าระวังจับตาเรื่องนี้ จังหวัดอื่น ๆ ก็พบอัตราการผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและจำนวนผู้คิดสั้นฆ่าตัวตายแยกย่อยต่างกันออกไป
เหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย ภาพรวมเกิดจากปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ อาการป่วยโรคทางกายเรื้อรัง, ป่วยโรคจิตเวช, เกิดจากการใช้แอลกอฮอล์, เคยมีประวัติทำร้ายตัวเอง และติดสารเสพติด ส่วนปัจจัยกระตุ้น เกิดจากปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและปัญหาเศรษฐกิจ
แต่สิ่งที่สำคัญคือหากรู้สึกว่าเริ่มมีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า ผู้ป่วยต้องเข้าพบจิตแพทย์ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการรักษา
...
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้ามามีบทบาทในการร่วมดูแลปัญหาโรคซึมเศร้า เบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการ สสส. เปิดเผยว่า สสส.ไม่ใช่ผู้ที่จะเข้าไปรักษาผู้ป่วย แต่ให้ “พื้นที่” และสร้างสิ่งแวดล้อมให้คนรู้สึกว่าพวกเขาจะต้องดีขึ้น โดยมีหลายโครงการที่เสริมสร้างให้คนได้เข้าใจตนเองมากขึ้น สร้างพื้นที่ปลอดภัย เอื้อให้คนมีสุขภาวะทางจิต เช่น แอปพลิเคชัน Persona Health ที่สามารถเข้าไปประเมินตนเองได้ว่า เข้าใกล้กับการเป็นโรคซึมเศร้าหรือยัง
“ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป...แม้กระทั่งความทุกข์ที่เข้ามา" การเติมเต็มวัคซีนทางใจจึงมีความสำคัญ ในยุคที่โลกมีวิวัฒนาการความเปลี่ยนแปลงอย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อรู้ตัวว่าอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้า การบำบัดและรักษาอย่างถูกวิธี สามารถทำให้หายจากโรคนี้ได้
...
คุณมีค่ามากกว่าที่คุณคิดเสมอ แค่คุณยัง “มีลมหายใจ” วันนี้คุณก็มีโอกาสเริ่มใหม่ได้ทุกวินาที
ติดตามได้ในภารกิจ SEE TRUE ให้คุณเห็นความจริง 26-27 ส.ค.68 ทางรายการไทยรัฐนิวส์โชว์ หลังเวลา 21.00 น.