อนุทิน นายกฯ คนที่ 32 ภารกิจฝ่าเส้นตายยุบสภา จัดทัพ ครม.โกยคะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า "นักวิชาการ” ประเมินเพื่อไทย เสี่ยง สส.ย้ายพรรคหนี

ผลโหวตนายกฯ คนที่ 32 สส.ในสภาฯ มีมติให้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยคะแนนเสียง 311 และโหวตให้ ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนเสียง 152 และงดออกเสียง 27 เสียง แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องเงื่อนไขเวลา ที่พรรคภูมิใจไทย ตอบรับพรรคประชาชน ทำให้ต้องเร่งจัดการในหลายนโยบายเพื่อให้ทันกับเส้นตายยุบสภาที่สัญญาไว้


ผศ.ว่าที่ ร.ต.จตุพล ดวงจิตร อาจารย์ประจำวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต มองว่า เสียง สส. ที่สนับสนุนคุณอนุทิน เป็นนายกฯ คนที่ 32 เป็นไปตามคาดที่ดีลไว้ก่อนหน้านี้ สิ่งแรกที่ต้องเร่งทำหลังรับตำแหน่ง ต้องแถลงนโยบายที่สามารถทำให้เป็นไปได้ ในระยะเวลาที่สัญญาไว้กับพรรคประชาชน เพราะมีเงื่อนไขว่ารัฐบาลที่ยุบสภาได้ ต้องแถลงนโยบายและเริ่มดำเนินการตามแผนก่อน

...

ด้วยกรอบระยะเวลาจะทำให้นโยบายที่ขายฝัน หรือนโยบายที่เป็นประชานิยมมากเกินไป จะเป็นข้อจำกัดในการทำงานของคุณอนุทิน

ส่วนเสียงโหวต "สส.งูเห่า" นอกเหนือจากที่ตกลงไว้ให้กับคุณอนุทิน ยังมีค่อนข้างน้อย โดยบางส่วนยังมีการตกลงผลประโยชน์ที่ยังไม่ชัดเจน หรือเกิดการดีลตำแหน่งยังไม่จบ เนื่องจากระยะเวลาการทำงานที่สั้น แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ถ้ามีการจัดสรรที่ชัดเจน ด้วยระยะเวลาอันสั้น การทำงานก็จะก่อประโยชน์ให้กับประชาชนค่อนข้างมาก

โผ ครม.อนุทิน 1 คงจะมีความชัดเจนในการที่พรรคภูมิใจไทย ที่จะดึงโควตาในกระทรวงหลักๆ เช่น กลาโหม มหาดไทย กระทรวงการคลัง

“สิ่งที่น่าเสียดายคือ พรรคประชาชนไม่ควรปล่อยให้พรรคภูมิใจไทย นำเกมฝ่ายรัฐบาลไปเพียงลำพัง เพราะสุดท้ายอาจทำให้สูญเสียอำนาจทางการเมือง รวมถึงการใช้กฎหมายในการจัดการประเด็นทุจริตที่แผ่วลง โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวโยงกับพรรคภูมิใจไทย ที่จะมีอิทธิพลมากต่อกระบวนการยุติธรรม”


ตำแหน่งรัฐมนตรี ที่เป็นโควตาของคนนอก ถือเป็นตัวเลือกที่สำคัญ เพราะจะลดแรงเสียดทานทางการเมือง ซึ่งคนนอกที่มาต้องมีความเชี่ยวชาญ และทำให้การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบมากขึ้น ซึ่ง 4เดือนตามกรอบเวลาของพรรคประชาชน คาดว่าไม่น่าทำได้ แต่คิดว่าต้องใช้เวลา 6 – 7 เดือนเป็นอย่างต่ำ ถึงจะยุบสภาฯ ได้

ด้วยระยะเวลาที่สั้น ของการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของคุณอนุทิน การสร้างภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรี จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นการนำคนนอกมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถ ยิ่งทำให้คะแนนเสียงของพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้าชนะคู่แข่งทางการเมืองได้


ด้านพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้ต้องจับตาว่า จะมีกลุ่มไหน ที่ย้ายพรรคบ้าง เพราะหลังจากนี้เมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็มีโอกาสที่จะย้ายไปอยู่กับพรรคอื่นมากขึ้น ยิ่งด้วยสภาวะที่คุณทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกไปดูไบ ในช่วงเวลาที่สำคัญ ยิ่งจะมีผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของ สส.ในพรรค


...





...