รัฐอนุมัติใช้งบกลาง 5 พันล้าน เติมกองทุนประชารัฐ-ช่วยค่าไฟ-ฟื้นฟูน้ำท่วม

Economics

Global Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รัฐอนุมัติใช้งบกลาง 5 พันล้าน เติมกองทุนประชารัฐ-ช่วยค่าไฟ-ฟื้นฟูน้ำท่วม

Date Time: 27 ส.ค. 2568 07:31 น.

Summary

ครม.โอนงบกลางที่เตรียมไว้กระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ 26,000 ล้านบาทเข้างบกลาง พร้อมอนุมัติใช้งบกลาง 5,099.55 ล้านบาท ทั้งเติมกองทุนประชารัฐ ช่วยค่าไฟฟ้าชาวบ้านในจังหวัดที่ประสบอุทกภัยปี 67

Latest

พาณิชย์พาเปิดตัวสู่มาเลเซียปิดดีลกว่า 200 ล้าน   หนุน "แฟรนไชส์ไทย" โกอินเตอร์

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และการใช้วงเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจส่วนที่เหลือ   26,000  ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีข้อเสนอโครงการ และระยะเวลาที่เหลืออยู่เป็นช่วงใกล้สิ้นปีงบประมาณ ทำให้ไม่สามารถจัดทำโครงการและดำเนินการก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันที่ 30 ก.ย.2568

ฉะนั้น เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสอดดคล้องกับสถานการณ์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สามารถโอนงบกลางรายการดังกล่าวไปเพิ่มในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยเสนอขออนุมัติต่อนายกรัฐมนตรี และในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินโครงการกระตุ้เศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ก็สามารถขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อไปดำเนินโครงการได้  ซึ่งเมื่อรวมกับงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามพระราชบัญญัติงบประมาณ 2568 จำนวน 96,556 ล้านบาท ทำให้มีวงเงินทั้งสิ้น 122,556 ล้านบาท

น.ส.ศศิกานต์  กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.ยังได้เห็นชอบโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยสำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2568 – 2570 ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะสนับสนุนสินเชื่อให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร หรือสถาบันชาวไร่อ้อย หรือกลุ่มบุคคล หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในวงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวมเป็น 6,000 ล้านบาท      

โดย 1.ครม.อนุมัติชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการฯ สำหรับเกษตรกรรายคน โดยชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. แทนผู้กู้ในอัตรา 3% ต่อปี  2.ชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการฯ สำหรับกลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร หรือสถาบันชาวไร่อ้อย หรือกลุ่มบุคคล หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย ในอัตรา 2 %ต่อปี  ส่วน เงินกู้วัตถุประสงค์เพื่อจัดซื้อเครื่องจักรการเกษตร ประเภทรถบรรทุกและพ่วงบรรทุก รวมทั้งอากาศยานไร้คนขับ ครม.เห็นว่า รัฐบาลไม่ต้องชดเชยดอกเบี้ย โดยกรอบวงเงินฯ ชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการฯ รวมจะอยู่ที่ไม่เกิน 945 ล้านบาท  

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการอนุมัติงบกลางเพิ่มเติม ที่ประชุมครม.ครั้งนี้อมุมัติใช้รวม  5,099.55  ล้านบาท  โดยน.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า  ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 2,900 ล้านบาท ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ 13.45 ล้านคน ตามที่ คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เสนอ เนื่องจาก  ณ วันที่ 31 ก.ค. 2568 บัญชีของกองทุนฯ  มีสถานะคงเหลือ 6,556.36 ล้านบาท โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายในช่วงเดือนส.ค. – ก.ย. 2568 เฉลี่ยเดือนละ 4,720 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 9,440 ล้านบาท ทำให้มีความจำเป็นต้องขอรับการจัดสรรรบประมาณเพิ่มเติม

ขณะที่นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ใช้จ่ายงบกลางฯ 1,696 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือด้านค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย  แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก รวม 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา พิษณุโลก สุโขทัย ตาก พิจิตร อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน อุทัยธานี อุดรธานี หนองคาย นครพนม บึงกาฬ และพระนครศรีอยุธยา โดยไม่เรียกเก็บเดือนก.ย. 2567 และให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า30% ในเดือนต.ค.2567

นอกจากนี้ ครม.อนุมัติจัดสรรงบกลางฯ ทำโครงการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยของจังหวัดเชียงราย 18 โครงการ วงเงินรวม 363.62 ล้านบาท และจำนวน 139.93  ล้านบาท  เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้   279 รายด้วย

 

 




Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ