ศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย คำร้องของประธานวุฒิสภา กรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กับ สมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ชี้ชะตาเก้าอี้นายกฯ ว่าจะได้อยู่ต่อหรือต้องไป ในวันที่ 29 ส.ค.นี้


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร เดินทางมาเป็นพยานบุคคลในการไต่สวน ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และไม่มีท่าทีว่าจะชิงลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้หลุดพ้นจากคดีดังกล่าวด้วย จึงคาดว่ามีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าอาจจะรอดจากคดีนี้ และได้นั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อไป หลังจากถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ เป็นเพียง รมว.วัฒนธรรม ตำแหน่งเดียวมาเกือบ 2 เดือนแล้ว


หากนายกฯ “รอด” ศาลไม่ฟันผิด


กรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน มีเสียงส่วนมากชี้ว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ได้มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรง จะทำให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ น.ส.แพทองธาร จะหลุดพ้นจากคำร้องนี้ พร้อมกับได้คืนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐบาลจะได้อำนาจเต็มกลับมา และเดินหน้าฝ่ายบริหารได้ต่อไป


ทั้งนี้ อาจจะมีแรงต้านจากกลุ่มผู้ไม่สนับสนุนรัฐบาลที่ยกระดับการขับไล่ ชุมนุม เหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงอาจมีคำร้องในประเด็นอื่นเพิ่มเติม ซึ่งภาพการเมืองที่หยุดชะงักอาจจะกลับมาอีกก็เป็นได้


หากนายกฯ “ไม่รอด” ศาลฟันผิด


หากวันที่ 29 ส.ค.นี้ เสียงส่วนใหญ่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ว่า น.ส.แพทองธาร มีความม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรงจริงตามคำร้อง จะทำให้ต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกตัดสินในช่วงเวลาใกล้เคียงกันเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา กระบวนการขั้นตอนต่อไปก็จะคล้ายคลึงกัน

...


คณะรัฐมนตรีจะพ้นจากตำแหน่งยกชุดด้วย โดยประธานสภาฯ จะเปิดประชุมในวาระพิเศษเพื่อเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จากรายชื่อแคนดิเดต 5 คนที่เหลืออยู่ อาจมีการเสนอ 1 รายชื่อเพื่อให้รับรอง หรือเสนอแข่งกันก็ได้ เพราะยังมีชื่อของนายอนุทิน ซึ่งเป็นคนเดียวที่อยู่ในซีกฝ่ายค้าน โดยเฉพาะเมื่อเสียงในสภาฯ ค่อนข้างปริ่มน้ำ ดังที่จะเห็นจากการประชุมสภาฯ ช่วงที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สภาฯ ล่ม หรือชิงปิดประชุมก่อนหลายครั้ง


สำหรับรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในปัจจุบันที่คุณสมบัติถูกต้อง ได้แก่


  • ชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย)
  • อนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย)
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
  • พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
  • จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (ประชาธิปัตย์)


หลังจากได้รับเสียงส่วนมากของสภาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ก่อนจะเข้าถวายสัตย์ฯ และเริ่มเดินหน้าทำงานในฝ่ายบริหารต่อไป คาดว่าจะใช้เสร็จสิ้นในช่วงปลายเดือนกันยายน


ทั้งนี้ อาจมีการพลิกขั้ว หรือจับกลุ่มก้อนทางการเมืองขึ้นใหม่ได้ ตามที่ก่อนหน้านี้แกนนำพรรคประชาชนระบุว่า อาจร่วมยกมือโหวตให้นายอนุทิน แคนดิเดตจากพรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นนายกฯ ชั่วคราว เพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะยุบสภาฯ เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งต่อไป หรืออาจจะออกมาในรูปแบบอื่นๆ ได้