17 ปี “Neversaycutz” ในชีวิต "ปริญญา อินทชัย" ฝันปักหมุดสาขามหานครนิวยอร์กก่อนเข้าตลาดหุ้น

Business & Marketing

Executive Interviews

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

17 ปี “Neversaycutz” ในชีวิต "ปริญญา อินทชัย" ฝันปักหมุดสาขามหานครนิวยอร์กก่อนเข้าตลาดหุ้น

Date Time: 30 ส.ค. 2568 05:00 น.

Summary

ย้ายจากสหรัฐอเมริกามาอยู่ประเทศไทย นอกจากเป็นสมาชิกวงไทเทเนียม ศิลปินฮิปฮอปยุคบุกเบิกแล้ว คุณเวย์–ปริญญา อินทชัย ยังเริ่มต้นธุรกิจควบคู่ไปกับการทำเพลง โดยเปิดร้านตัดผมชาย “Neversaycutz” ในวันที่ 31 ส.ค.2551 อยู่ยาวมาจนกระทั่งร้านมีอายุครบ 17 ปีเต็ม

Latest

คุยกับ “นวลพรรณ ชัยนาม” เบื้องหลังกลยุทธ์ธุรกิจที่ทำให้ Watsons เป็นร้านที่ทุกคนต้องแวะ

ย้ายจากสหรัฐอเมริกามาอยู่ประเทศไทย นอกจากเป็นสมาชิกวงไทเทเนียม ศิลปินฮิปฮอปยุคบุกเบิกแล้ว คุณเวย์–ปริญญา อินทชัย ยังเริ่มต้นธุรกิจควบคู่ไปกับการทำเพลง โดยเปิดร้านตัดผมชาย “Neversaycutz” ในวันที่ 31 ส.ค.2551 อยู่ยาวมาจนกระทั่งร้านมีอายุครบ 17 ปีเต็ม

“ผมย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยประมาณปี 2551 หาร้านตัดผมในแบบที่คุ้นเคยไม่เจอ จึงเลือกร้านใกล้ที่พัก ไปเจอในซอยสุขุมวิท 39 เป็นร้านเล็กๆ ราคาย่อมเยาตัดหัวละ 40 บาท บอกเขาให้ตัดตามรอยเดิม สกินเฮด ใช้มีดโกนกันขอบแบบคมๆ ช่างชื่อแจ็คเป็นคนทำให้ พอทำได้ ก็มีเพื่อนไปตัดตาม กลายเป็นคนติดเยอะ ช่างแจ็คนี่แหละที่ทำให้ผมเริ่มธุรกิจนี้”

เป็นลูกค้าช่างแจ็คไม่ทันไร เจ้าของร้านอยากย้ายทำเล ช่างแจ็คจึงถามคุณเวย์อยากเปิดร้านตัดผมชายไหม จะไปทำให้ “ผมคิดอยู่วันหนึ่ง ก็บอกนานา (ไรบีนา อินทชัย-ภรรยา) ตอนนั้นเป็นแฟนกันใหม่ๆ ให้ช่วยหาทำเลเปิดร้าน นานาคือเสาหลัก (backbone) ถ้าไม่มีนานา ก็ไม่มีวันนี้ ตอนนั้นผมมีแบรนด์เสื้อยืด Neversay ขายอยู่ที่สยาม จึงเอาชื่อเดิมมาเติมคำว่า Cutz ต่อท้าย เลือกทำเลแถวสุขุมวิทเพราะลูกค้าเก่าจะได้มาหาง่าย “Neversaycutz” สาขาแรกอยู่ในซอยสุขุมวิท 51 คิดค่าตัดหัวละ 100 บาท มีช่าง 3 คน คือช่างแจ็ค ช่างนพ ช่างเหน่ง ซึ่งปัจจุบันช่างแจ็คและช่างนพก็ยังอยู่กับเรา”

7 ปีแรกธุรกิจดีเกินคาด ตอนนั้นจุดคุ้มทุนอยู่ที่วันละ 15 หัว แต่ Neversaycutz ทำได้สูงสุดวันละ 96 หัว เฉลี่ยเกิน 30 หัวทุกวัน จึงทำกำไรตั้งแต่ปีแรก นอกจากตัดผมชายสไตล์อเมริกันฮิปฮอปแล้ว ยังเป็นร้านแรกๆที่รับแกะลายสักบนหัวด้วย

“วันนึง มีเพื่อนเจ้าของร้านตัดผมที่นิวยอร์กมาหา เขาบอกว่าร้านตัดผมผู้ชาย สามารถเปิดได้ทุกชุมชน เพราะผู้ชายต้องตัดผมและติดช่าง ฟังเขาพูด ผมจึงเดินหน้าขยายสาขาตั้งแต่ปีที่ 2 มุ่งหน้าสู่สยามสแควร์ ลิโด้ อารีย์ รามคำแหง ทาวน์อินทาวน์ รวมทั้ง ต่างจังหวัด”

7 ปีแรกผ่านไป การแข่งขันรุนแรงขึ้น มีร้านแบบเดียวกันผุดขึ้นมากมาย แม้ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ยังอยู่ได้และมีกำไร ตอนนั้นมีประมาณ 20 สาขาทั่วประเทศ จนเดือน มี.ค.2560 มีพันธมิตรใหม่เข้ามาถือหุ้นร่วม ภายใต้เป้าหมายนำ Neversaycutz เข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จดตั้งบริษัทใหม่ในนาม “บริษัท เนเวอร์ เซย์คัทซ์ จำกัด” มีปริญญาและไรบีนา อินทชัย, ธราภุช คูหาเปรมกิจ, ธนกร สีแสงทอง เป็นกรรมการร่วมกัน

 ไม่ทันไรเกิดวิกฤติโควิดระบาด ร้านตัดผมโดนปิดเป็นด่านแรก และนั่นทำให้ Neversaycutz ขาดทุนเป็นครั้งแรก “โชคดีที่เรามีพันธมิตรใหม่เข้ามาเพิ่มทุน ทำให้ยังพอไปได้ ไม่งั้นน่าจะแย่กว่านี้ เรายังมีช่วงเวลาลองผิดลองถูก โดยเฉพาะตอนบุกต่างจังหวัด ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเพราะสู้ร้านในพื้นที่ไม่ได้ เราเคยมีสาขาที่พัทยา สมุย อุดรธานี ภูเก็ต เชียงราย ซึ่งปิดไปหมดแล้ว เหลือแต่ที่โคราช”

ขาดทุนช่วงโควิดอยู่ 2 ปี Neversaycutz ก็กลับมาทำกำไรต่อ นอกจากจุดแข็งในฐานะผู้บุกเบิกร้านตัดผมชายสไตล์อเมริกันฮิปฮอป ใช้รูปแบบร้านน็อกดาวน์ในหลายสาขา ทำให้ยืดหยุ่น โยกย้าย ติดตั้งง่าย คุมต้นทุนได้ดี

Neversaycutz ยังเป็นพันธมิตรกับ ปตท.และซีพีออลล์ เปิดสาขาในพื้นที่ปั๊มและร้าน 7-11 (ใช้ชื่อร้าน Cutzbarber) จนปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 42 สาขา “พอธุรกิจขยาย เรายิ่งทำต้นทุนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเรามีผลิตภัณฑ์ด้านผมวางขายอยู่ในร้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นโทนิก ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม ซึ่งมีแผนขยายให้ใหญ่ขึ้น”

จากงบดุลที่แจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ บริษัท เนเวอร์ เซย์คัทซ์ จำกัด มีรายได้ในปี 2565 ที่ 84 ล้านบาท กำไร 6.6 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้ 104 ล้านบาท กำไร 5.7 ล้านบาท และปี 2567 มีรายได้ 120 ล้านบาท กำไร 3.9 ล้านบาท

ถามถึงความสำเร็จของ Neversaycutz คุณเวย์อธิบายว่า 17 ปีที่ผ่านมา Neversaycutz เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ ตัดผมผู้ชายไปแล้วมากกว่า 1 ล้านคน เฉลี่ยปีละ 400,000 หัว พร้อมความตั้งใจในการยกระดับช่างตัดผมไทย มีเวิร์กช็อปทุก 3 เดือน อัปเดตเทคนิคใหม่ เคาะสนิมเทคนิคเดิม ช่างอยากเรียนรู้อะไรเพิ่ม จัดให้หมด ช่างได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์จากค่าบริการรายหัว เริ่มต้นที่ตัดผมหัวละ 500 บาท และเพิ่มขึ้นจากบริการเสริม ซึ่งมีทั้งสระผมและโกนหนวด

ในอนาคตอันใกล้ คุณเวย์และหุ้นส่วน กำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ตั้งแต่การขยายบริการ ครอบคลุมการดัดผม ทำสีผม ซึ่งเป็นเทรนด์ผมยุคปัจจุบัน การเปิดร้านผมสำหรับสุภาพสตรี ตลอดจนการทำเล็บ สปามือ-เท้า ส่วนในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า เขาหวังว่าจะสามารถนำ Neversaycutz ไปเปิดสาขาต่างประเทศแห่งแรกที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก่อนเข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในฐานะนักธุรกิจ คุณเวย์มีหลักคิดแบบ Business on my way ที่ต้องทำทุกอย่างให้แฟร์ ทั้งต่อลูกค้า คู่ค้า ผู้ร่วมงาน และที่สำคัญที่สุดเขาทำธุรกิจนี้ด้วย passion ทำด้วยความสุข สิ่งนี้ทำให้รู้สึกดีอยู่เสมอ

“ย้อนหลังไป 17 ปี ผมไม่คิดว่า Neversaycutz จะขยายได้ถึง 42 สาขา ผมไม่คิดว่าจะทำได้ใหญ่ขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่ได้ตกใจ เข้าใจความหมายไหม เพราะผมเชื่อเสมอว่ามันจะไปได้ไกลมากๆ ร้านตัดผมชายสามารถอยู่ได้ทุกที่ที่มีผู้ชายอยู่”.

เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ “Business on my way” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ