9 ข้อสงสัย เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ปมเงินวัด 300 ล้าน ยังไม่ถึงขั้นปาราชิก? พิรุธความขัดแย้งภายใน ชี้เงินวัดต้องเซ็นเบิกมากกว่า 3 – 4 คน ย้ำรอผลพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เบื้องต้นยังทำหน้าที่เจ้าอาวาสต่อได้

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ถูกกล่าวหากรณียักยอกเงินวัด 300 ล้านบาท และได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเป็นเจ้าคณะภาค 14 แต่กลับมีพฤติกรรมยักยอกเงินของวัดไปเล่นพนันออนไลน์ จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส โดยส่งสายลับเข้าไปแฝงตัวอยู่ในวัดนานกว่า 8 เดือน จนกระทั่งพิสูจน์ทราบแน่ชัดแล้วว่า พระธรรมวชิรานุวัตร มีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง เบื้องต้นยังอยู่ในขั้นการสอบสวนของตำรวจ

...

ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ถึงกรณีที่เกิดขึ้นถึงมาตรการในการตรวจสอบเกี่ยวกับข้อสงสัยการทำผิดของสงฆ์ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ทางคดีเกี่ยวกับหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ในพื้นที่ยังไม่มีการแจ้งถึงการปฏิบัติต่อจากนี้ การสอบสวนเป็นหน้าที่ของทางตำรวจสอบสวนกลาง ในทางของสงฆ์ต้องรอพระผู้ใหญ่ให้ข้อมูลถึงความชัดเจนอีกครั้ง

พระมหาวีระธิศ วะรินโธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดป้อมวิเชียรโชติการาม จ.สมุทรสาคร ให้ข้อมูลว่า กรณีของเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ถูกกล่าวหาเรื่องยักยอกเงินสงฆ์ มีประเด็นที่น่าสงสัยดังนี้

- ถ้าเกิดปัญหาขึ้นในวัด ทำไมลูกศิษย์คนรอบข้างไม่ตักเตือนให้จบภายใน

- การเบิกเงินวัดไปใช้ ต้องมีคนที่เซ็นร่วมกันไม่ต่ำกว่า 3 – 4 คน เจ้าอาวาสไม่สามารถเซ็นองค์เดียวได้

- ยกเว้นเสียแต่มีบุคคลภายในรู้เห็นเป็นใจภายใน ทางตำรวจก็ต้องสืบหาบุคคลเหล่านั้น

- วัดไร่ขิงมีการตั้งเป็นมูลนิธิ ดังนั้นการเซ็นเบิกใช้เงินต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแล ไม่ใช่ว่าใครจะเซ็นเพื่อนำเงินออกมากันได้ง่าย

- คณะกรรมการวัดไร่ขิง ส่วนหนึ่งเป็นมาตั้งแต่เจ้าอาวาสองค์เก่า ซึ่งการรู้เห็นเป็นใจในการเบิกอาจไม่ใช่เรื่องง่าย

- หลายครั้งเมื่อมีการกล่าวหาเรื่องเงินสงฆ์ ก็มักมีบุคคลภายในรู้เห็นเป็นใจ แต่ถ้าสืบแล้วไม่มีความผิดจริง พระหลายรูปก็ได้กลับคืนสมณะสงฆ์ ดังนั้นกรณีเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนอีกครั้ง

- พระหลายองค์ ไม่ได้มีความรู้ทางการเงิน อาจถูกคนใกล้ชิดหว่านล้อมให้โอนเงินในรูปแบบต่างๆ ซึ่งปลายทางฆราวาสเหล่านั้น นำไปทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมก็มี

- กรณีเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง แม้จะมีข้อกล่าวหา ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ เพราะการจะระงับปฏิบัติหน้าที่ได้ ต้องเป็นมติของมหาเถรสมาคม

- กรณีนี้ ยังไม่ถึงขั้นปาราชิก ตอนนี้เป็นเพียงการแจ้งข้อกล่าวหาทางคดี ซึ่งต้องรอการสอบสวนข้อเท็จจริงให้มีความชัดเจน และถ้าผลสอบสวนของตำรวจยืนยันว่ามีความผิดจริงถึงจะต้องสึกจากความเป็นพระ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น อีกด้านหนึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ในการหาหลักฐานมายืนยันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง