ชาวอเมริกัน ค่าครองชีพพุ่ง!  54% ไม่มีเงินออมฉุกเฉิน เพราะรายจ่ายมากกว่ารายได้

Economics

Global Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ชาวอเมริกัน ค่าครองชีพพุ่ง! 54% ไม่มีเงินออมฉุกเฉิน เพราะรายจ่ายมากกว่ารายได้

Date Time: 30 มิ.ย. 2568 17:50 น.

Video

หุ้นถูกมีจริง! เลือกหุ้นปันผลและหุ้นเติบโตยังไงให้รวยในยุคนี้? | Thairath Money Night Stand EP.12

Summary

คนสหรัฐฯ มากกว่าครึ่ง เผชิญเศรษฐกิจผันผวน-เงินเฟ้อสูง พบ 54% ไร้เงินออม เพราะค่าครองชีพสูงกว่ารายได้ ขณะ "เงินเฟ้อ" กลายเป็นภัยเงียบ กัดกินเงินในกระเป๋า

Latest


ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและไม่มีอะไรแน่นอนแบบนี้ การเก็บค่าใช้จ่ายสามถึงหกเดือนในบัญชีออมทรัพย์อาจเป็นตัวช่วยสำคัญในวันที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในชีวิต เช่น ตกงาน ขาดรายได้ หรือประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ต้องจ่ายเงินค่าพยาบาลก้อนใหญ่

แต่แม้ว่าหลายคนจะวางแผนที่จะเก็บเงินเพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินของตัวเอง แต่ปัญหาที่พวกเขาพบคือ "ค่าครองชีพ" ที่พุ่งสูงมากกว่ารายได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ในการเก็บเงินของใครหลายคน เนื่องจากราคาสินค้าที่แพงนั้น ค่อย ๆ กัดกินเงินในกระเป๋าจนไม่มีเงินเหลือพอให้ออม

จากผลสำรวจของ Bankrate พบว่า ชาวอเมริกันมากกว่า 54% ไม่มีเงินเก็บ เพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศสหรัฐฯที่สูง ซึ่งส่งผลให้การประหยัดและอดออมเป็นไปได้ยากในช่วงที่เศรษฐกิจปั่นป่วนแบบนี้

เศรษฐกิจผันผวน และเงินเฟ้อ กําลังกัดกินเงินเก็บของชาวอเมริกัน

CNBC และ CBS รายงานว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหรือ PCE ในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายประจำปีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ พยายามไม่ให้เกิน 2% 

โดยราคาสินค้าในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามข้อมูลของ PCE ไม่รวมอาหารและพลังงานที่ผันผวน พบว่ามีราคาเพิ่มขึ้น 2.7% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากอัตรา 2.5% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ 

นอกจากตัวเลขเงินเฟ้อแล้ว การใช้จ่ายและรายได้ของผู้บริโภคยังแสดงสัญญาณของการอ่อนค่าลงอีก เพราะชาวอเมริกันต้องการรักษาความมั่นคงทางการเงินของตัวเองในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน โดยพบว่า การใช้จ่ายลดลง 0.1% ในเดือนพฤษภาคม

ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง และได้มีการพยายามผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ผ่อนคลาย เพราะอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ หากราคาเริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง FED จะสามารถเปลี่ยนเกียร์เดินเครื่องให้เศรษฐกิจผ่านไปได้ด้วยดีเสมอ

แต่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเตือนให้ระมัดระวังอัตราเงินเฟ้ออาจลุกโชกอีกครั้ง ส่งผลให้เหล่าผู้บริโภคในสหรัฐยังลดการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีการประกาศนโยบายภาษีทรัมป์จนถึงทุกวันนี้

แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอีกต่อไป แต่ในปีนี้ผู้คนจํานวนมากขึ้นรู้สึกว่าเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อเงินออมของพวกเขาให้ลดน้อยลง โดยเฉพาะเงินสําหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ/ราคาที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงรายได้หรือการจ้างงาน

เกือบ 3 ใน 4 ของชาวอเมริกัน กล่าวว่าพวกเขาต้องการค่าใช้จ่ายอย่างน้อยสามเดือนในการออมฉุกเฉินเพื่อให้รู้สึกสบายใจในยุคที่เศรษฐกิจไม่มีอะไรแน่นอน แต่มีเพียง 27 % เท่านั้นที่มีเงินเก็บมากกว่าสามเดือน เพราะอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ค่าใช้จ่ายของพวกเขาพุ่งสูงมากขึ้น จนแทบจะไม่เหลือเงินให้เก็บ

"เช่นเดียวกับที่อัตราเงินเฟ้อทําให้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสูงขึ้น มันยังบ่อนทําลายระดับความสะดวกสบายที่ชาวอเมริกันมีกับเงินออมฉุกเฉิน" แมคไบรด์ หัวหน้านักวางแผนการเงิน (CFA) ของ Bankrate กล่าว 

ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ของชาวอเมริกันในช่วงนี้ กำลังประสบปัญหาเรื่องค่าครองชีพสูง เพราะความผันผวนของตลาดและเศรษฐกิจในประเทศ การใช้จ่ายน้อยลงเพราะผู้คนพยายามเก็บออมมากขึ้นเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่อุปสรรคที่พวกเขาต้องเผชิญกลับเป็นภาวะเงินเฟ้อที่กำลังทำให้เงินในกระเป๋าของพวกเขาหายไปจนแทบไม่เหลือให้เก็บออม

ที่มา : Bankrate, CNBCCBS 

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ