ชี้โครงการคนละครึ่งทุกคนมีสิทธิร่วมจ่าย เอกชนชมเปาะทำได้เร็ว

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ชี้โครงการคนละครึ่งทุกคนมีสิทธิร่วมจ่าย เอกชนชมเปาะทำได้เร็ว

Date Time: 11 ก.ย. 2568 06:25 น.

Summary

คลังเผยโครงการคนละครึ่งคนไทยทุกคนได้สิทธิ จะได้รับเงินอุดหนุนสูงสุดวันละ 150 บาท แต่คนยื่นแบบเสียภาษี อาจได้สิทธิ 60:40 ด้านส.อ.ท.ชมเปาะรัฐปัดฝุ่นมาตรการคนละครึ่ง

Latest

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคนิวโลว์ 33 เดือน

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการหารือกับทีมรัฐบาลว่า โครงการคนละครึ่งรอบใหม่จะให้สิทธิประชาชนคนไทยทุกคนในอัตรา 50:50 แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษีหรือยื่นแบบแสดงรายการภาษีจะได้รับการสนับสนุนในอัตราที่สูงกว่า อาจอยู่ที่ 60:40


ทั้งนี้ ผู้ที่ได้สิทธิมากกว่า คือผู้ที่อยู่ในระบบภาษีหรือยื่นแบบแสดงรายการภาษี ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่เสียภาษีจริงกับรัฐเท่านั้น โดยเงื่อนไขการใช้จ่ายเบื้องต้นจะไม่แตกต่างจากโครงการเดิมมากนัก แต่อาจมีลูกเล่นใหม่เพิ่มเติมให้น่าสนใจมากขึ้น ส่วนวงเงินการใช้จ่ายต่อวันและวงเงินรวมของโครงการยังไม่ได้ข้อสรุป


สำหรับแหล่งเงินทุน รัฐบาลมีวงเงินเหลือจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดก่อน 25,000 ล้านบาท ที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที หากใช้วงเงินนี้จะสามารถเดินหน้าโครงการได้เร็ว แต่ขนาดของโครงการจะขยายใหญ่กว่านี้หรือไม่ ต้องรอการตัดสินใจจากนโยบาย


"ยิ่งวงเงินมากยิ่งดี แต่ต้องพิจารณาว่าจะลงทุนในโครงการนี้หมดหรือเก็บไว้สำหรับโครงการอื่นด้วย" ปลัดคลังกล่าวและว่าโครงการคนละครึ่งที่ผ่านมากำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมไว้ 4 ข้อ ได้แก่ มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" โดยผู้เข้าร่วมได้รับเงินอุดหนุนสูงสุดวันละ 150 บาท หากซื้อสินค้า 200 บาท รัฐจ่าย 100 บาท ประชาชนจ่าย 100 บาท แต่หากซื้อสินค้า 500 บาท รัฐจ่ายสูงสุด 150 บาท ต้องจ่ายเอง 350 บาท


ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการคนละครึ่งเป็นโครงการดีระยะสั้น ช่วยเพิ่มกำลังซื้อด้วยการลดค่าใช้จ่าย ประเทศไทยมีแพลตฟอร์มพร้อม เพียงปรับเงื่อนไขเล็กน้อย ข้อดีสำคัญคือกระจายได้เร็ว กว้าง และลึก แตกต่างจากหลายมาตรการที่มีเงินจริงแต่กระจุกตัว การเพิ่มวงเงินเป็น 200 บาทตามข้อเสนอภาคธุรกิจ หรือการออกสูตร 60:40 และ 50:50 ถือเป็นเรื่องดี เพราะเป็นโครงการพิสูจน์ผลแล้วว่าได้ผลและเป็นที่นิยม

ทั้งนี้ปัญหาเศรษฐกิจส่งผลกระทบหนักสุดต่อเอสเอ็มอีและคนรากหญ้าที่ไม่ค่อยได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมา จึงต้องสร้างกำลังซื้อให้เงินลงถึงคนได้ลึกและกว้าง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่จะเป็นเครื่องยนต์สำคัญในครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน ปัจจุบันแม้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่เทียบปีก่อนยังลดลงมาก การใช้จ่ายกระจุกตัวเฉพาะ 5 จังหวัดใหญ่ในโรงแรม 4-5 ดาวของต่างประเทศ เงินไม่เป็นรายได้ของคนไทยเท่าที่ควร รัฐบาลจึงต้องเร่งนำเงินลงช่วยเหลือในช่วง 6 เดือนหลังเพื่อกระจายรายได้ให้ทั่วถึง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ