จากกรณี "ภาษีทรัมป์" หรือนโยบายกำแพงภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศใช้กับนานาประเทศทั่วโลก ทำให้แต่ละประเทศต้องสรรหาข้อแลกเปลี่ยนมาขึ้นโต๊ะเจรจา หวังเพื่อลดอัตราภาษีให้ได้ต่ำที่สุด รวมถึง ประเทศไทย ที่ตอนแรกถูกประกาศที่อัตรา 36% แต่สามารถบรรลุข้อตกลงจนได้อัตราภาษีที่ 19%

ในข้อเสนอหลักของแทบทุกประเทศ คือการเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ ภาษี 0% หรือการสั่งซื้อสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนึ่งสินค้าที่ปรากฏอยู่เสมอ คือ "เครื่องบินโบอิง" ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ไทยรัฐออนไลน์ หาคำตอบ 


"โบอิง" 1 ใน 2 บริษัทเครื่องบินยักษ์ใหญ่ของโลก

หากกล่าวถึงเครื่องบิน เชื่อว่ายี่ห้อหลักที่ทุกคนนึกถึงเป็นอันดับแรกคือ "แอร์บัส" (Airbus)บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติยุโรป และ "โบอิง"( Boeing) บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติอเมริกัน ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 บริษัทครองสัดส่วนตลาดรวมกันมากกว่า 90% โดยแอร์บัส ครองสัดส่วนตลาดมากกว่าที่ราว 56% ขณะที่โบอิง ครองสัดส่วนตลาดราว 40%

...

ในส่วนรายได้พบว่าในปี 2024 โบอิง มีรายได้ 66.51 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.15 ล้านล้านบาท โดยขาดทุน -11,817 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.8 แสนล้านบาท) ขณะที่แอร์บัส มีรายได้ $74.91 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.4 ล้านล้านบาท มีกำไร 4.4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.4 แสนล้านบาท)

สำหรับข้อมูลคำสั่งซื้อและการส่งมอบเครื่องบินปี 2024 แอร์บัส มีคำสั่งซื้อเครื่องบินมากกว่า ที่ 878 ลำ และส่งมอบ 766 ลำ ขณะที่โบอิง มีคำสั่งซื้อเครื่องบินที่ 569 ลำ และส่งมอบที่ 348 ลำเท่านั้น โดยแอร์บัสมียอดขายมากกว่าโบอิงติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2019 หนึ่งในปัจจัยสำคัญมาจาก "the MAX crisis" หรือวิกฤตเครื่องบินโบอิงรุ่น 737 MAX ที่ถูกสั่งจอดทั่วโลกในเดือน มีนาคม 2019 - ธันวาคม 2020 เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินรุ่นนี้ตกถึง 2 ครั้งในเวลา 5 เดือน รวมถึงยังมีรายงานอุบัติเหตุอีกหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา


"โบอิง" บทบาทสำคัญ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ธุรกิจอากาศยาน มีบทบาทสำคัญกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ มาตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นประเทศผู้นำอุตสาหกรรมนี้มาโดยตลอด เริ่มจากการผลิตเครื่องบินทางการทหาร ขยับขยายมาสู่เครื่องบินพาณิชย์และเทคโนโลยีอวกาศ และปัจจุบันเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดของประเทศ โดยมี "โบอิง" เป็นผู้ผลิตรายสำคัญ ข้อมูลจากนิตยสาร Forbes ในปี 2022 พบว่า เครื่องบินพลเรือน (Civilian aircraft) เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 4 ของสหรัฐฯ ที่สัดส่วน 4.1% ตามหลังเพียงสินค้าในกลุ่มพลังงานเท่านั้น

สำหรับ โบอิง ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1916 สำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย มีมูลค่าตามราคาตลาด (market cap) อยู่ที่ 168 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 5.4 ล้านล้านบาท ข้อมูลปี 2024 มีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 172,449 คน แบ่งเป็นในสหรัฐฯ 147,363 คน และประเทศอื่นๆ รวม 25,086 คน

กล่าวคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สร้างงานให้ชาวอเมริกันจำนวนมาก และมีความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของสหรัฐฯ โดยบริษัทวิเคราะห์เศรษฐกิจและการจำลองข้อมูล IMPLAN เคยประเมินไว้ว่าในช่วงเดือนกันยายน 2024 ที่พนักงานโบอิงกว่า 3 หมื่นคนได้หยุดงานประท้วงค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ส่งผลทำให้ GDP สหรัฐฯ ลดลงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (ราว 3.2 หมื่นล้านบาท)

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่การซื้อ "โบอิง" จะกลายเป็นหนึ่งในข้อเสนอสำคัญที่แต่ละประเทศใช้ในการต่อรอง เพราะเป็นสินค้าที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยังเป็นวิธีที่รวดเร็วจับต้องได้ เนื่องจากเครื่องบินเป็นสินค้ามีมูลค่าสูงเมื่อซื้อก็สามารถลดตัวเลขเกินดุลสหรัฐฯได้ทันที ทั้งยังเป็นสินค้าสำคัญที่มีความจำเป็นและมีการใช้งานอยู่แล้วในแต่ละประเทศด้วย

...


ประเทศไหนเตรียมซื้อ "โบอิง" แลกดีลภาษีบ้าง?

1. ไทย (ถูกเก็บภาษี 19%) 
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ในรายการ "กรรมการข่าว คุยนอกจอ" ถึงรายละเอียดการเจรจาภาษี ช่วงหนึ่งระบุว่า สายการบินแห่งชาติของไทยต้องการซื้อเครื่องบินโบอิงในจำนวนเยอะ โดยจะทยอยซื้อใน 5-10 ปี 

ขณะที่ล่าสุด 4 ส.ค.นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยเตรียมซื้อเครื่องบินใหม่ 80 ลำ โดยมีการตกลงซื้อโบอิงแล้ว 45 ลำและระยะถัดไปจะจัดหาอีก 35 ลำซึ่งอาจจะเป็นโบอิงอย่างไรก็ดี ยืนยันว่าแผนการจัดหาเครื่องบินของการบินไทยไม่เกี่ยวกับการเจรจาภาษีสหรัฐฯ

2. มาเลเซีย (ถูกเก็บภาษี 19%)

มีรายงานซื้อเครื่องบินโบอิง 26 ลำ แบ่งทยอยซื้อ 2 ระยะ ระยะละ 13 ลำ รวมมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ (ราว 6 แสนล้านบาท)

3. ญี่ปุ่น (ถูกเก็บภาษี 15%)

...

แถลงการณ์ทำเนียบขาว สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.กรณีสหรัฐฯ บรรลุการเจรจาภาษีกับญี่ปุ่น ในช่วงหนึ่งได้ระบุว่า ญี่ปุ่นสัญญาจะซื้อเครื่องบินพาณิชย์ของโบอิง 100 ลำ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานรายละเอียดเพิ่มเติม

4. อินโดนีเซีย (ถูกเก็บภาษี 19%) 

ตกลงซื้อเครื่องบินโบอิง 50 ลำ โดย "การูดา" สายการบินประจำชาติอินโดนีเซีย เผยว่ามีแผนขยายฝูงบินจำนวน 120 ลำ ใน 100 เส้นทาง ทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศในเวลา 5 ปี อย่างไรก็ดียังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นโบอิงทั้งหมดหรือไม่

5. กัมพูชา (ถูกเก็บภาษี 19%) 

ตกลงซื้อเครื่องบินโบอิง 737 MAX 8s จำนวน 10 ลำ และอาจซื้อเพิ่มได้อีก 10 ลำ ซึ่งเป็นดีลที่มีความสำคัญเนื่องจากเป็นเครื่องบินโบอิงลำแรกของประเทศ โดย แอร์แคมโบเดีย สายการบินประจำชาติ เดิมมีฝูงบินเพียง 6 ลำเท่านั้น 3 ลำเป็นเครื่องบินจากบริษัทเอทีอาร์ และอีก 3 ลำเป็นของแอร์บัส และยังเป็นการชิงตลาดเครื่องบินในประเทศกัมพูชาจาก COMAC บริษัทผลิตเครื่องบินพาณิชย์ของรัฐบาลจีน ที่กำลังพยายามขยายตลาดในภูมิภาคด้วย 

6. บังกลาเทศ (ถูกเก็บภาษี 20%) 

บังกลาเทศบรรลุข้อตกลงภาษีกับสหรัฐฯ หลังได้มีการยื่นข้อเสนอไปรอบที่ 3 โดยเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการสั่งซื้อเครื่องบินโบอิง 25 ลำ เพื่อนำมาใช้ในการเจรจาต่อรองภาษี 

...

ที่มา :  simpleflying, statista, fortune, flightglobal, ftnnews, boeing