“การทูตทุเรียน” เครื่องมือที่จีนใช้เชื่อมสัมพันธ์อาเซียน ล่าสุด “กัมพูชา” หลายเป็นชาติที่ 5 ส่ง "ทุเรียนสด" ล็อตแรกถึงประเทศจีนแล้ว เพิ่มผู้แข่งขันในตลาดที่ “ไทย-เวียดนาม” ครอง ขณะที่ยอดนำเข้าปี 2025 ลดลง หลังจีนออกมาตรการเข้มคุณภาพ ตรวจพบ BY2 และแคดเมียมปนเปื้อน

สถานทูตจีนประจำกัมพูชาได้แถลงการณ์ผ่านแอคเคาท์วีแชต (WeChat) เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า “ทุเรียนสด” จากกัมพูชา ที่ขนส่งทางอากาศล็อตแรกปริมาณ 2 ตัน ได้เดินทางมาถึงมณฑลเหอหนาน ประเทศจีนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขนส่งด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิ (cold chain) ใช้เวลาแค่ 4 ชม.ทำให้ชาวจีนได้ทานทุเรียนสดๆ เหมือนเพิ่งเก็บจากต้น 

นายโพสะ มนี รมช.พาณิชย์กัมพูชา ระบุว่า การขนส่งทางอากาศ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาคุณภาพและคงความสดของทุเรียน และคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกทางอากาศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการของผู้นำเข้าจากจีนที่เพิ่มมากขึ้น 

ทุเรียน เป็นผลไม้ชนิดที่ 5 ของกัมพูชา ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกโดยตรงไปยังประเทศจีน ถัดจาก กล้วย มะม่วง ลองกอง และมะพร้าว ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรกัมพูชาพบว่า มีการปลูกทุเรียนในประเทศมากกว่า 68,000 ไร่ มีผลผลิตปีละมากกว่า 120,000 ตัน ปัจจุบันมี 9 จังหวัดที่เหมาะสำหรับการปลูกทุเรียน ได้แก่ กำปอต กำปงจาม ตบูงขมุม รัตนคีรี มณฑลคีรี พระตะบอง โพธิสัตว์ เกาะกง และกำปงธม

...

การส่งออกทุเรียนครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา จีนและกัมพูชา ได้ลงนามในพิธีสารด้านสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Protocol) เพื่อส่งออกทุเรียนสดจากกัมพูชาไปยังจีน และต่อมาในเดือนกรกฎาคม สวนทุเรียนในกัมพูชา 112 แห่ง และโรงคัดบรรจุอีก 30 แห่ง ได้รับการรับรองจากกรมศุลกากรจีน พร้อมสำหรับการส่งออก

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของกัมพูชา ได้ขอให้ทุกสวนทุเรียนและโรงคัดบรรจุที่ผ่านการรับรอง ปฏิบัติตามข้อกำหนดในพิธีสารอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึง การห้ามใช้สารอันตราย สารเคมีต้องห้ามต่างๆ และเชิญชวนให้สวนและโรงคัดบรรจุอื่นๆ ที่สนใจจะส่งออกทุเรียนไปจีน รีบยื่นคำร้องเข้าสู่กระบวนการประเมิน

ทั้งนี้ก่อนที่ทุเรียนกัมพูชา จะได้รับอนุญาตให้เข้าตลาดจีนอย่างเป็นทางการ พบว่ามีผู้ประกอบการชาวจีนหลายราย เริ่มเข้าไปลงทุนในภาคอุตสาหกรรมทุเรียนกัมพูชาไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งหลังการอนุมัติจึงได้มีการจัดงานสินค้าเกษตรกัมพูชา ในเมืองเป๋ยไห่ มณฑลกว่างซี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และในงานดังกล่าว บริษัท 2 แห่งจากมณฑลกว่างซีได้ลงนามกับบริษัทกัมพูชา เตรียมนำเข้าทุเรียน 15,000 ตัน ในปี 2025-2026

"การทูตทุเรียน" เครื่องมือจีน ผูกสัมพันธ์อาเซียน 

ปัจจุบัน ประเทศจีน เป็นตลาดผู้บริโภคทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยทุเรียนพรีเมี่ยม 3 กก.มีราคาที่ 150 หยวน (ราว 700 บาท)

ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา จีนเปิดตลาดให้ประเทศต่างๆ ส่งออกทุเรียนมายังจีนมากขึ้น หลังก่อนหน้านี้มีเพียงประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากกระแสความนิยมในหมู่ประชาชนชาวจีนที่เพิ่มมากขึ้น และการที่รัฐบาลปักกิ่งต้องการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศกลุ่มอาเซียน หรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของผลไม้ชนิดนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดในการแข่งขันทางการค้ากับสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวนี้จึงถูกเรียกว่า “การทูตทุเรียน”

อย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญมองว่า ทุเรียนกัมพูชา อาจไม่ได้มีศักยภาพแข่งขันในตลาดมากนัก 

นายหวง ต้าเผิง ผู้นำเข้าผลไม้จากมณฑลเจ้อเจียง เปิดเผยว่า ผลผลิตของกัมพูชายังมีจำนวนน้อยเกินกว่าที่จะแข่งกับประเทศไทยหรือเวียดนามได้ มองว่าเรื่องนี้เป็นการแสดงท่าทีทางการทูตที่เป็นมิตรมากกว่า

ในปี 2024 ประเทศจีนนำเข้า ทุเรียนสด มากถึง 1.56 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.99 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.55 แสนล้านบาท) โดยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ที่ประมาณ 8 แสนตัน มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 57.4% แต่ถือว่าลดลงกว่าปีก่อนหน้า 12% จากปัญหาคุณภาพผลผลิตที่ไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากการขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนอย่างรวดเร็ว รวมถึงสภาพอากาศที่ร้อนจัดจนคุมคุณภาพไม่ได้ และถูกเตือนเรื่องการปนเปื้อนแคดเมียมด้วย 

อันดับ 2 คือ “เวียดนาม” ที่มูลค่า 9.5 หมื่นล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาด 42.1% เพิ่มขึ้นจาก 33% ในปีก่อนหน้า เมื่อรวมกันแล้ว ไทยและเวียดนาม ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 99.5% ขณะที่อีก 0.5% เป็นการนำเข้าจากฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย 

...

ฟิลิปปินส์ส่งออกทุเรียนไปจีนมูลค่าราว 1 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 144.4% ขณะที่มาเลเซีย ซึ่งแต่เดิมส่งออกแค่ทุเรียนแช่แข็ง เพิ่งได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 และส่งล็อตแรกถึงจีนในเดือนสิงหาคม ภายในช่วงเวลา 5 เดือนจากนั้น มาเลเซียส่งออกทุเรียนสดไปจีนรวมมูลค่า 185 ล้านบาท ด้านประเทศอินโดนีเซียและลาว ก็กำลังพยายามเข้าสู่ตลาดจีนเช่นกัน

อย่างไรก็ดีใน 6 เดือนแรกของปี 2025 ที่ผ่านมา พบว่า จีนนำเข้าทุเรียนลดลงกว่าปีก่อนถึง 15% โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุเรียนจากเวียดนาม จากปัญหาสารตกค้าง 

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเทศจีนมีการบังคับใช้มาตรการคุณภาพที่เข้มงวดมากขึ้น มีการตรวจพบการปนเปื้อนสารย้อมสี Basic Yellow 2 (BY2) และแคดเมียมในทุเรียนที่นำเข้าจากไทยและเวียดนาม ซึ่งเมื่อเดือน ม.ค.2025 ที่ผ่านมา ประเทศจีนได้กำหนดให้ทุเรียนส่งออก ต้องแนบผลการตรวจวิเคราะห์สาร BY2 และแคดเมียมทุกตู้ นอกจากนี้ผู้บริโภคชาวจีนชนชั้นกลาง ก็มีความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลไม้นำเข้ามากขึ้นด้วย  

...

ที่มา : scmp, producereport, khmertimeskh, tridge