3 แบงก์ฟันกำไร 3.7 หมื่นล. ดอกเบี้ยลด-ช่วยลูกหนี้ฉุดรายได้หดตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 3 ธนาคารพาณิชย์ ประเดิมเผยกำไรครึ่งปีแรก ปี 68 รวมกันอยู่ที่ 37,845 ล้านบาท แบงก์กรุงเทพนำโด่ง 24,458 ล้านบาท นายแบงก์โอดรายได้ดอกเบี้ยลด เหตุดอกเบี้ยนโยบาย ธปท. ลด และช่วยลูกค้าแก้หนี้โครงการคุณสู้เราช่วย

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน แม้จะได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นก่อนมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ แต่ความต้องการและกำลังซื้อภายในประเทศกลับอ่อนแรงลงอย่างชัดเจน 

โดยผลประกอบการครึ่งปีแรก กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 3,287 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้ธุรกิจหลักปรับตัวลดลง โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงสืบเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ขณะที่สินเชื่อยังคงขยายตัวที่ 1.4% จากปีก่อน จากกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เป็นหลัก ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทำให้มียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ในส่วนนี้เติบโตขึ้นถึง 17%

ด้านธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รายงานกำไรสุทธิสำหรับงวดแรกปี 2568 ของธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อย จำนวน 24,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากงวดแรกปีก่อน สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายด้าน ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 63,614 ล้านบาท และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ 2.85% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

สำหรับการปล่อยสินเชื่อ ธนาคารกรุงเทพยังคงแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,712,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% จากสิ้นปีก่อน ส่วนใหญ่จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.2% ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

ขณะที่ทีเอ็มบีธนชาต นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก อย่างไรก็ดีจากการที่ทีทีบีเน้นย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบมาโดยตลอด โดยในไตรมาสที่ 2 มีกำไรสุทธิ 5,004 ล้านบาท และรวม 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 10,100 ล้านบาท หนี้เสียอยู่ในระดับต่ำที่ 2.73% 

ทั้งนี้ กำไรสุทธิ 5,004 ล้านบาท ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบแล้วจะเห็นว่าปรับตัวลดลง 2% จากไตรมาสก่อน และลดลง 7% จากไตรมาส 2 ปี 2567 การลดลงดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย และสะท้อนผลจากการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้าภายใต้โครงการต่าง ๆ นำโดยโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 2 มีลูกค้าทั้งรายย่อยและ SMEs เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 54,000 ราย หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อราว 31,000 ล้านบาท