โควิด 19 ล่าสุดที่ระบาดในปี 2568 นี้ส่วนใหญ่เป็นโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC แม้จะมีอาการไม่รุนแรง แต่มีการแพร่ระบาดรวดเร็ว ซึ่งแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรมโรคติดเชื้อ รพ.จุฬาภรณ์ เผยว่าผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงยังต้องระมัดระวัง อาจมีอาการโควิดลงปอดได้ พร้อมแนะวิธีสังเกตอาการดังกล่าว
โควิด 2568 สายพันธุ์โอมิครอน XEC คืออะไร
โควิด 2568 สายพันธุ์โอมิครอน XEC คือโควิด 19 ลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่ค้นพบก่อนหน้านี้สองสายพันธุ์ KS.1.1 กลุ่มสายพันธุ์ FLiRT และ KP.3.3 กลุ่มสายพันธุ์ FLuQE ซึ่งจากข้อมูลที่เผยแพร่ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุไว้ว่า โควิด 19 โอมิครอน XEC ถูกพบครั้งแรกในเยอรมนีเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 และจากข้อมูลในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และจีน ในปี 2567 นั้น พบว่า XEC แพร่ระบาดเร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์อื่นถึง 84% 90% และ 110% ตามลำดับ จึงถือว่าโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC เป็นสายพันธุ์ที่สามารถแพร่ระบาดได้เร็ว
จึงไม่น่าแปลกใจที่มีคนติดโควิดกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น กรมควบคุมโรค รายงานตัวเลขผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 337,303 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ต้นปีรวม 33 ราย โดยถือว่ามีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด 19 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามคาดการณ์ เนื่องจากโรคโควิด 19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น ที่สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี
...
อย่างไรก็ตามกรมควบคุมโรคได้เตือนกลุ่มเสี่ยง 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว เพราะหากป่วยเสี่ยงเสียชีวิตได้ ดังนั้น หากสงสัยว่าจะติดโควิด จึงควรตรวจด้วย ATK จะเห็นได้ว่า โควิด 19 ล่าสุดนี้ แม้จะไม่ควรตื่นตระหนก แต่ก็ควรระมัดระวัง และสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้น ว่าเสี่ยงติดโควิดหรือไม่
ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงระวังอาการโควิดลงปอด
พญ.ภฤศภัค พยุง แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรมโรคติดเชื้อ รพ.จุฬาภรณ์ เผยว่าสำหรับโควิด โอมิครอน สายพันธุ์ XEC ที่ระบาดในตอนนี้ แม้ว่าจะมีอาการไม่รุนแรง แต่ก็แพร่เชื้อเร็ว ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงก็อาจมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป
"หากเชื้อโควิดลงปอดจะมีอาการไข้สูง หอบเหนื่อย ไอ อาจจะมีออกซิเจนที่ต่ำกว่า 92% ถ้าเป็นคนไข้กลุ่มเสี่ยงก็อาจจะลองวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หรือถ้ารู้สึกว่ามีไข้สูง หายใจหอบเหนื่อย ก็รีบไปพบแพทย์"
สรุปอาการโควิด 2568 สายพันธุ์โอมิครอน XEC มีอะไรบ้าง
จากข้อมูลของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และองค์กรสาธารณสุขของอังกฤษ (NHS) สรุปอาการโควิด 2568 สายพันธุ์โอมิครอน XEC ได้ดังนี้
- ไข้สูง หรือหนาวสั่น ไข้สูงหมายถึงแค่แตะที่หน้าอก หรือหลังก็รู้สึกร้อน
- ไอต่อเนื่องในช่วง 24 ชั่วโมง เป็นการไอต่อเนื่องมากกว่า 1 ชั่วโมง หรือ 3 ชั่วโมง
- สูญเสีย หรือการรับกลิ่นหรือรสเปลี่ยนแปลง
- หายใจลำบาก
- รู้สึกเหนื่อย หรือหมดแรง
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะ
- เจ็บคอ
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- เบื่ออาหาร
- ท้องเสีย
- รู้สึกไม่สบายหรืออาเจียน
ติดโควิด 2568 สายพันธุ์โอมิครอน XEC ควรดูแลตัวเองอย่างไร
- ถ้าตรวจพบเชื้อโควิดแล้ว เว้นระยะห่างจากคนทั่วไป 3 วัน และเว้นระยะห่างกับกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 10 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
- พักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำมากๆ ให้สังเกตว่าอยู่ในภาวะขาดน้ำหรือไม่ เบื้องต้นสังเกตสีของปัสสาวะ ควรเป็นสีเหลืองใส
- รับประทานยาแก้ไข้ได้
- ถ้าไอต่อเนื่องให้รับประทานน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา แต่ห้ามให้ทารกอายุต่ำกว่า 12 เดือนรับประทาน
- หายใจเข้าทางจมูกอย่างช้า และหายใจออกทางปาก เพื่อให้การหายใจดีขึ้น