เด็กไทยเน้นเรียนนอกเพิ่มขึ้น YouTrip เปิดอินไซต์ ค่าเล่าเรียน-ค่าครองชีพ เฉียดล้านต่อปี

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เด็กไทยเน้นเรียนนอกเพิ่มขึ้น YouTrip เปิดอินไซต์ ค่าเล่าเรียน-ค่าครองชีพ เฉียดล้านต่อปี

Date Time: 11 ก.ค. 2568 15:41 น.

Video

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 50 ปี ขยายโอกาสตลาดทุน เปลี่ยนอนาคตด้วยความรู้การเงิน | Money Issue EP.39

Summary

แม้เศรษฐกิจโลกจะผันผวน แต่ครอบครัวไทยยังคงมองว่าการศึกษาต่างประเทศเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า YouTrip เผยยอดชำระค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในต่างแดนพุ่งสูงถึง 70% ชี้ชัดนักเรียนไทยใน UK ใช้จ่ายสูงสุด และมีพฤติกรรมปรับตัวสู่การทำอาหารเองมากขึ้นเพื่อรับมือค่าครองชีพที่สูงขึ้น

Latest


แม้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะลดลงและความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาคยังคงดำเนินอยู่ แต่ครอบครัวไทยยังคงมองว่าการศึกษาในต่างประเทศเป็นการลงทุนระยะยาวที่สำคัญสำหรับอนาคตของบุตรหลาน 

ด้วยเหตุนี้ YouTrip ผู้ให้บริการดิจิทัลวอลเล็ตและ Travel card อันดับ 1 ที่นักเดินทางไทยไว้วางใจ ซึ่งร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย ได้ก้าวขึ้นเป็นบริการทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับการจัดการค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในต่างประเทศ


เจาะลึกพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักเรียนไทยในต่างแดน


โดยการเติบโตของยอดการชำระค่าเล่าเรียนผ่าน YouTrip เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 70% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงบทบาทของ YouTrip ในฐานะ “ผู้นำด้านการชำระเงินระหว่างประเทศ” ที่ครอบครัวและนักเรียนต่างวางใจ ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความผันผวน

จากสถิติของ YouTrip พบว่านักเรียนไทยในสหราชอาณาจักร (UK) ถึง 54% ใช้ YouTrip เป็นช่องทางการชำระเงินหลักสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายประจำวัน เนื่องจากตอบโจทย์ในการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศด้วยเรทที่ดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่างจากบัตรเครดิต จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่นักเรียนไทยเลือกใช้เวลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ  

ส่วนสถาบันการศึกษาชั้นนำใน UK ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนไทย ได้แก่ Imperial College London, King's College London, London School of Economics และ Leeds University

นอกจาก UK แล้ว นักเรียนไทยยังคงเลือกศึกษาต่อในหลักสูตรเต็มเวลา (ระดับปริญญาตรี โท และเอก) ในสหรัฐอเมริกา (US) ออสเตรเลีย และแคนาดา โดยมีนักเรียนไทยเข้าศึกษาต่อในสถาบันที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น

  • สหรัฐอเมริกา: Berklee College of Music, UCLA, MIT และ Harvard Business School

  • ออสเตรเลีย: RMIT University, Swinburne University, Macquarie University, University of Queensland, University of Sydney และ Monash University

  • แคนาดา: Douglas College, Centennial College และ Langara College

สำหรับโปรแกรมแลกเปลี่ยนระยะสั้น (Summer School) จุดหมายในเอเชียก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในประเทศจีนมีจำนวนนักเรียนไทยเข้าร่วมเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น หลักสูตรระยะสั้นของ Zhongnan University (Wuhan), South China University of Technology และ Zhejiang University

ค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณา: ค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ

สำหรับปีการศึกษา 2568/2569 

  • ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรีเต็มเวลาที่ Harvard (สหรัฐอเมริกา): ประมาณ 2.8 ล้านบาท

  • King's College London (สหราชอาณาจักร): ประมาณ 2.4 ล้านบาท

  • South China University of Technology ในจีน : ประมาณ 900,000 บาท

แม้ค่าเล่าเรียนจะเป็นองค์ประกอบสำคัญของค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อต่างประเทศ แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ปกครองและนักเรียนต้องพิจารณาอย่างรอบด้านคือ ค่าครองชีพ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการวางแผนงบประมาณตลอดระยะเวลาที่ศึกษา 

โดยคาดการณ์ค่าครองชีพรายปีสำหรับนักเรียนที่ไปศึกษาต่อ

  • สหรัฐอเมริกา ประมาณ 540,000 – 670,000 บาท 

  • สหราชอาณาจักร ประมาณ 330,000 – 580,000 บาท

  • จีน ประมาณ 332,000 บาท 

พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักเรียนสะท้อนวิถีชีวิตในต่างแดนและแรงกดดันด้านค่าครองชีพที่สูงขึ้น

จากสถิติของ YouTrip พบว่า “การช้อปปิ้ง” เป็นหมวดค่าใช้จ่ายอันดับแรกของนักเรียนไทยในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาสิ่งของเข้าที่พัก ไปจนถึงการให้รางวัลตัวเองด้วยสินค้าแบรนด์เนมหรือของสะสมยอดนิยมอย่าง Pop Mart ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในทุกประเทศที่นักเรียนไทยไปเรียน โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรที่นักเรียนมีแนวโน้มใช้จ่ายกับสินค้าหรูมากกว่าประเทศอื่น เนื่องจากราคาที่ดึงดูดใจและอยู่ใกล้ศูนย์กลางการช้อปในยุโรป แม้จะมีการใช้จ่ายเพื่อความเพลิดเพลิน แต่นักเรียนไทยส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย มักเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าท้องถิ่นเพื่อความประหยัด และมองหาสินค้าที่ไม่มีในประเทศไทย

รองจากหมวดช้อปปิ้ง ค่าใช้จ่ายที่พบได้บ่อย คือการรับประทานอาหารนอกบ้านและการซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปตามวิถีชีวิตของแต่ละประเทศปลายทาง โดยเฉพาะค่าอาหารและความบันเทิงที่มีความหลากหลายสูง ทั้งในแง่ราคาและพฤติกรรมการใช้จ่าย สะท้อนค่านิยมและสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

นักเรียนไทยเลือกทำอาหารรับประทานเองมากขึ้น

นักเรียนไทยที่ศึกษาในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะเลือกทำอาหารรับประทานเองมากขึ้น เนื่องจากค่าครองชีพโดยเฉพาะค่าอาหารนอกบ้านมีราคาสูง โดยในเมืองใหญ่อย่างลอนดอนและซิดนีย์ การไปรับประทานอาหารในร้านอาจมีค่าใช้จ่ายสูงเป็นสองเท่าของการซื้อวัตถุดิบจากซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น เช่น Tesco (สหราชอาณาจักร) และ Coles (ออสเตรเลีย) เพื่อประกอบอาหารเองที่บ้าน

ในทางตรงกันข้าม นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะทำอาหารเองและรับประทานอาหารนอกบ้านในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดชื่อดังที่ตั้งราคาเข้าถึงง่าย เช่น Shake Shack และ In-N-Out นอกจากนี้วัฒนธรรมการให้ทิปในสหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่เลือกบริโภคอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดมากกว่าการนั่งร้านอาหาร เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

อีกหนึ่งพฤติกรรมที่พบเหมือนกันในทุกประเทศปลายทาง คือความรักในอาหารไทยและอาหารเอเชียของนักเรียนไทย ซึ่งนำไปสู่การแวะเวียนหาร้านอาหารเอเชีย เช่น Panda Express เพื่อเติมเต็มรสชาติที่คุ้นเคยระหว่างการใช้ชีวิตในต่างแดน

การเรียนต่อต่างประเทศยังเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สำรวจประเทศใหม่ๆ ไปพร้อมกับการเรียนรู้ นับเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่หลายคนให้ความสำคัญ ในสหราชอาณาจักร นักเรียนสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนลดนักเรียนและการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายด้านความบันเทิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในออสเตรเลียและแคนาดา นักเรียนมักใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีต้นทุนต่ำ เช่น การเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ หรือการท่องเที่ยวชายหาดธรรมชาติ ตอบโจทย์ทั้งในด้านประสบการณ์และความคุ้มค่า

ในทางตรงกันข้าม นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาจำนวนไม่น้อยมีค่าใช้จ่ายด้านกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นเกือบสองเท่า เช่น ราคาบัตรเข้า Disneyland ในสหรัฐฯ สูงกว่าทัวร์ Great Ocean Road แบบครบวงจรในออสเตรเลียมากกว่าสองเท่า ทั้งนี้ประเทศจีนถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเรียนมีค่าใช้จ่ายรวมต่ำที่สุด ปัจจัยสำคัญมาจากค่าครองชีพที่ไม่สูง และค่าท่องเที่ยวที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้นักเรียนสามารถใช้ชีวิตและท่องเที่ยวได้อย่างประหยัดกว่าประเทศอื่นอย่างเห็นได้ชัด

YouTrip ผู้ช่วยในการบริหารจัดการสกุลเงินสำหรับนักเรียนและผู้ปกครอง

เนื่องจากความต้องการศึกษาต่อต่างประเทศยังคงมีอยู่สูง การบริหารจัดการสกุลเงินอย่างชาญฉลาดจึงมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับครอบครัวที่วางแผนค่าใช้จ่ายในต่างประเทศ

จุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย กล่าวว่า แม้ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาต่อต่างประเทศจะดูเป็นภาระที่หนักในช่วงแรก แต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ไม่เพียงเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพ หากยังรวมถึงโอกาสในการเติบโตและการเรียนรู้ และเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน แต่ครอบครัวจำนวนมากยังคงให้ความสำคัญกับการศึกษา เพราะผลตอบแทนจากการเรียนรู้ประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการปรับตัวในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โอกาสในระดับสากล หรือการเสริมสร้างศักยภาพที่พร้อมรับอนาคต 

ดังนั้น YouTrip เรามุ่งมั่นสนับสนุนนักเรียนและผู้ปกครองให้สามารถก้าวผ่านการลงทุนครั้งสำคัญนี้ได้อย่างราบรื่นข้ามพรมแดน เพื่อให้เรื่องของการเงินไม่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโต เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงิน YouTrip จัดกิจกรรมโรดโชว์ด้านการศึกษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้นักเรียนไทยได้รับความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับการจัดการอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่าย ความพยายามเหล่านี้ส่งผลให้นักเรียนไทยมีความรู้ทางการเงินมากขึ้น โดยนักเรียนไทย 3 ใน 5 คนติดตามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างกระตือรือร้นและแลกเงินบาทล่วงหน้าเป็นสกุลเงินปลายทางเพื่อล็อกอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี

YouTrip ยังตระหนักถึงความต้องการเงินสดในยามฉุกเฉิน ด้วยเหตุนี้ จึงมีบริการถอนเงินจากตู้ ATM ฟรี (สูงสุด 50,000 บาทต่อเดือน) เพื่อให้นักเรียนมีความยืดหยุ่นทางการเงิน ความปลอดภัย และความสบายใจเพิ่มเติมในขณะที่อยู่ต่างประเทศ

แคมเปญ Student Perks เรียนนอกแบบ Smart  มอบ Cashback เพื่อสนับสนุนผู้ปกครองและนักเรียน

เพื่อช่วยผู้ปกครองและนักเรียนจัดการค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อต่างประเทศ YouTrip จึงนำโปรโมชันเงินคืนสำหรับการชำระค่าเล่าเรียนในสกุลเงินต่างประเทศกลับมาอีกครั้ง โดยนักเรียนสามารถรับเงินคืนสูงสุด 2,000 บาท สำหรับค่าเล่าเรียนที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศที่ชำระระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ถึง 31 สิงหาคม 2568 โดยมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 150,000 บาทต่อครั้ง นักเรียนแต่ละคนสามารถใช้สิทธิ์ได้สูงสุดสองครั้ง (เงินคืนครั้งละ 1,000 บาท) ตลอดระยะเวลาแคมเปญ

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ