แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ CAC จับมือภาคีเครือข่ายและ ป.ป.ช. เปิดตัวโครงการเรียกรับ เราร้อง เสริมพลังแจ้งเบาะแสต้านคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม
นายพรหเมศร์ เบ็ญจรงค์กิจ ผู้อำนวยการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ CAC กล่าวว่า โครงการเรียกรับ… เราร้องสะท้อนความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นในความโปร่งใส สนับสนุนให้ผู้บริหารและพนักงานมีความกล้าและตระหนักถึงบทบาทในการแจ้งเบาะแสการทุจริต ผ่านช่องทางที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพื่อลดปัญหาคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม
โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย CAC จะส่งเสริมภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วม ขณะที่สำนักงาน ป.ป.ช. จะเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักมีความกังวลในการแจ้งเบาะแส
ทั้ง CAC และ ป.ป.ช. จะเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแจ้งเบาะแสที่มีคุณภาพ เพื่อให้หน่วยงานกำกับสามารถนำเบาะแสไปดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางแจ้งเบาะแสที่ปลอดภัย เข้าถึงหน่วยงานกำกับโดยตรง และมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันเรามีบริษัทที่เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 125 บริษัท ซึ่งมีพนักงานรวมกันกว่า 460,000 คน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหวังว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเราจะดำเนินการสื่อสารไปยังองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้ภาคีเครือข่ายสามารถส่งต่อข้อมูลและแจ้งเบาะแสได้อย่างกว้างขวาง คาดว่าภายในปี 2568 จะมีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 1 ล้านคน
สำหรับการเปิดตัวโครงการดังกล่าว เราได้รับเกียรติจากนายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.และนายกุลเวช เจนวัฒนวิทย์ กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) เป็นประธานในพิธี
ทั้งนี้ CAC และภาคีเครือข่ายได้จัดเตรียม 3 ช่องทางในการร้องเรียนไว้สำหรับผู้พบเห็นการกระทำทุจริตคอร์รัปชัน ได้แก่ 1. ช่องทางภายในบริษัทของท่าน 2. ช่องทางของสำนักงาน ป.ป.ช. ผ่านสายด่วน โทร. 1205 หรือเว็บไซต์ https://wbs.nacc.go.th และ 3. ช่องทางของ CAC โดยตรง เว็บไซต์ www.thai-cac.com
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนบริษัท สมาชิก และคู่ค้า ร่วมแสดงเจตจำนงในการต่อต้านการทุจริต เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ บนพื้นฐานของธรรมาภิบาลและจริยธรรมที่โปร่งใสตามค่านิยมขององค์กร
นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านการยกระดับความโปร่งใสของประเทศ โดย ป.ป.ช. ยินดีสนับสนุนบทบาทของภาคเอกชนในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และพร้อมรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับการคุ้มครอง และข้อมูลจะถูกนำไปดำเนินการอย่างจริงจัง
ร่วมลงนาม PRI : นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิต มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมลงนามรับหลักการลงทุนที่มีความรับผิดชอบ (PRI Signatory) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามหลักการลงทุนอันเป็นที่ยอมรับและใช้อย่างแพร่หลายในระดับสากล ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และมุ่งหวังที่จะได้ร่วมมือกับผู้ลงนามอื่นๆ ในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการลงทุนที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดทำนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) สำหรับการลงทุนมาตั้งแต่ ปี 2562 และพัฒนาเป็นนโยบายการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบในปี 2567 โดยมีการนำหลักการลงทุน ที่มีความรับผิดชอบมาใช้ในกระบวนการลงทุน ตั้งแต่การคัดเลือกหลักทรัพย์ การวิเคราะห์หลักทรัพย์เพื่อการสร้างพอร์ตโฟลิโอการลงทุน รวมไปถึงการมีส่วนร่วม (Engagement) กับกิจการที่เข้าไปลงทุน และ การดำเนินการร่วมกับผู้ร่วมตลาดเพื่อพัฒนาการลงทุนของบริษัท และมีส่วนร่วมในการพัฒนาตลาดทุนโดยรวม
นายเดวิด แอทกิน CEO PRI กล่าวว่า เรายินดีต้อนรับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทประกันชีวิตไทยแห่งแรกที่ลงนามใน PRI เนื่องจากอุตสาหกรรมประกันภัยมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในการพัฒนาแนวทางแบบองค์รวมที่รวมประเด็นด้านความยั่งยืนในการประเมินความเสี่ยง และเราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับเมืองไทยประกันชีวิต เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนอย่างรับผิดชอบในภูมิภาคนี้
สำหรับ PRI เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การสนับสนุนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations) ก่อตั้ง ในปี 2006 ที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ซึ่งให้หลักปฏิบัติเรื่องหลักการลงทุนที่มีความรับผิดชอบ โดยมี การผนวกประเด็นเรื่อง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้าด้วยกัน และนำไปใช้ในกระบวนการตัดสินใจลงทุนตลอดจนการมีส่วนร่วมของผู้ถือหุ้น (Active Ownership)
โดยความร่วมมือของทั้งสามฝ่ายจากทั้ง UN Global Compact UNEP Finance Initiatives และผู้เข้าร่วมโครงการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน จะช่วยเสริมสร้างความมั่งคง ความยั่งยืนในระยะยาวให้กับตลาดทุน สังคมและเศรษฐกิจของโลก ปัจจุบันมีสถาบันที่เข้าร่วมลงนามกว่า 5,000 รายทั่วโลก ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 128 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งผู้ที่ร่วมลงนามตกลงที่จะปฏิบัติตามหลักการลงทุนที่รับผิดชอบ ทั้ง 6 ประการ
THAILAND CRAFT COCOA 2025 : เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมกับ สมาคมการค้าช็อกโกแลตพิเศษไทย หรือ TSCA (Thai Specialty Chocolate Trade Association) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) สนับสนุนผู้ประกอบการคราฟต์โกโก้ไทย สู่การเติบโตในระดับโลก The Growth of Cacao Journey Local to Globalโดยคัดเลือกแบรนด์คราฟต์โกโก้จากแหล่งปลูกคุณภาพทั่วไทย และร้านโกโก้ไทยที่ TSCA การันตีว่ามีคุณภาพระดับสากลเทียบเท่ามาตรฐานของ ICA (International Chocolate Awards) รวมไว้ในงาน THAILAND CRAFT COCOA 2025 ตั้งแต่ 19 พ.ค. 68 – 25 พ.ค. 68 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซนอีเดน, เซ็นทรัล คอร์ท และบีคอน