ถอดสูตรสำเร็จ SMEs สไตล์ Potato Corner, สุกี้ ตี๋น้อย, MizuMi, iHAVECPU

บนเวที BITKUB SUMMIT 2025 by Tencent Cloud มหกรรมความรู้ด้านการลงทุน สุขภาพ และเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด “Gateway to The Future เปิดประตูสู่โลกอนาคต” ซึ่งในงานมีหลายเวที และหลายจุดน่าสนใจ

แต่มีเวทีหนึ่งที่นำผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ใจใหญ่ 4 คน 4 ธุรกิจมารวมตัวกัน คือ เวทีเรื่อง “Thai SMEs Reshape 2026 ทางรอด SMEs ไทย”

โดยเป็นการรวมตัวผู้ปลุกปั้น 4 ธุรกิจ ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในปัจจุบัน ได้แก่

• เฟิร์น-นัทธมน พิศาลกิจวานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (เจ้าของแบรนด์สุกี้ ตี๋น้อย)
• หนุย- วริษฐา สืบพันธ์วงษ์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง บริษัท มิซึฮาดะ กรุ๊ป จำกัด (เจ้าของแบรนด์ MizuMi)
• พีช-พชร จิราธิวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ร็อคส์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (เจ้าของสิทธิ์ Potato Corner Thailand, KHAO-SO-I และ UNO!)
• เปา-พีรดนย์ เหมยากร ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอ แฮฟ ซีพียู จำกัด (iHAVECPU)

จุดเริ่มต้นจาก Passion แต่ทำด้วย Practices

แต่ละธุรกิจมีความท้าทาย และจุดที่คนวัย 20 กลางๆ อายุยังไม่แตะ 40 ปี กล้าลุกขึ้นมาทำธุรกิจ ลงแรงลงใจลงทุน ส่วนใหญ่บอกว่าเกิดจาก “Passion”

เฟิร์น-สุกี้ ตี๋น้อย เล่าว่า เมื่อ 8 ปีก่อน ร้านสุกี้ในห้างไม่มีใครขายราคา 199 บาท และการกินสุกี้ในห้างของหลายคนคือต้องรอโอกาสพิเศษ ราคายังไม่ได้เข้าถึงง่าย และในฐานะคนชอบทานจึงเริ่มต้นธุรกิจนี้ และมีเป้าหมายต้องการ “สร้างร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีราคาให้คนทั่วไปเข้าถึงได้”

จากวันนั้นถึงปัจจุบัน สุกี้ตี๋น้อยมีกว่า 90 สาขา มีพนักงาน 9,000 คน เฟิร์นอายุ 33 ปีในปีนี้และปีหน้า (2569) สุกี้ตี๋น้อยจะเปิดสาขาภาคใต้เป็นครั้งแรก

“เปิดมาแค่ 8 ปี เราบอกไม่ได้ว่า เราจะไปถึงจุดไหน แต่ยังมีสิ่งที่เรายังไม่พอใจ ยังคิดว่าตัวเองยังไม่เก่ง ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ ในแง่การจัดการบริหารหลังบ้าน เราอยู่เฉยๆ ไม่ได้

บริษัทโตขึ้นเรื่อยๆ เฟิร์นก็ยังต้องโตขึ้นเรื่อยๆ ต้องคิดถึงการสร้าง foundation ส่งต่อสิ่งนี้ถึงลูกเรา คิดถึงพาธุรกิจให้ยั่งยืนอย่างไร ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่พอใจ และยังไม่ใช่จุดที่สำเร็จ” เฟิร์น-นัทธมน กล่าว

ฟาก พีช-พชร เล่าชัดถ้อยชัดคำว่า ธุรกิจ Potato Corner Thailand เริ่มจาก Passion Project เพราะเป็นเด็กอ้วน ชอบทาน พอถึงวัยเรียนระดับมหาวิทยาลัยเรียนธุรกิจจึงอยากหาอะไรสักอย่างทำกับเพื่อน แต่เสียดายเพื่อนเล่นดนตรีไม่เป็น จึงชวนกันทำธุรกิจอาหารจนวันหนึ่งก็เจอแบรนด์ Potato Corner และทำมาถึงปัจจุบันก็มีกว่า 160 แห่งทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย

นอกจากนี้ ภายใต้บริษัท ร็อคส์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ก็ยังมีธุรกิจร้านข้าวโซอิ, ร้านกาแฟ UNO

“แม้การได้สิทธิ์ Potato Corner จะมีโครงสร้างธุรกิจและไกด์ไลน์มาชัดแล้ว เพราะเป็นแบรนด์ระดับโลก แต่ในทีมเราก็ต้องเทสต์ปีครึ่ง ลอง 3-4 โมเดล กว่าจะได้ Potato Corner ที่เข้ากับตลาดในประเทศไทย ดังนั้นเราจึงมีทีม R&D ทีมมาร์เก็ตติ้ง ของเราทั้งหมด เปลี่ยนดีไซน์เปลี่ยนโลโก้ เพื่อให้เข้ากับ Local Market หรือจะเรียกว่า แทบจะถอดร่างทิ้งก็ได้ แต่เราก็ต้องมั่นใจว่า สินค้านี้เหมาะกับผู้บริโภคในแต่ละที่ ๆ ที่เราทำ” พีช บอกเล่าประสบการณ์ปั้น Potato Corner

สร้างแบรนด์ให้คนจำ สร้างธุรกิจจากความไม่ถูกใจวิถีเดิม

สำหรับ หนุย-MizuMi ในการให้สัมภาษณ์หลายสื่อหลายคนรู้ว่าเธอเริ่มต้นธุรกิจครีมกันแดดด้วยเทคโนโลยีญี่ปุ่น และใช้ชื่อแบรนด์ที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ทั้งที่เป็นภาษาญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นเองก็จะงง เพราะเป็นคำผิดไวยากรณ์ แต่ที่เลือกใช้ภาษาญี่ปุ่นเพราะเข้าใจตลาดคนไทยในยุคหนึ่งไม่นิยมสกินแคร์แบรนด์ไทย และคำว่า MizuMi มาจากการผสม 2 คำคือ mizu แปลว่า น้ำ ส่วน mi แปลว่า ความงาม

ส่วนจุด 3 จุดในโลโก้ เป็นคำมั่นสัญญา 3 คำ คือ Quality, Accessibility และ Dermology ซึ่งหมายถึง ธุรกิจของเธอ จะรักษาคุณภาพ ราคาเข้าถึงได้ และผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง

เธอเล่าด้วยว่า เธอเคยเป็นพนักงานเงินเดือนมั่นคง แต่ก็รู้สึกไม่ถูกใจวิถีธุรกิจขนาดใหญ่ ในวัยทำงานเริ่มต้นเธอมีคำถามกับงานกับชีวิต รู้สึกตัวเองเป็น lone wolf ต้องการความท้าทาย เธอจึงตัดสินใจลาออกจาก corporate เงินเดือนมั่นคง

แต่เส้นทางการปั้นแบรนด์ MizuMi ก็ไม่ได้ง่ายดาย เธอใช้เวลากว่า 10 ปีจนมีวันนี้ เธอบอกว่า ธุรกิจเพิ่งโตกระโดดในช่วง 5 ปีหลังนี้ ที่โตระดับเท่าตัว ส่วนหนึ่งเพราะก่อนหน้านี้เธอทำสินค้าตัวเดียวคือครีมกันแดดมาตลอด จึงโตช้า อีกทั้งช่วงแรกๆ ของธุรกิจ ก็กลัวพัง กลัวถึงขั้นไม่กล้าจ้างพนักงานเลย ทำกันเอง 4 คนในกลุ่มผู้ก่อตั้ง

“เรา take risk ระดับหนึ่ง และ take accurate ระดับหนึ่ง หนุยก็กลัวพัง ช่วงแรกไม่กล้าจ้างพนักงาน ผู้ก่อตั้ง 4 คน ทำเองหมด แต่ปัจจุบันความกล้าจะ take risk มากขึ้น”

ขณะที่ เปา-iHAVECPU บอกตรงๆ ว่า เริ่มธุรกิจเพราะอยากรวย อยากมีอิสรภาพทางการเงิน และเป็นคนชอบต่อคอมพิวเตอร์ เขาคือพนักงานคนแรกและคนเดียวในช่วงแรกของการก่อตั้งธุรกิจ ที่มีการแข่งขันสูง เป็น Red Ocean และ Margin บาง

ดังนั้น โจทย์ธุรกิจของเขาจึงจะทำยังไงที่คอมพิวเตอร์เหมือนกัน แต่วิธีขายไม่เหมือนกัน เขาย้ำและบอกทุกคนว่า เขาจะไม่ลงไปแข่งในสงครามราคา เป็นปณิธานส่วนตัวว่า ไม่ลงไปเล่นเกมราคา แต่จะเพิ่มมูลค่าให้สินค้าด้วยโปรโมชัน ด้วยสถานที่จัดจำหน่ายและความเชื่อมั่นในเรื่องสินค้าและตัวผู้ประกอบการที่ตีมูลค่าไม่ได้

จึงไม่แปลกที่หลายคนจะรู้จัก เปา คำคม ก่อนรู้จัก iHAVECPU แต่ในแวดวงเกมเมอร์และเด็กชอบคอมใครๆ ต่างรู้จักพี่เปา iHAVECPU เพราะเขาใช้ตัวเองเป็นแบรนดิ้ง สร้างรอยัลตี้ให้ผู้บริโภค และพร้อมแก้ปัญหาให้ลูกค้ามั่นใจในสินค้า

“ถ้าซีอีโอขยัน ลูกค้าจะมั่นใจ ลูกน้องจะไม่ขี้เกียจ และนั่นคือเหตุผลที่เขาไลฟ์วันละหลาย ๆ ชั่วโมงได้” เปา iHAVECPU ในวัย 37 ปี บอกเคล็ดลับความสำเร็จ

คำส่งท้ายของผู้ประกอบการ SMEs เจนใหม่

ในยุค AI ทำได้หลายอย่าง และช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งที่เจ้าของธุรกิจ SMEs บนเวที BITKUB SUMMIT 2025 ให้มุมมองคือ AI ช่วยงานให้เร็วขึ้น รับออเดอร์มากขึ้น และใช้ทำอะไร ๆ ได้หลายอย่างแทนก็จ้าง supplier แต่สิ่งที่ AI ยังแทนไม่ได้คือ “ความเป็นมนุษย์ การสื่อสารแบบมนุษย์ที่ลูกค้าต้องการ” เฟิร์น สุกี้ ตี๋น้อย ยืนยัน

ส่วน หนุย MizuMi บอกว่า AI ช่วยงานด้านกราฟิก ทำ VDO ได้มากขึ้น จนเธอสามารถผลิตชิ้นงาน Music Video ของแบรนด์ได้ภายในบริษัทไม่ต้องจ้าง outsource โดยเฉพาะในวันที่มีออเดอร์สินค้า 300,000 ยูนิตต่อเดือน และออกสินค้าใหม่ทุกเดือน การมี AI ช่วยรันคิวและทำกราฟิก จึงทำให้งานของ MizuMi ไวขึ้น

ด้าน เปา iHAVECPU บอกว่า เขาใช้ AI ตอบข้อความแชทลูกค้าที่มีมากกว่าวันละ 80,000 ข้อความ แต่ในแง่การผลิตคอนเทนต์การทำมาร์เก็ตติ้งยังไง เขายังเชื่อว่า คนทำได้ดีกว่า มีฟิลลิ่งมากกว่า

พร้อมส่งคำให้กำลังใจผู้ประกอบการ SMEs ไทยในยุคที่ธุรกิจไม่ง่าย และไม่เคยง่ายว่า ให้รักษาฐานตัวเองไว้ ทุกคนที่ทำธุรกิจต้องแกร่งจริง ๆ ถ้าอยากเติบโต ต้องเด่นกว่าคนอื่น ต้องยอมเหนื่อยกว่าคนอื่น คุณจึงจะลืมตาอ้าปากได้

ส่วนพีช-พชร บอกว่า เวลานี้เป็นเวลาของเอสเอ็มอี เพราะ corporate ใหญ่มีภาระเยอะ ปรับตัวได้ช้า ดังนั้นถ้าธุรกิจเรา agile ได้ดี เราจะได้เปรียบ

หนุย MizuMi ให้ข้อคิดว่า เอสเอ็มอีต้องตรวจเช็กสุขภาพธุรกิจของตัวเองอยู่เสมอ อย่าลืมมองหาความเสี่ยง และจำกัดความเสี่ยงให้ไว

และเฟิร์น สุกี้ ตี๋น้อยบอกว่า การทำธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ล้วนมีปัญหาทุกที่ แต่เราต้องมีเป้าหมายชีวิต เพราะอย่างเฟิร์น อยากเป็นเจ้าของร้านอาหารขนาดใหญ่ ถ้าเราชัดเจนว่า เราทำอะไรไปเพื่ออะไร เราก็จะไปต่อได้

เป็นกำลังใจจาก 4 ธุรกิจที่มีวันนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพราะความมุ่งมั่น สร้างความแตกต่างและลงลึกกับทุก ๆ ขั้นตอน จึงส่งผลให้หลายธุรกิจมีรายได้ทะลุหลักพันล้านบาท

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney