ธปท.-แบงก์ ออกมาตรกาารช่วยลูกหนี้ชายแดน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ธปท.-แบงก์ ออกมาตรกาารช่วยลูกหนี้ชายแดน

Date Time: 28 ก.ค. 2568 07:13 น.

Summary

แบงก์ชาติ ให้แบงก์-นอนแบงก์ ช่วยผู้ได้รับผลกระทบปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ลดวงเงินผ่อนบัตรเครดิต ให้สินเชื่อฉุกเฉินระยะสั้นผ่านสินเชื่อบุคคล ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย กลับมาประกอบอาชีพ

Latest

ตำนาน 70 ปี "นันยาง"รองเท้าคู่ใจ ส่งรุ่นลิมิเต็ด“พิทักษ์ 68”เคียงข้างทหารไทย 

นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่รุนแรงขึ้นและขยายวงกว้างจนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย การดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน ซึ่งอาจทำให้ผู้ได้รับผลกระทบขาดรายได้และมีภาระทางการเงินเพิ่มขึ้น รวมถึงอาจมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง ธปท. จึงขอความร่วมมือสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่มิใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวตามความเหมาะสมโดยเร่งด่วน โดยมีแนวทางปฏิบัติใน 3 เรื่อง 


ประกอบด้วย 1. กรณีการช่วยเหลือสินเชื่อบัตรเครดิต สามารถพิจารณาปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ ให้ต่ำกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนดได้ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 


2. สามารถพิจารณาเงื่อนไขวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินให้เกินกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนด สำหรับการให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อให้ลูกหนี้มีแหล่งเงินทุนฉุกเฉินเพียงพอสำหรับการฟื้นฟูความเสียหายอันเนื่องมาจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยให้อนุมัติวงเงินดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายในไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568


 3. สำหรับสินเชื่อทุกประเภท สามารถพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องแก่ลูกหนี้ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อได้ รวมถึงการปรับเงื่อนไข เช่น ลดหรือยกเว้นดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยให้อนุมัติวงเงินดังกล่าวโดยเร็ว ภายในไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 


ทั้งนี้ ระหว่างการให้ความช่วยเหลือ ธปท. จะผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ ให้คงการจัดชั้นเดิมเช่นเดียวกับก่อนประสบสถานการณ์ด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมและทันท่วงที ธปท. ขอส่งกำลังใจให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ได้ทยอยออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ทั้งการพักชำระหนี้เงินต้น ให้สินเชื่อใหม่เพื่อซ่อมแซม เพิ่มสภาพคล่อง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชาและผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ โดยออกมาตรการเร่งด่วนที่ครอบคลุม ทั้งลูกค้าบุคคล ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการและลูกค้าผู้ประกอบการ SME โดยลูกค้าปัจจุบันสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash) พักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน รวมทั้งเพิ่มสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมบ้านสำหรับลูกค้าใหม่ ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ สามารถพักชำระหนี้สูงสุด 3 เดือน และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสูงสุด 3 เดือน สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ (SSME) สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการปัจจุบัน พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 3 เดือน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี


ขณะที่ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อใหม่ (ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี) สามารถขอสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการภายใต้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นอกจากนั้น ธนาคารมีโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม ผ่าน 4 มาตรการหลัก คือ พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 6 เดือน พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 3 เดือน เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว วงเงินสูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม และไม่เกิน 10 ล้านบาท วงเงินกู้สำหรับปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายของกิจการ สูงสุด 20% ของวงเงินเดิม ไม่เกิน 10 ล้านบาท 


ขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้ากรุงศรี ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยฉับพลันจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภา และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน โดยในส่วนลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อ SME รายย่อย จะลดค่างวด ครอบคลุมดอกเบี้ยจ่ายในแต่ละเดือน สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน หรือ พักชำระเงินต้น (ชำระเพียงดอกเบี้ย) สูงสุดระยะเวลา 3 เดือน ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME จะมีการลดค่างวด ครอบคลุมดอกเบี้ยจ่ายในแต่ละเดือน สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน หรือ พักชำระเงินต้น (ชำระเพียงดอกเบี้ย) สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน 


ลูกค้าสินเชื่อกรุงศรี ออโต้ พักชำระค่างวด เป็นระยะเวลา 3 เดือน ลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ พักชำระหนี้ นานสูงสุด 2 รอบบัญชี สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ โดยพักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 2 รอบบัญชี ระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน 2568 โดยระหว่างเข้าร่วมมาตรการพักชำระดังกล่าว ดอกเบี้ยยังคงคำนวณตามอัตราปกติแบบลดต้นลดดอก หรือ ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือน ด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ (ปรับปรุงโครงสร้างหนี้) 


ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทยกัมพูชามาก่อนหน้าแล้ว


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ