คลังพร้อมลุย “คนละครึ่ง” ทันที ใช้งบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.5 หมื่นล้านได้เลย

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คลังพร้อมลุย “คนละครึ่ง” ทันที ใช้งบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.5 หมื่นล้านได้เลย

Date Time: 9 ก.ย. 2568 06:00 น.

Summary

“ลวรณ” ปลัดคลัง เผยเดินหน้า “คนละครึ่ง” ได้ทันที หลังรัฐบาลภูมิใจไทยแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการ ชี้ใช้งบกลางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปี 69 วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาทได้เลย ด้าน ผู้ว่าททท. หนุนรัฐทำ “คนละครึ่ง” และขอสานต่อ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ด้วย

Latest

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคนิวโลว์ 33 เดือน

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ ภายใต้รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยว่า หากรัฐบาลใหม่ดำเนินโครงการนี้จริง ภายหลังการแถลงนโยบายแล้ว สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะมีระบบรองรับอยู่แล้ว คือ แอปพลิเคชันเป๋าตัง สำหรับงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการนั้น หากเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.68 จะใช้งบกลางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของปี 69 ที่มีวงเงินอยู่ 25,000 ล้านบาท แต่หากต้องใช้งบประมาณมากกว่านั้น สามารถปรับเปลี่ยน โดยโยกงบจากงบประมาณกลางมาใช้ได้

ทั้งนี้ การเดินหน้าโครงการเฟสใหม่ อาจมีเพียงเปิดลงทะเบียนร้านค้าใหม่ แต่หากร้านค้าใด ที่เคยเข้าร่วมโครงการครั้งก่อนแล้วยังไม่ลบแอปฯถุงเงิน ก็ยังใช้งานต่อได้ เพราะยืนยันตัวตนไว้แล้ว หากนโยบายชัดเจน กระทรวงการคลังก็จะเปิดลงทะเบียนร้านค้าใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังปรับรายละเอียดโครงการได้อีก ขึ้นกับนโยบายรัฐบาล เช่น ปรับสัดส่วนใช้เงิน พิจารณาสินค้าที่ร่วมรายการ รัฐบาลต้องการให้ใช้ต่อเดือนเท่าใด เป็นต้น ส่วนจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงใด ขึ้นอยู่กับขนาดของโครงการว่าใส่เงินลงไปเท่าใด และให้ใช้เท่าไรต่อวัน ขณะนี้ยังเร็วไปที่จะประเมิน

“ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมาย รายละเอียดต่างๆ ได้ ต้องรอนโยบายรัฐบาล แต่ทางเทคนิค ระบบมีความพร้อม มีเงินงบประมาณรองรับ และพร้อมดำเนินการ”

ส่วนนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า สนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่นำโครงการ คนละครึ่งกลับมา เพราะจะช่วยกระตุ้นได้ทั้งภาคบริการ อาหาร และการท่องเที่ยว และเสนอให้ สนับสนุนต่อโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ซึ่งได้ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.68 มีนักท่องเที่ยวลงทะเบียนรับสิทธิ์ 2.14 ล้านคนใช้สิทธิ์สำเร็จ 484,130 สิทธิ์ ยังมีสิทธิ์คงเหลือ 15,874 สิทธิ์ จากทั้งสิ้น 500,000 สิทธิ์ ซึ่งตามกำหนดเดิมจะสิ้นเดือนก.ย.68 เมื่อถึงเวลานั้น จึงจะคำนวณได้ว่า ยังเหลือวงเงินที่จะใช้ได้อีกเท่าใด

ด้านนายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจบอบช้ำมานาน ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบหมด โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และพ่อค้าแม่ขายที่เป็นรากหญ้า เข้าใจว่า ช่วง 4 เดือนนี้ รัฐบาลใหม่คงแก้ปัญหาไม่ทัน แต่อยากให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยด่วน โดยระยะสั้น เร่งกระตุ้นใช้จ่ายปลายปี และวางแผนการท่องเที่ยวปีหน้าแบบบูรณาการ รวมถึงออกมาตรการพยุงเอสเอ็มอี ที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ซอมบี้ เพราะกระแสเงินสดหมดแล้ว และยังแบกดอกเบี้ยเงินกู้ตั้งแต่ช่วงโควิด

“อยากเห็นเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยการเพิ่มกำลังซื้อประชาชน พ่อค้าแม่ขายด้วยโครงการคนละครึ่ง พลัส เพราะจะช่วยพยุงเศรษฐกิจรากหญ้าได้ทันที รวมทั้งเร่งช่วยเอสเอ็มอี ร้านค้ารายย่อย ด้วยการใช้มาตรการภาษี โดยให้บุคคลธรรมดาเก็บใบกำกับภาษีจากร้านอาหารไปลดหย่อนภาษีได้ในปี 70 ไม่เกิน 20,000 และนิติบุคคลใช้ใบกำกับภาษีจากการจัดงานเลี้ยง ประชุมสัมมนา เลี้ยงรับรองไปลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้ไม่เกิน 200,000 บาท เร่งออกซอฟต์โลน ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ดอกเบี้ยไม่เกิน 2.5% รวมถึงทำแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปี 68 ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และภายในประเทศแบบเร่งด่วน และแผนระยะยาวของปี 69 เป็นต้น”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ