เกมการเมืองไทยเปลี่ยน แต่ต่างชาติไม่สนเพราะ “ชิน” ตลท. ชี้เงินนอกยังไหลเข้า รอชง Jump+ รัฐบาลใหม่

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เกมการเมืองไทยเปลี่ยน แต่ต่างชาติไม่สนเพราะ “ชิน” ตลท. ชี้เงินนอกยังไหลเข้า รอชง Jump+ รัฐบาลใหม่

Date Time: 4 ก.ย. 2568 14:14 น.

Video

ทำไมกองทุนประกันสังคมเสี่ยงล้มละลาย ? | Thairath Money Night Stand EP.8

Summary

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้การเมืองชัดเจนหนุนความเชื่อมั่น ดึง Fund Flow เข้าหุ้นไทย ชี้ Valuation น่าสนใจ แนะนักลงทุนจับตานโยบายเฟดและปัจจัยต่างประเทศเป็นความเสี่ยงสำคัญ

Latest


ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนจากประเด็นการเมืองในประเทศ นักลงทุนกำลังจับตามองตลาดหุ้นไทยอย่างใกล้ชิด ว่าทิศทางในช่วงที่เหลือของปีจะเป็นอย่างไร

โดย "สัญญาณบวก" สำคัญเกิดขึ้น นั่นคือ ความชัดเจนทางการเมืองในประเทศที่เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนกลับมามองตลาดหุ้นไทยด้วยความหวังอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สนามการลงทุนยังคงมีปัจจัยท้าทายจากต่างประเทศที่เราไม่สามารถละสายตาได้ โดยเฉพาะนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมถึงการตัดสินคดี “ภาษีทรัมป์” ของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด


หุ้นไทยยังน่าสนใจ การเมืองชัดเจนขึ้น แนะจับตาทิศทาง “เฟด”

ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และโครงการกลยุทธ์ หัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน และหัวหน้ากลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยทิศทางตลาดทุนไทยในช่วงที่เหลือของปี 2568 ว่า ปัจจัยทางการเมืองในประเทศที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณบวกที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

แม้ตลาดในเดือนสิงหาคมจะมีความผันผวน แต่ดัชนีปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย และยังมีกระแสเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าอยู่บ้าง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดทุนต้องการความชัดเจนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ดร.ศรพล กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีความชัดเจนขึ้นมาก สิ่งที่เคยคลุมเครือเริ่มมีทิศทางที่แน่นอน ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดทุนโดยตรง จะเห็นได้ว่าดัชนีไม่ผันผวนรุนแรง

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ สะท้อนจากงาน "Thailand Focus" ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีนักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมถึง 180 ราย จาก 75 กองทุนทั่วโลก

นอกจากนี้ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ได้ผ่านการพิจารณาของสภาฯ แล้ว ทำให้โครงการต่างๆ ของภาครัฐสามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง โดยเฉพาะจะช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ว่าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ อย่างไร แต่มองว่าในระดับ 19% นั้น แม้จะมีผลกระทบ แต่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศคู่เทียบ ทำให้ประเทศไทยยังสามารถแข่งขันได้

สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในช่วงที่เหลือของปี ปัจจัยใหญ่ที่สุดยังคงเป็นเรื่องของ นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลก ซึ่งจากมุมมองประธานเฟดที่ผ่านมา ทำให้นักวิเคราะห์ฯ ต่างคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในปีนี้อีกอย่างน้อย 1 ครั้ง

นอกจากประเด็นของเฟดแล้ว ยังต้องติดตามคือ สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะคำตัดสินของศาลฯ ว่าการเก็บภาษีการค้าผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากผิดจริงอาจส่งผลกระทบเชิงบวกต่อภาพเศรษฐกิจและตลาดทุน

ดร.ศรพล กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่อยากฝากรัฐบาลชุดใหม่คือ การสื่อสารที่ชัดเจน เกี่ยวกับนโยบายที่จะดำเนินการ เพราะการสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก


ต่างชาติ “ชิน” การเมืองไทย - ผลักดัน “Jump+” ต่อ

อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ความแน่นอนของนโยบาย เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องการมากที่สุด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติมีความคุ้นเคยกับการเมืองไทยเป็นอย่างดี การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจึงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการผลักดันให้นโยบายที่ประกาศไว้เกิดขึ้นได้จริง เพื่อลดความไม่แน่นอนของโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต

แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่จะเห็นได้ว่าปริมาณการซื้อขายและกระแสเงินทุน (Fund Flow) ในเดือนสิงหาคมยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทย เหตุผลสำคัญคือพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยยังคงมีความน่าสนใจ และที่สำคัญ Valuation ของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก เมื่อเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้าแล้ว จึงเป็นปัจจัยดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อ

สำหรับหุ้น IPO ที่เตรียมเข้าระดมทุนนั้น บริษัทต่างๆ ยังคงมีการศึกษาและประเมินตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น ก็ยังมีโอกาสที่จะได้เห็น IPO ที่น่าสนใจเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ภายในปลายปีนี้ หรืออย่างช้าที่สุดในช่วงต้นปีหน้า

นอกจากนี้ ตลท. จะเดินหน้าผลักดันโครงการ Jump+ และโครงการ TISA นำเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้ช่วยสนับสนุนมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมต่อไป


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ