โรงพยาบาลพระรามเก้า ร่วมมือกับ Plan B Media สร้างสรรค์สื่อนอกบ้านรูปแบบใหม่ เปิดตัว The Eye-Diagnostic Billboard บิลบอร์ดสุดล้ำที่ให้เช็กอาการ วุ้นตาเสื่อมเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เพียง 15 วินาที
โรงพยาบาลพระรามเก้า ตระหนักถึงความสำคัญของโรควุ้นตาเสื่อมจึงผนึกกำลังกับ Plan B Media เปิดตัวบิลบอร์ดกลางเมืองให้เป็นสัญญาณเตือนภัย ที่ไม่เพียงแค่โฆษณา แต่ออกแบบมาให้คุณสามารถตรวจเช็กตัวเองง่าย ๆ ว่ามีภาวะเสี่ยงวุ้นตาเสื่อมหรือไม่ ด้วย 3 เวอร์ชันที่จำลองอาการจริงของผู้ป่วย ทั้งการเห็นหยากไย่ จุดดำ และวุ้นน้ำขุ่นในสายตา ออกแบบตามหลักการแพทย์อย่างถูกต้อง และมี Call to Action ที่ชัดเจน: อย่ารอให้สาย รีบมาตรวจดวงตากับผู้เชี่ยวชาญ
ทั้งนี้สื่อสร้างสรรค์นอกบ้านรูปแบบ The Eye-Diagnostic Billboard คือก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงสื่อกลางแจ้งเพื่อสังคม และ โรงพยาบาลพระรามเก้า เชื่อว่า ความรู้และการตรวจเช็กร่างกายตั้งแต่เนิ่น ๆ คือกุญแจสำคัญที่จะปกป้องการมองเห็นของคนไทยให้ยังคงอยู่ไปอีกนานแสนนาน
สำหรับภาวะวุ้นตาเสื่อม คือภัยเงียบที่เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ จนหลายคนมองข้าม อาการเริ่มต้นอาจเป็นแค่หยากไย่ลอยไปมาในสายตา หรือจุดดำประหลาดเมื่อมองไปที่สว่าง หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแค่เศษฝุ่นหรือความเหนื่อยล้าธรรมดา แต่จริง ๆ แล้ว นี่คือสัญญาณเตือนที่หากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นถาวร เพราะเมื่อวุ้นตาเสื่อม มันอาจดึงรั้งจอประสาทตาจนฉีกขาด ทำให้การมองเห็นค่อย ๆ หายไป
ทั้งนี้ในยุคที่การใช้สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา การ ติดจอ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เพิ่มโอกาสให้เกิดภาวะวุ้นตาเสื่อม ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ภายในปี 2050 จะมีประชากรโลกถึง 1 พันล้านคนที่มีภาวะสายตาสั้นอย่างรุนแรง และคนไทยหลายล้านคนกำลังเสี่ยงต่อโรควุ้นตาเสื่อมโดยไม่รู้ตัว สำหรับผู้ที่สนใจปรึกษาเรื่องภาวะวุ้นในตาเสื่อม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1270 หรือโซเชียลมีเดียของโรงพยาบาลพระรามเก้า
เปิดตัวรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2568 : นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รางวัลการทูตสาธารณะ เป็นรางวัลที่กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทยร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคลกลุ่มบุคคล หรือองค์กร ทั้งสัญชาติไทยหรือต่างประเทศ ที่มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในต่างประเทศ ในด้านสาธารณประโยชน์ มนุษยธรรม วัฒนธรรม กีฬา และนวัตกรรม ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในมิติที่สร้างสรรค์ สง่างาม และมีเกียรติภูมิ
การทูตไม่ได้จำกัดเพียงการสานความสัมพันธ์ในระดับรัฐต่อรัฐ แต่ประชาชนก็สามารถเป็นนักการทูตโดยการสร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จัก ด้วยบทบาทหรือความสามารถของตัวเอง รางวัลนี้จึงไม่ใช่เพียงการมอบเกียรติยศให้แก่บุคคลผู้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกกลุ่มเห็นว่า ทุกคนสามารถสร้างการยอมรับให้กับประเทศไทยได้ โดยเฉพาะในโลกยุคใหม่ที่พรมแดนการสื่อสารไร้ขีดจำกัด
นายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย กล่าวว่า โครงการนี้ดำเนินต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว และได้มอบรางวัลมาแล้วทั้งสิ้น 4 ท่านกับหนึ่งองค์กร โดยมีผู้ได้รับประโยชน์ในวงกว้างและหลากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งปีนี้จะมีการมอบรางวัลจำนวน 1–3 รางวัลเช่นเคย
เรายินดีที่เห็นจำนวนผู้เสนอชื่อเพิ่มขึ้นในทุกปี สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและการรับรู้ของสังคมไทยที่มีต่อบทบาทของการทูตสาธารณะอย่างกว้างขวาง ตัวอย่างเช่นในปีที่ผ่านมา มีผู้เสนอชื่อเข้ารับรางวัลถึง 21 ราย ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับการคัดเลือกผู้สมควรได้รับรางวัล ประจำปี 2568 จะดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการมูลนิธิไทย ผู้แทนภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน รวม 10 คน ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการมูลนิธิไทย ซึ่งจะร่วมกันพิจารณาผลงานของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ และคัดกรองผู้สมควรได้รับรางวัลเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการมูลนิธิไทย ซึ่งเป็นผู้ตัดสินในขั้นสุดท้าย
ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปสามารถร่วมเสนอชื่อบุคคล กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่สมควรได้รับรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2568 ได้ เปิดรับการเสนอชื่อ ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 กรกฎาคม 2568 โดยจะประกาศผลในเดือนกันยายน 2568 และจัดพิธีมอบรางวัลในช่วงปลายปีนี้
การแข่งขันเก็บขยะระดับโลก : จี-ยู ครีเอทีฟ ผนึกกำลังพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ สยามพิวรรธน์ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ เตรียมจัดการแข่งขัน SPOGOMI WORLD CUP 2025 THAILAND Qualifiers เพื่อค้นหาตัวแทนประเทศไทยร่วมชิงชัยกับอีก 33 ประเทศทั่วโลก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
สำหรับการจัดงาน SPOGOMI WORLD CUP 2025 THAILAND Qualifiers ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัทในเครือ อาทิ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXTRA และบริษัท ซีพีพีซี จำกัด (มหาชน) หรือ CPPC
โดยล้วนมีบทบาทเชิงรุกในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและบริหารจัดการขยะภายใต้นโยบาย Zero Waste อย่างจริงจังมาโดยตลอด การสนับสนุนกิจกรรม SPOGOMI ในครั้งนี้ จึงไม่เพียงสะท้อนถึงความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมของภาคธุรกิจไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อนสังคมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างการเปลี่ยนแปลงจากระดับปัจเจกสู่ระดับประเทศ และส่งต่อพลังบวกให้กับชุมชนและคนรุ่นใหม่ในการดูแลโลกใบนี้อย่างมีความหมาย
ทั้งนี้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการเก็บและคัดแยกขยะ พบกับกิจกรรมรักษ์โลกที่สร้างสรรค์ ร่วมฟังเสวนาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ภายในวันเสาร์ที่ 12 และ วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568 ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน
สนับสนุนการฝึกซ้อมแผนขจัดมลพิษทางน้ำ TOC EX 14 : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การสนับสนุนจัดการฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์แห่งชาติ ครั้งที่ 14 (14 th Thailand Oil and Chemical Spill Response Exercise: TOC EX 14) ซึ่งจัดโดยกรมเจ้าท่าร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) กองทัพเรือ สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง