ประสบการณ์นอนเต็นท์ ดอยอ่างขาง (ม่อนสน) บอกเลยฟินเว่อร์
หนาวแต้หนาวว่า ประเทศไทยปีนี้หนาวจริง ๆ หนาวอย่างนี้มันน่าไปนอนเต็นท์ดูดาวชิล ๆ บนดอยเนอะ แต่ก็นะลาพักร้อนทั้งที ไม่อยากจะต้องลุย สมบุกสมบัน ถึงขั้นกลับมาจากเที่ยว ต้องมาลาพักร้อนอีกรอบ ใครกลัวเหนื่อยหรืออยากนอนเต็นท์แต่อ่อนประสบการณ์ตามมาเลยจ้า วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์นอนเต็นท์บนดอยอ่างขาง (ลานกางเต็นท์ม่อนสน) แบบชิล ๆ ไม่ต้องพกเต็นท์ ถุงนอน หมอน ผ้าห่ม หรือตะเกียง อะไรมาสักอย่าง ที่อุทยานมีให้ครบจบที่เดียว ว่าแต่จองอย่างไร แพงไหม เต็นท์ไหนวิวดี ห้องน้ำเป็นอย่างไร แล้วกินข้าวที่ไหน กระทู้นี้มีคำตอบให้ครบ ไปติดตามกันเลยจ้า
หน้าหนาวนี้ได้มีโอกาสไปนอนเต็นท์บนดอยอ่างข่าง ที่ลานกางเต็นท์ม่อนสน ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตรจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ขับรถจากเชียงใหม่ไปประมาณ 3 ชั่วโมง เส้นทางช่วงแรกขับสบาย ๆ แต่พอขึ้นดอยเท่านั้นแหละ เริ่มคดเคี้ยวโค้งหักศอกลาดชันชวนสะพรึงมีมาเป็นระยะ ผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญ และระมัดระวังในการขับรถอย่างมาก แต่ถ้าใครชำนาญแต่ทางราบ ทางขึ้นเขาลงห้วยไม่สันทัด สามารถจ้างรถเช่าเหมาได้ที่วัดหาดสำราญ อยู่ในอำเภอฝาง เป็นรถสองแถวสีขาว เส้นทางฝาง-บ้านคุ้ม นั่งได้ 10 คน ราคาประมาณ 1,800 บาท
ครั้งนี้เราจองห้องพักโดยตรงกับทางอุทยานแห่งชาติ โดยโทรไปที่เบอร์ 02-562-0760-3 หรือ 02-561-0777 ต่อ 1743, 1744 เจ้าหน้าที่อุทยานตอบข้อซักถามได้ดีเยี่ยม ใจเย็นใจดี จองเสร็จฟีลกู๊ดตั้งแต่เริ่มจะไปเที่ยวแล้วจ้า ซึ่งก่อนจะทำการจองเราต้องรู้ว่า
- จะไปนอนเต็นท์ที่ไหน วันไหน กี่คืน (ดอยอ่างขาง ม่อนสน วันที่…. จำนวน 1 คืน)
- จำนวนเต็นท์ที่ต้องการเช่า หนึ่งหลังนอนได้สามคน (ไปกัน 4 คน จอง 2 เต็นท์)
- ต้องการเช่าอะไรเพิ่มเติมบ้าง เช่นที่รองนอน ถุงนอน หมอน (แนะนำเช่าทั้งหมดเลยค่ะ ไม่งั้นหนาว และปวดหลังแน่นอน)
โดยราคาการเช่าเต็นท์ ที่รองนอน ถุงนอน หมอน เป็นดังนี้ค่ะ
- เต็นท์ 225 บาท / หลัง /คืน
- ถุงนอน 30 บาท / ใบ / คืน
- ที่รองนอน 20 บาท / ผืน / คืน
- หมอน 10 บาท / ผืน / คืน
ส่วนผ้าห่มและตะเกียงนั้น เราเช่ากับร้านค้าที่ให้บริการแถวนั้นค่ะ โดยผ้าห่ม 100 บาท / ผืน / คืน และตะเกียง 100 บาท / อัน / คืน เช่นกัน วิธีการเช่าง่าย ๆ แค่ไปที่ร้านแล้วบอกขอเช่า เขาจะมาส่งที่เต็นท์ หรือเราจะถือมาเองก็ได้ แล้วค่อยส่งคืนในวันถัดไป หลังจากทำการจองที่พัก ทางอุทยานจะส่งข้อมูลสรุปการจองมาให้ทางอีเมลที่แจ้งไป โดยต้องทำการโอนชำระเงินภายใน 24 ชั่วโมง และนำสลิปการโอนเงินมาในวันเข้าพัก
ทริปนี้เราออกเดินทางจากเชียงใหม่ประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ เดินทางด้วย BYD Dolphin ตัวรถโฆษณาไว้ว่าสามารถวิ่งได้ 490 กิโลเมตร จริงแล้วน่าจะไปกลับเชียงใหม่-ดอยอ่างขางได้สบาย ๆ แต่ว่าด้วยความใหม่กับการใช้รถไฟฟ้า ทางเราก็กลัวว่าขึ้นดอยแล้วจะลงไม่ได้ 555 เลยแวะหาสถานีชาร์จไฟมาตลอดทาง จุดแรกปั๊มปตทตรงแม่ริม EV Station ชาร์จได้สามคันพร้อมกัน แต่ดันเต็มตลอด สรุปต้องไปชาร์จของการไฟฟ้า PEA Volta ที่อำเภอฝาง ดังนั้นกว่าจะมาถึงจุดชมวิวม่อนสน ก็ประมาณห้าโมงเย็นเข้าให้แล้ว พระอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้า ความมืดใกล้จะมาเยือน ดังนั้นควรจะเช็กอินจัดที่หลับที่นอนให้เสร็จก่อนค่ำ เพราะดึก ๆ ไม่มีไฟนะคะทุกคน ใช้ไฟฉายหรือตะเกียงเอาเด้อ แค่ไฟโทรศัพท์ก็อาจจะไม่พอ
เมื่อมาถึงลานกางเต็นท์ นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถได้สองฝั่งของถนน และหากเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวมาไม่พอก็มีร้านขายถุงมือ ผ้าพันคอ หมวก ให้เลือกจับจ่ายใช้สอยได้ตามศรัทธา การเช็กอินให้นำหลักฐานการจองและการชำระเงินไปยื่นที่จุดประชาสัมพันธ์ จากนั้นนำบัตรประชาชนมาฝากประกันไว้ที่จุดรับเครื่องนอน
แต่ก่อนจะรับเครื่องนอนได้ต้องเดินไปเลือกเต็นท์ว่าจะนอนเต็นท์ไหน ครั้งนี้เราเลือกนอนเต็นท์เบอร์ A4 กับ A5 ดูแล้วว่าต้นไม้ไม่บัง ตอนเช้าน่าจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกชัด มันมีเต็นท์อื่นที่วิวดีกว่าแต่ว่าถูกจองไปแล้ว และมีเต็นท์ที่อยู่ใกล้ศาลพระภูมิด้วย ตอนแรกไม่เห็นหรอกแต่แฟนเห็นก็เลยเลือกให้ห่างออกมา แต่เขาไม่ได้บอกเรา ตอนกลางคืนที่เราออกมาดูดาวคนเดียวถึงได้หนาวสะท้าน เห็นแท่งปูนทรงบ้านสีขาว ท่ามกลางความมืดสนิท มีแต่แสงไฟจากในเมืองสลัว ๆ ตอนนั้นยังคิดว่าศาลพระภูมิใช่ไหมเนี่ย แล้วมันก็ใช่จริง ๆ นอกเรื่องตลอด!
หลังจากเลือกเต็นท์ได้แล้วก็เดินมาบอกเบอร์เต็นท์กับเจ้าหน้าที่ และรับถุงนอน ที่รองนอน หมอน ไปจัดแจงในเต็นท์ให้พร้อมนอน แต่เรายังไม่นอนนะ ออกไปหาอะไรกินกันก่อน มื้อเย็นครอบครัวเราฝากท้องกับร้านค้าสวัสดิการ มีอยู่สองสามร้าน จะสั่งเป็นหมูกระทะมาส่งหน้าเต็นท์ก็ได้ แต่นะขนาดเต็นท์ยังไม่กาง จะให้ทำกับข้าวกิน มันใช่เหรอ (เคยไปนอนโดมกระโจมบนดอย แล้วสั่งหมูกระทะมาปิ้งย่างกิน รู้สึกเหนื่อยกว่าจะได้กิน แต่ถ้าใครยังไม่เคยลอง แนะนำลองสักครั้งจะได้รู้ว่า ใช่ทางเราหรือเปล่า) มื้อเย็นเลยเลือกสั่งอาหารตามสั่งทานที่ร้านแทน ทั้งผัดผักบุ้ง ข้าวผัด ไก่ทอด ราคาก็มีตั้งแต่ 60 / 80 / 100 / 120 ราคาเรตบนดอยแต่ไม่ได้แรงกระชากใจจนรับไม่ได้ ส่วนมื้อเช้ามีข้าวต้ม โจ๊ก ปลาท่องโก๋ โอวัลติน ระดับความอร่อยถือว่ากลาง ๆ แต่อิ่มท้องแน่นอน
พูดถึงที่นอน ที่กินไปแล้ว มาพูดถึงห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำสะอาดสะอ้านมาก ทุกห้องเป็นชักโครก ฝั่งหนึ่งเป็นแบบกดชักโครกอีกฝั่งเป็นแบบตักราด ห้องอาบน้ำก็มี แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ใครอยากลองประสบการณ์อาบน้ำเย็น หรือสายแช่น้ำแข็ง ต้องลอง แต่ครอบครัวเราเป็นนกรู้ อาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน แหมทำเป็นพูด ไม่อาบน้ำก็ว่ามา ใช่ค่ะมันหนาวเกินทน ซักแห้ง 1 คืนละกัน และอีกอย่างหนึ่งต้องเตือนไว้ว่า ควรจะไปเข้าห้องน้ำก่อนที่จะปวด เพราะห้องน้ำต้องเดินลงบันไดไปมากกว่า 15 ขั้น เวลาปวดท้องเข้าห้องน้ำ การก้าวลงแต่ละขั้นจะยิ่งทำให้ปวดมากขึ้นไปอีกค่ะ ดังนั้นควรจะไปเข้าก่อนจะปวดจริง ๆ
สิ่งที่เราประทับใจกับการนอนเต็นท์ที่ดอยม่อนสนมากที่สุดเลยคือ การจัดวางเต็นท์ที่ม่อนสน จะมีเล่นระดับ หลายระดับ ไม่ได้เรียงกันเป็นตับจนอึดอัด ทุกระดับจะมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นของตัวเอง รองลงมาคือทุกอย่างสะดวกสบายมาก แค่เตรียมเสื้อผ้ากันหนาว ถุงเท้า ถุงมือ ถุงร้อน ก็ขับรถมารับประสบการณ์นอนเต็นท์ได้เลย
ในเต็นท์หนาวไหม สะอาดหรือเปล่า นอนลำบากมากไหม?
นอนลำบากไหม อันนี้ต้องตอบว่าไม่ลำบากไม่ใช่การนอนเต็นท์ค่ะ แต่เมื่อรู้สึกลำบากให้นึกว่า นอนคืนเดียว ประสบการณ์นี้อยากได้ต้องทน แหม! ก็ว่าไป มันก็ไม่ได้ลำบากมาก แค่เต็นท์ข้าง ๆ กรนไม่พักเลย มีกันสามคนเหมือนเล่นระนาด พลัดกันตีคนละโน๊ต 555 แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ สนุก น่าตื่นเต้นอยู่ค่ะ สำหรับตัวเต็นท์ด้านในใหญ่พอสมควร สามารถนอนได้สามคนจริง ๆ แต่ส่วนตัวคิดว่านอนสองคนดีกว่า จะได้มีพื้นที่วางของไม่เบียดเสียดกันเกินไป
พูดถึงเรื่องความสะอาดบ้าง เต็นท์ก่อนเข้าอยู่ ก็ดูเหมือนได้ผ่านการกวาดมาบ้าง แต่เครื่องนอนบางชิ้นมีกลิ่นอับ ไม่กล้าถามว่าเขาได้ซักหรือเปล่า แต่จากราคาค่าเช่าไม่น่าจะได้ซักหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ โดยรวมความสะอาดอยู่ระดับกลาง ขอให้คะแนน 6/10 ส่วนเรื่องมดแมลงนั่นหลายคนอาจกังวล เราเคยอ่านรีวิวมาว่ากินขนมในเต็นท์แล้วมดมาอย่างเยอะ จนนอนไม่ได้ ดังนั้นเราเลยพยายามกินขนมไม่ให้หกเลอะเทอะ ถ้าทำหกจะรีบเก็บทิ้ง และถ้ากินไม่หมดจะปิดถุงให้สนิทมิดชิด ไม่รู้โชคดีด้วยหรือเปล่าไม่รู้ ไม่เจอมดหรือแมลงอื่น ๆ มารบกวน มีแค่ตอนแรกหลังจากรับเครื่องนอน เจอมดตรงที่รองนอนอยู่หลายตัว ซึ่งหลังจากกำจัดไปแล้วก็ไม่มีมากวนใจอีก
วิธีการจัดเครื่องนอน เราเลือกวางที่รองนอนไว้ใต้สุด วางหมอนแล้ววางถุงนอนทับทุกอย่าง ซึ่งเราไม่นอนเข้าไปนอนในถุงนอนแต่นอนทับถุงนอน และเช่าผ้าห่มมาห่มแทน โดยรวมสามารถทนความหนาวได้ วันที่ไปอุณหภูมิอยู่ประมาณ 9 องศา เราพกถุงทรายร้อนไปด้วย ฉีกใช้สองถุงตอนนอน ประหนึ่งเดินเล่นหน้าหนาวที่ฮอกไกโด ช่วยได้เยอะ แนะนำเลยพกถุงทรายร้อนไปนอนเต็นท์หน้าหนาว อุ่นใจขึ้นเยอะ
ใครที่กำลังอยากลองนอนเต็นท์แบบไม่ต้องเตรียมตัวเยอะ แนะนำเริ่มที่ดอยอ่างขาง ลานกางเต็นท์ม่อนสนก่อนค่ะ สะดวกสบาย ทั้งอาหารการกิน ที่นอน ห้องน้ำ ครบจบที่เดียว ได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก และตอนนี้กำลังมีซากุระบานสะพรั่งอีกด้วย หนาวนี้อย่าพลาดกันนะคะ ปิดท้ายด้วยภาพดอยหลวงเชียงดาวบนเส้นทางเลี่ยงเมืองไปอำเภอฝาง มองแว้บ ๆ นึกว่าภูเขาไฟฟูจิ อย่างไรวันนี้ dailyjourney ต้องขอตัวลาไปก่อน โปรดติดตามบทความท่องเที่ยวอื่น ๆ กันด้วยนะคะ ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม
สิ่งที่ควรเตรียมไปสำหรับประสบการณ์นอนเต็นท์
- Power Bank ไว้ชาร์จโทรศัพท์+อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- เสื้อกันหนาว ถุงเท้า ถ้าขับรถไปเอง พกผ้าห่ม+ถุงนอนไปด้วยได้จะดี จะได้มั่นใจในความสะอาด
- ถุงทรายร้อน เวลาหนาว ๆ แค่กำไว้ในมือก็รู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที อุ่นกายไม่มากแต่อุ่นใจสุด ๆ
- รองเท้าแตะ บางทีเดินใกล้ ๆ หรือไปห้องน้ำก็ไม่อยากจะใส่รองเท้าผ้าใบตลอดเวลา
- ไฟฉายที่กำลังไฟแรง ๆ หรือโคมตะเกียงแบบในภาพ ถ้าไม่มีก็ไปเช่าได้ แต่ราคามันจะแรงนิดนึง
สถานที่ : ลานกางเต็นท์ดอยอ่างขาง (ม่อนสน)
ที่อยู่ : ตำบล แม่สูน อำเภอ ฝาง เชียงใหม่ 50320
วิธีการจอง : โทร 02-562-0760-3 หรือ 02-561-0777 ต่อ 1743, 1744
