ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรง สะท้อนภาพความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมือง ภายใต้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรีแต่ละสมัย ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยท้าทายที่แตกต่างกัน
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรง สะท้อนภาพความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมือง ภายใต้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรีแต่ละสมัย ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยท้าทายที่แตกต่างกัน
ตั้งแต่วิกฤติการณ์ทางการเมือง การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไปจนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ความผันผวนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานในแต่ละยุค
และส่งผลให้ การเข้ารับตำแหน่งของ อนุทิน ชาญวีรกูล ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะซบเซานั้น จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญ และเป็นที่จับตามองของทุกภาคส่วนว่าจะสามารถพลิกฟื้นบรรยากาศการลงทุนและทิศทางเศรษฐกิจของประเทศได้สำเร็จหรือไม่
การดำรงตำแหน่งที่ยาวนานของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบ่งออกเป็น 2 สมัย ซึ่งตลาดหุ้นมีทิศทางแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สมัยที่ 1 เป็นช่วงเวลาของการฟื้นตัวหลังสถานการณ์การเมือง ตลาดหุ้นโดยรวมสามารถปรับตัวขึ้นเป็นบวกได้ โดยมีนโยบายสำคัญคือการวางรากฐานโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เพื่อดึงดูดการลงทุนในระยะยาว
สมัยที่ 2: เป็นยุคที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งประวัติศาสตร์อย่างการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดในรอบหลายปี รัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อประคองกำลังซื้อของประชาชนเป็นหลัก
เศรษฐา ทวีสิน เข้ารับตำแหน่งด้วยความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ผ่านนโยบายเรือธงอย่าง "ดิจิทัลวอลเล็ต" อย่างไรก็ตาม ตลอดเกือบ 1 ปีของการดำรงตำแหน่ง ตลาดหุ้นกลับปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายภายในประเทศที่สำคัญ
แพทองธาร ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่ตลาดหุ้นยังคงอยู่ในภาวะซบเซา โดยพยายามสานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลก่อนหน้า พร้อมผลักดันนโยบายลดค่าครองชีพด้านการเดินทาง แต่สุดท้ายก็ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
อนุทิน ชาญวีรกูล เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาที่ดัชนีตลาดหุ้นอยู่ในระดับต่ำ และยังคงต้องรอการแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการต่อรัฐสภา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจประเทศต่อไป นโยบายที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก คือการนำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาอีกครั้ง
โดยเริ่มดำรงตำแหน่งวันที่ 7 กันยายน 2568 ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นที่ 1,264.80 จุด ท่ามกลางความท้าทายด้านปัญหาเศรษฐกิจ สงครามการค้า และข้อตกลงยุบสภาภายใน 4 เดือน
การเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ อนุทิน ชาญวีรกูล เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจและการลงทุนของไทยอยู่บนทางแยกสำคัญ หลังจากผ่านทศวรรษแห่งความผันผวน เป็นบทพิสูจน์ของรัฐบาลชุดใหม่ที่ทุกภาคส่วนต้องติดตามกันต่อไป
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้