หากนึกถึงน้ำตกที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำสีสวยและใสจนมองเห็นปลา ต้องนึกถึง "น้ำตกเอราวัณ" ที่กาญจนบุรี โดยผู้เขียนเพิ่งมีโอกาสได้ไปเยือนมา ยอมรับเลยว่าเป็นน้ำตกที่สวยงาม น่าประทับใจมาก สมแล้วที่ได้รับขนานนามว่าสวรรค์ทั้ง 7 ชั้น แห่งกาญจนบุรี บทความนี้จะพาทุกคนไปเที่ยว “น้ำตกเอราวัณ” อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ตามไปดูพร้อมๆ กัน ว่าน้ำตกเอราวัณจะสวยงามและน่าไปเยือนมากแค่ไหน
"น้ำตกเอราวัณ" (Erawan Waterfall) มีชื่อเดิมว่า “น้ำตกสะด่องม่องล่าย” เพราะต้นน้ำเกิดจากลำห้วยม่องล่าย ไหลผ่านหน้าผาและชั้นหินต่างๆ มีทั้งหมด 7 ชั้น เป็นระยะทางประมาณ 1,500 เมตร แต่ละชั้นมีชื่อเฉพาะและมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป โดยเมื่อน้ำตกไหลบ่าผ่านหน้าผาเหนือน้ำตกชั้นที่ 7 จะมีลักษณะคล้ายเศียรช้าง 3 เศียร หรือที่เรียกว่า “ช้างเอราวัณ” จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกและอุทยานแห่งชาติเอราวัณนั่นเอง
"น้ำตกเอราวัณ" ทั้ง 7 ชั้น มีชื่อเรียกตามลักษณะเฉพาะของแต่ละชั้นดังนี้
ไหลคืนรัง
วังมัจฉา
ผาน้ำตก
อกนางผีเสื้อ
เบื่อไม่ลง
ดงพฤกษา
ภูผาเอราวัณ
ลักษณะเด่นของ "น้ำตกเอราวัณ" คือ น้ำสีฟ้าอมเขียวสวยงาม น้ำใสมองเห็นตัวปลาในแทบทุกชั้น เหตุที่น้ำมีสีฟ้าอมเขียวสวยงามเช่นนี้ เพราะว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในบริเวณนี้เป็นภูเขาหินปูน จึงมีหินปูนหรือแคลเซียมคาร์บอเนตละลายอยู่ในน้ำรวมทั้งแร่ธาตุบางชนิดที่ปะปนอยู่ด้วย จึงส่งผลให้มีสาหร่ายหรือตะไคร่สีเขียวขนาดเล็กเจริญเติบโตในลำธารได้ดี เมื่อมีแสงแดดส่องกระทบน้ำจะถูกกลืนแสงสีแดงไว้ ทำให้มองเห็นพื้นของน้ำตกหินปูนเป็นสีฟ้าอมเขียวนั่นเอง โดยข้อมูลเหล่านี้จะมีป้ายแสดงไว้ให้ศึกษาได้ตลอดเส้นทางชมน้ำตก
"น้ำตกเอราวัณ" ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี มีค่าเข้าอุทยานสำหรับคนไทย คนละ 60 บาท เข้ามาแล้วจะเจอป้ายอุทยานขนาดใหญ่ จากนั้นให้เดินต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรถึงจะถึงจุดที่มีน้ำตก ทางเดินเป็นถนนลาดยางสลับพื้นปูน อุดมไปด้วยธรรมชาติที่ร่มรื่น สามารถเดินเล่นได้เพลินๆ หากใครไม่อยากเดิน ทางอุทยานก็มีรถกอล์ฟบริการ (เสียค่าใช้จ่าย) ให้เลือกใช้ ซึ่งในครั้งนี้ผู้เขียนเลือกเดิน เพื่อจะได้ชมบรรยากาศของอุทยานด้วย ระยะทางการเดินไม่เหนื่อยมาก เพียงครู่เดียวก็ถึงพื้นที่น้ำตกแล้ว
จุดแรกที่เราเจอจะเป็น ชั้นที่ 1 มีชื่อว่า “ไหลคืนรัง” เป็นน้ำตกเล็กๆ และมีแอ่งน้ำตื้นๆ หลายชั้นลดหลั่นกันไป น้ำใสมาก สะท้อนแสงสีเขียวสวยงาม มองเห็นปลาเยอะเลย สามารถลงเล่นน้ำได้ ซึ่งใครที่อยากเล่นน้ำทางอุทยานกำหนดให้ใส่เสื้อชูชีพลงเล่นน้ำ เพราะในน้ำตกแต่ละชั้นจะมีจุดน้ำลึกอยู่เป็นระยะ โดยทางอุทยานมีจุดบริการให้เช่าเสื้อชูชีพที่บริเวณนี้ แนะนำว่าถ้าตั้งใจจะเล่นน้ำด้วยให้เช่าเสื้อชูชีพที่จุดนี้ไปได้เลย เนื่องจากข้างบนไม่มีจุดให้เช่าเพิ่มเติม
เดินต่อมาอีกนิดเดียวก็พบกับน้ำตกชั้นที่ 2 มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำลึกขึ้นมาหน่อย ชั้นนี้สามารถเล่นน้ำได้สนุก โดยเราสามารถสังเกตเห็นได้ว่ามีปลาเยอะสมชื่อ “วังมัจฉา” ซึ่งปลาที่พบในน้ำตกเอราวัณ คือ ปลาพลวง เป็นปลาน้ำจืดที่อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน มักอาศัยในแหล่งน้ำที่ใสสะอาด
ต่อกันที่ชั้นที่ 3 อย่าง “ผาน้ำตก” ชั้นนี้จะมีน้ำตกจากผาหินขนาดย่อมๆ โดยยังคงจุดเด่นของน้ำตกเอราวัณอย่างน้ำที่ใสสะอาดมากๆ ทำให้เราได้มองเห็นฝูงปลาตามธรรมชาติได้แบบชัดเจน
ชั้นนี้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาก เพราะมีก้อนหินขนาดใหญ่ 2 ก้อน ที่รูปร่างกลมมนคล้ายหน้าอกผู้หญิง ซึ่งคาดว่าอาจเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อของน้ำตกชั้นนี้ว่า “อกนางผีเสื้อ” น่าจะหมายถึงหน้าอกของนางผีเสื้อสมุทรเป็นแน่
น้ำตกชั้นที่ 5 “เบื่อไม่ลง” ชั้นนี้เราจะมองเห็นน้ำตกที่ไหลผ่านชั้นหินเตี้ยๆ หลายชั้น ลดหลั่นกันลงมา มองเห็นสายน้ำสีขาว สลับแอ่งน้ำสีฟ้าเขียวสวย มองเพลิน ไม่มีเบื่อสมชื่อ
ถัดมากับชั้นที่ 6 ที่ชื่อว่า “ดงพฤกษา” ในชั้นนี้น้ำตกจะถูกรายล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มีจุดชมน้ำตกเป็นระเบียงและสะพานไม้ สำหรับชั้นนี้อาจไม่เหมาะกับการเล่นน้ำสักเท่าไร เนื่องจากหินอาจมีความลื่น รวมถึงกิ่งไม้และเศษไม้ที่เยอะ
สุดท้ายกับชั้นที่สูงที่สุดของน้ำตกเอราวัณกันแล้ว ชั้น 7 นี้กับ “ภูผาเอราวัณ” น้ำตกที่มีความสวยงามสมกับเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ความโดดเด่นของชั้นนี้คือความงามของสายน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง และจะเห็นเป็นม่านน้ำไหลลงมาตามชั้นหินที่เรียงตัวลดหลั่นตามความสูง บรรจบลงที่แอ่งน้ำสีฟ้าสดใส มีฝูงปลาแหวกว่ายในน้ำ จนทำให้รู้สึกว่านี่คือสวรรค์บนพื้นดินดีๆนี่เอง นับเป็นภาพที่สวยงาม น่าประทับใจ คุ้มค่ากับการเดินขึ้นมาจนถึงชั้นนี้จริงๆ
"น้ำตกเอราวัณ" ไม่เพียงจะสวยงามมากเท่านั้น แต่ยังมีระบบดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการสวมเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย ป้ายเตือนสถานการณ์น้ำ และป้ายแสดงระดับความลึกของน้ำเพื่อเตือนให้เราระมัดระวังตัว นอกจากนี้ยังมีเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อเจ้าหน้าที่กรณีฉุกเฉิน และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตเตรียมไว้ในทุกๆ ชั้น ทำให้การไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณ ค่อนข้างอุ่นใจในความปลอดภัยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ "น้ำตกเอราวัณ" จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจมาก และไม่ควรพลาดเลยก็ว่าได้ อยากบอกว่าสถานที่จริงสวยกว่าในภาพมากๆ หากมีโอกาสก็อยากให้ทุกคนได้ลองไปเที่ยว “น้ำตกเอราวัณ" สักครั้ง รับรองไม่ผิดหวัง สวยงาม และประทับใจแน่นอน