หูฟังบลูทูธถูกออกแบบมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ เพราะมีขนาดเล็ก พกง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน ช่วยให้เพลิดเพลินกับการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา สำหรับบทความนี้ ไทยรัฐช็อปปิ้งได้คัดสรรหูฟังบลูทูธ ไม่เกิน 1,000 บาท มาแนะนำ แต่ละรุ่นมีคุณภาพเสียงดี เบสทรงพลัง มีตัวช่วยตัดเสียงรบกวน และบางรุ่นมีโหมดสำหรับเล่นเกม ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มค่า สำหรับคนที่มีงบจำกัด จะมียี่ห้อไหนบ้าง ติดตามได้ที่นี่
OPPO Enco Buds3 หูฟังบลูทูธน้ำหนักเบา (ข้างละ 3.8 กรัม) ทำให้ใส่สบาย แบตอึด ใช้งานได้นานต่อเนื่อง 48 ชั่วโมง มี Bluetooth 5.4 กับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 12.4 มม. ทำให้การเชื่อมต่อเสถียรและลื่นไหล ได้คุณภาพเสียงที่ดี เบสแน่น พร้อมใช้เทคโนโลยี AI ตัดเสียงรบกวน ทำให้เสียงการสนทนาคมชัด และรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ 2 เครื่องพร้อมกัน เพื่อให้สลับการใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น
Soundcore R50i หูฟังแบบ In-Ear ที่ถูกออกแบบมาให้ใส่ง่าย เบาสบาย ไม่เจ็บหู และไม่อึดอัด เสียงมีคุณภาพสูง สามารถปรับให้ตรงกับความชอบได้ 22 แบบ ใช้ได้นานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง กันน้ำกันเหงื่อได้ดีเยี่ยมด้วยมาตรฐาน IPX5 รุ่นนี้มีให้เลือก 5 สี (Black, White, Pink, Light blue และ Deep Blue) เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย และทุกไลฟ์สไตล์
iSuper Evo Buds Plus เป็นหูฟังบลูทูธ ไม่เกิน 1,000 บาทที่คุ้มค่าเกินราคา มาในทรง In-Ear ใส่แล้วกระชับไม่หลุดง่าย ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 7.2 มม. ปรับจูนเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้สัมผัสได้ถึงมิติเสียงที่กว้าง คมชัด เบสแน่น เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่างรวดเร็วและเสถียร ด้วย Bluetooth 5.1 มีไมค์ 4 ตัว พร้อม ENC ช่วยตัดเสียงรบกวนระหว่างสนทนา รองรับการสั่งการผ่านแอปพลิเคชัน มี Game Mode ช่วยเพิ่มอรรถรสขณะเล่นเกม แบตเตอรี่ใช้ได้นานสูงสุด 40 ชั่วโมง พร้อมมาตรฐานกันน้ำ IPX5
Ugreen HiTune S3 หูฟังบลูทูธดีไซน์ Clip-On Cuff สวมใส่ง่าย กระชับ ไร้การกดทับ และไม่หนักหู น้ำหนัก 5.3 กรัม ใช้เทคโนโลยี 360° Panoramic Sound Headset หรือเสียงแบบรอบทิศทาง เพื่อการรับฟังเสียงอย่างมีมิติและสมจริง เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.4 มาพร้อมไดร์เวอร์ 12 มม. เบสทุ้มลึกทรงพลัง มีให้เลือก 3 สี คือสีดำ สีขาว และสีม่วง
Aukey EP-M2 Move Air True Wireless หูฟังสัญชาติเยอรมัน ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 13 มม. เสียงเบสดุดัน เก็บรายละเอียดเสียงได้ครบทุกระดับ ปรับแต่งเสียงได้ 3 โหมด คือ Music, Bass และ Vocal เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 กินพลังงานน้อย แบตเตอรี่ใช้ได้นานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง น้ำหนักเบา และรองรับระบบสัมผัส เพียงแค่แตะเบาๆ ก็ตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย
Realfit F3 หูฟังที่คอเกมต้องไม่พลาด เพราะมีโหมดเกมมิ่งช่วยลดการดีเลย์ของเสียง ทำให้ได้ยินเสียงในเกมได้แบบเรียลไทม์และครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้า เสียงศัตรู หรือเสียงธรรมชาติในเกม มีเทคโนโลยี ANC ลดเสียงรบกวนได้ถึง -38dB (เดซิเบล) ให้ได้ใช้เวลาในโลกส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ รองรับการเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วผ่าน Bluetooth 5.4 ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX7 และแบตเตอรี่ 300mAh ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 28 ชั่วโมง
SoundPEATS Clear หูฟังบลูทูธดีไซน์ใส ดูเท่ทันสมัย มีให้เลือก 4 สี ดำ, ขาว, ครีม และน้ำเงิน ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 12 มม. ให้เสียงเบสทุ้มลึกและหนักแน่น เก็บรายละเอียดเสียงดนตรีได้ดี เหมาะกับการฟังเพลงทุกประเภท ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 7 ชั่วโมง และชาร์จจากเคสได้อีก 5 ครั้ง รวม 40 ชั่วโมง รองรับการใช้งานที่หลากหลาย มีโหมดเกมที่ลดการดีเลย์ของเสียง ทำให้ภาพและเสียงตรงกัน ใช้ Bluetooth 5.3 เพื่อการเชื่อมต่อที่ง่ายและรวดเร็ว มีไมค์คู่พร้อม AI ตัดเสียงรบกวน จึงสามารถสนทนาได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
Edifier X2S หูฟังทรง Earbuds สวมใส่สบาย ควบคุมด้วยระบบสัมผัส ใช้ Bluetooth 5.3 ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 13 มม. โดดเด่นด้วยไมค์ 4 ตัวและ AI ตัดเสียงรบกวน ช่วยให้เสียงสนทนาชัดเจน แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก ฟังเพลงเพลิน เล่นเกมเต็มอรรถรส สามารถตั้งค่าฟังก์ชันการใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านระบบสัมผัสและแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
TOZO A3 หูฟังขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกสะดวก หยิบใช้งานง่าย ผสานไดร์เวอร์ขนาดใหญ่พิเศษ 14.2 มม. กับเทคโนโลยี ORIGX Acoustic ให้เสียงเบสที่ทรงพลังเหมือน In-Ear แต่มาในทรง Earbuds ที่ใส่สบายไร้แรงกดทับ ความจุแบตเตอรี่ 400mAh ใช้งานได้นานถึง 22 ชั่วโมง พร้อมไมค์ 2 ตัวที่ใช้เทคโนโลยี DSP ช่วยตัดเสียงรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. หูฟังบลูทูธ JLab Go Pop+JLab Go Pop+ หูฟังรุ่นใหม่ล่าสุด มีให้เลือกถึง 7 สี 7 สไตล์ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้เร็วทันใจทันทีที่เปิดเคสด้วย Bluetooth 5.3 และ Google Fast Pair ปรับแต่งเสียงได้ 3 โหมด คือ JLab Signature (เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ JLab), Balanced (เสียงสมดุล), และ Bass Boost (เพิ่มเสียงเบส) พร้อมใช้งานหูฟังแยกซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระ ทำให้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม
หูฟังบลูทูธ ไม่เกิน 1,000 บาททั้ง 10 ยี่ห้อที่ไทยรัฐช็อปปิ้งเลือกมาแนะนำกันนี้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการหูฟังไร้สายคุณภาพดีในราคาหลักร้อย ถ้าเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี แนะนำให้พิจารณาจากการใช้งานเป็นอันดับแรก หากเน้นการฟังเพลง อาจเลือกหูฟังที่มีไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ ให้เสียงที่คมชัด และเบสที่ทุ้มลึก แต่ถ้าเน้นการเล่นเกม อาจเลือกหูฟังที่มีโหมดเกมมิ่งโดยเฉพาะ เพราะมีการดีเลย์ต่ำ ทำให้ภาพและเสียงใกล้เคียงกันที่สุด นอกจากนี้ อาจพิจารณาจากรูปแบบของหูฟัง ดีไซน์ภายนอก เวอร์ชันของ Bluetooth และฟังก์ชันอื่นๆ ร่วมด้วย
เช็กโค้ดส่วนลด Shopee ได้ที่นี่ https://s.shopee.co.th/5AgnM7ZqQH
เช็กโค้ดส่วนลด Lazada ได้ที่นี่ https://s.lazada.co.th/s.Cjgoi?cc
(ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบราคาอีกครั้งก่อนสั่งซื้อ)