ททท.เตรียมดัน “ทัวร์ไทยคนละครึ่ง” รับมือบาทแข็ง กระตุ้นท่องเที่ยวไทย ก่อนบินไปเที่ยวนอก “ฐาปนีย์”ชี้อาจใช้เงินที่เหลือจาก โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” มาดำเนินการ
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “คนละครึ่งมาแรง บาทยังแข็งต่อเนื่อง กระทบตรง Inbound เห็นทีต้องมี ทัวร์ไทยคนละครึ่ง บ.ทัวร์เตรียมแพ็กเกจสุดว้าว ให้ชาวไทยได้เที่ยว”
พร้อมกันนี้ น.ส.ฐาปนีย์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ททท.ไม่ได้เพียงมองภาพเศรษฐกิจระดับมหภาค แต่ยังใส่ใจถึงกำลังซื้อของครัวเรือนไทยในทุกระดับ ขณะนี้ ททท.กำลังติดตามปัจจัยแวดล้อมสำคัญ ตั้งแต่ค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง นโยบายเศรษฐกิจมหภาค ไปจนถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เพื่อให้สามารถออกแบบแผนท่องเที่ยวที่สมดุล ทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Inbound) และการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยเอง
ปัจจุบัน ททท.ดำเนินโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ซึ่งจะสิ้นสุดสิ้นเดือนกันยายนนี้ และ ททท.กำลังพิจารณา อาจใช้งบประมาณคงเหลือจากมาตรการเดิมหากยังมีอยู่ โดยโครงการนี้ได้รับงบประมาณมาทั้งสิ้น 1,760 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าสนับสนุนโรงแรมที่พัก 1,500 ล้านบาท เงินค่าสนับสนุนคูปองดิจิทัล 250 ล้านบาท และค่าบริหารโครงการ 10 ล้านบาท โดยให้สิทธิผู้ร่วมโครงการ 500,000 สิทธิ ปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิไปแล้วประมาณ 416,762 สิทธิ โดยประชาชน 1 คนใช้ได้สูงสุด 5 สิทธิ โดยรัฐสนับสนุนค่าที่พัก 50% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท แต่ในทางปฏิบัติผู้ร่วมโครงการจะใช้ค่าที่พักเฉลี่ยคืนละ 1,200 บาท จึงคาดว่าจะมีเงินคงเหลือแต่ละรู้ว่าจำนวนเท่าใดแน่คงจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. นี้. อย่างไรก็ตาม ททท.จะเร่งนำเสนอรัฐบาลเพื่อผลักดันสู่การปฏิบัติทันก่อนเข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินบาทที่แข็งค่ากลายเป็นปัจจัยเร่งให้คนไทยหันไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นในช่วง 3 เดือนสุดท้าย
“มาตรการนี้ไม่เพียงจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและโอกาสให้คนไทยได้ท่องเที่ยว แต่ยังช่วยผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวให้สามารถพัฒนาสินค้าและแพ็กเกจใหม่ ๆ สร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวภายในประเทศแล้ว ยังสามารถต่อยอดไปสู่การสร้างเสน่ห์ใหม่ ๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะยาว”