“พาณิชย์” จับมือ “เกษตร” ลุยทำแซนด์บ็อกซ์ แก้ไขปัญหาพื้นที่ปลูกข้าวไม่เหมาะสม สำรวจเบื้องต้นมีประมาณ 10 ล้านไร่ นำร่องบางพื้นที่ คัดสินค้าเกษตรมีอนาคต ให้เกษตรกรปลูกแทนข้าว หนุนสร้างรายได้เพิ่ม ส่วนพื้นที่เหมาะสม เดินหน้าส่งเสริมปลูกข้าวพรีเมียม พร้อมช่วยลดต้นทุน มั่นใจปีนี้ส่งออกข้าวเข้าเป้า 7.5 ล้านตัน
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการจัดทำแซนด์บ็อกซ์ เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสม โดยจะเน้นใน 3 พื้นที่ คือ พื้นที่ท่วม พื้นที่น้ำแล้ง และพื้นที่ทั้งท่วมและแล้ง ซึ่งเบื้องต้นจากการสำรวจพบว่า มีประมาณ 10 ล้านไร่ โดยจะนำร่องดำเนินการในบางพื้นที่ก่อน แล้วคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสมสำหรับนั้นๆ ไปให้เกษตรกรได้ทดลองเพาะปลูก ซึ่งต้องเป็นสินค้าเกษตรที่มีอนาคต หรือเป็นโปรดักส์แชมป์เปี้ยนในอีก 5 ปีข้างหน้า
“ตอนนี้ กรมการค้าภายในได้คุยกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว เพื่อคัดเลือกพื้นที่ แล้วจะไปคุยกับเกษตรกร ไม่ต้องปลูกข้าวได้มั้ย แต่รัฐจะสนับสนุนให้ปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน และพืชนั้นๆ ต้องเป็นสินค้ามีอนาคต เป็นสินค้าที่ตลาดต้องการ เป็นการเอาตลาดนำการผลิต ไม่ใช่ผลิตแล้วเอาไปขาย ต้องผลิตออกมาแล้วตลาดต้องการ ทั้งหมดนี้ พาณิชย์และเกษตรฯได้คุยกันในเบื้องต้นแล้ว ในเร็วๆ นี้ ผมจะเรียกมาคุยเพื่อหาข้อสรุปอีกที”
สำหรับการจัดทำแซนด์บ็อกซ์ดังกล่าว เป็นการเอาแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) มาทำงานร่วมกับแผนการตลาดของพาณิชย์ (Commerce Map) บวกกับแผนสิ่งแวดล้อม (Environment Map) ที่ดูว่าพื้นที่ใดเหมาะสม หรือไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าว แล้วมาประเมินร่วมกันทั้งหมดว่า พื้นที่นั้นเหมาะสมที่จะปลูกพืชอะไร แต่ไม่ใช่ว่าจะบังคับให้เกษตรกรเลิกปลูกข้าว แต่ถ้าพื้นที่นั้นไม่เหมาะที่จะปลูกข้าว ก็จะทำให้เห็นว่า ถ้าปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น จะมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าปลูกข้าว ทำเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรอื่นๆ ได้เห็น เพื่อเป็นแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยน
ส่วนพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกข้าวนั้น จะสนับสนุนให้ปลูกข้าวต่อไป แต่จะเน้นส่งเสริมให้ปลูกข้าวพรีเมียม ข้าวที่ตลาดต้องการ ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯในการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ตลาดต้องการ และจะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกต่อไป นอกจากนี้ ยังได้หาทางลดต้นทุนการเพาะปลูกให้กับเกษตรกร โดยล่าสุดได้เปิดตัวโครงการธงเขียว ซึ่งเป็นความร่วมมือกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ลดราคาสินค้าปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืช ซึ่งถือเป็นปัจจัยการผลิตหลักของเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีต้นทุนต่ำลงแล้ว
ด้านนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯกำลังร่วมมือกันพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ตลาดต้องการ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูก ซึ่งเป็นแผนระยะกลางและยาว แต่ในระยะสั้น กรมการค้าต่างประเทศได้เร่งหาตลาดส่งออก เพื่อผลักดันให้การส่งออกข้าวไทยในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7.5 ล้านตัน หลังจากช่วงครึ่งแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 68 ส่งออกข้าวได้แล้ว 3.73 ล้านตัน มูลค่า 75,563 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าลดลง 27.29% และ 36.45% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 67 ส่วนปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่านั้น มองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รู้อยู่แล้วว่าอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไรเหมาะสมกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับการส่งออกของประเทศ